ทะเบียนประวัติอาชญากรและระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Loading

ในกรณีที่การดำเนินการตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมบุคคลพบข้อมูลการกระทำผิดในทะเบียนประวัติอาชญากรของบุคคลที่หน่วยงานของรัฐจะรับบรรจุ แต่งตั้ง หรือว่าจ้าง หรืออยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติราชการ หน่วยงานของรัฐนั้นอาจเปิดโอกาสให้มีการนำผลการสิ้นสุดคดีความหรือให้มีการติดตามผลคดีที่ชัดเจน เพื่อมาประกอบการพิจารณาด้วย เพราะ ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ.2554 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2554 บทที่ 4 การคัดแยกและทำลายแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ และรายการประวัติหรือบัญชีประวัติ ข้อ 1 โดยการแสดงข้อมูลผลคดีความนี้ อาจแจ้งให้เจ้าของประวัตินำผลคดีมาแสดงเองหรือโดยการขอรับการสนับสนุนผลคดีไปยังหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบก็ได้ หากผลคดีเป็นไปตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว ถือได้ว่าบุคคลนั้นมิได้ขาดคุณสมบัติใดๆ ทางราชการในการบรรจุ แต่งตั้ง หรือว่าจ้างได้ ข้อมูลตามทะเบียนประวัติอาชญากร เมื่อมีการจัดทำขึ้นแล้ว จะถูกจัดเก็บไว้ เมื่อมีการสั่งฟ้องดำเนินคดี มีคำพิพากษา ก็จะทำการลงบันทึกถึงผลการดำเนินคดี ได้แก่ ศาลสั่งยกฟ้อง หรือสั่งลงโทษ ก็จะลงต่อท้ายไว้ กรณีที่จะถูกจัดทำทะเบียนประวัติอาชญากรมาจาก 2.1 การทำความผิดทางอาญาทุกชนิด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินคดี จะต้องมีการทำประวัติอาชญากรรม 2.2 ประวัติอาชญากรรมจะจัดทำเมื่อตั้งข้อกล่าวหาตั้งแต่ในชั้นตำรวจ หรือผู้เสียหายดำเนินการฟ้องร้องเอง จะจัดทำในชั้นที่ศาลสั่งว่าคดีมีมูล บุคคลหรือหน่วยงานที่มีส่วนได้เสียกับเจ้าของประวัติ สามารถขอตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ โดยเฉพาะที่เป็นหน่วยงานของรัฐต้นสังกัด เพราะมีหน้าที่ต้องจัดเก็บข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อมิให้เกิดความเสื่อมเสียหรือเสียหายแก่เจ้าของประวัติ ถึงแม้จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรก็ตาม ทั้งนี้…

แฉแฮกเกอร์จีนล้วงตับอาเซียนมานานนับทศวรรษ

Loading

เว็บไซต์เวียดนามนิวส์รายงานว่า ไฟร์อาย บริษัทด้านความมั่นคงเครือข่ายของสหรัฐอเมริกาค้นพบว่า มีการสอดแนมทางไซเบอร์เพื่อจารกรรมข้อมูลอ่อนไหวจากอินเดียและบางประเทศในอาเซียน ซึ่งรวมถึงเวียดนามมาเป็นเวลานานกว่าทศวรรษแล้ว โดยในการประชุมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับรายงานเรื่องนี้ ที่ชื่อว่า “เอพีที30 และกลไกของปฏิบัติการสอดแนมไซเบอร์ที่ดำเนินมาเป็นเวลานาน” จัดขึ้นที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ไฟร์อายเปิดเผยรายละเอียดว่ากลุ่มแฮกเกอร์ เอพีที30 ที่เชื่อว่าเป็นของรัฐบาลจีน ปฏิบัติการโจมตีคอมพิวเตอร์หลายพันเครื่องในเวลาเดียวกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อขโมยข้อมูลที่อ่อนไหวจากหลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม ไทย เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซียได้อย่างไร รายงานระบุว่า เอพีที30 ใช้ประโยชน์จากพัฒนาการทางการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเลือกปฏิบัติการในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน การหารือระดับภูมิภาคอื่นๆ อาทิ กรณีพิพาทด้านพรมแดนระหว่างจีน อินเดียและชาติอื่นๆ ในเอเชีย โดยพบมัลแวร์หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ มากกว่า 200 ตัวที่ออกแบบโดยเอพีที30 ทำงานอยู่ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่อยู่ในที่ทำการสำคัญทั้งของรัฐบาลและธุรกิจเอกชนในเวียดนามหลายแห่ง นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวที่รายงานข่าวสภาพเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิทธิมนุษยชน การคอร์รัปชั่น กองทัพ และกรณีพิพาทเขตแดนทั้งทางบกและทางทะเลของจีน ก็ตกเป็นเป้าด้วย โดยปฏิบัติการจารกรรมเหล่านี้ สามารถสืบสาวร่องรอยย้อนหลังไปได้ไกลถึงปี 2548   —————————————————– http://www.matichon.co.th วันที่ 28 พฤษภาคม 2558

เผยมีทหารญี่ปุ่น ที่ถูกส่งไปสนับสนุนสงครามอิรัก-อัฟกานิสถาน และในมหาสมุทรอินเดีย ฆ่าตัวตาย 54 นายในช่วง 10 ปี

Loading

เจแปน ทูเดย์ และสำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นในต่างแดน นายเกน นาคาทานิ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ได้เผยตัวเลขทหารที่ฆ่าตัวตายหลังถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ช่วงปี 2544-2553 ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 54 นาย จำนวนนี้ 25 นายสังกัดหน่วยนาวิกโยธิน ที่เข้าร่วมภารกิจเติมน้ำมันในมหาสมุทรอินเดีย   ส่วนที่เหลือ ประกอบด้วยกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดิน 21 นาย กับกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศ 8 นาย ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับภารกิจมนุษยธรรม กำลังบำรุง และการบูรณะฟื้นฟูในอิรัก แต่ยากจะโยงสาเหตุการฆ่าตัวตายกับภารกิจในต่างแดนอย่างเดียว เนื่องจากการปลิดชีวิตตนเอง มักมีหลายปัจจัยประกอบกัน และทั้งหมดฆ่าตัวตายหลังกลับถึงญี่ปุ่นแล้ว   รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเผยตัวเลขนี้ ขณะตอบกระทู้ของนายคาซูโอะ ชิ ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ที่กังวลเกี่ยวกับสภาพอารมณ์และจิตใจของทหารที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจต่างแดน   ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎหมายพิเศษว่าด้วยการต่อต้านก่อการร้ายเมื่อตุลาคม 2544 เปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น เข้าไปมีส่วนร่วมกับภารกิจเติมน้ำมันในมหาสมทุรอินเดีย เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายนำโดยสหรัฐ ในและรอบอัฟกานิสถาน โดยมีทหารญี่ปุ่นกว่า 22,000 นายที่มีส่วนร่วมภารกิจเหล่านี้ช่วงปี 2544-2553   —————————————————– http://www.…

เพนตากอนพลาด! ส่งเชื้อแอนแทรกซ์มีชีวิตไปแล็บสหรัฐฯ-เกาหลีใต้

Loading

ห้องแล็บของกองทัพสหรัฐฯ พลาดส่งตัวอย่างเชื้อแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ไปยังแล็บต่างๆในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยมีผู้ที่อาจสัมผัสกับเชื้อร้ายตัวนี้แล้วหลายสิบคน…   สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘เพนตากอน’ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับเมื่อวันพุธ (27 พ.ค.) ว่า กองทัพทำเรื่องผิดพลาดด้วยการส่งตัวอย่างเชื้อแบคทีเรีย ‘แอนแทรกซ์’ ที่ยังมีชีวิตอยู่จากห้องแล็บของกระทรวงกลาโหมในรัฐยูทาห์ ไปยังแล็บอื่นๆ 9 แห่งทั่วประเทศ และที่ฐานทัพอากาศของสหรัฐฯในประเทศเกาหลีใต้ ตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่ามีความเสี่ยงต่อสาธารณะน้อยมาก   พันเอกสตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน เผยว่า อาจมีเจ้าหน้าที่ของฐานทัพอากาศ โอซาน ในเกาหลีใต้ 22 คนสัมผัสเชื้อตัวนี้ระหว่างการฝึกในห้องทดลอง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่ามีการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ได้มีการใช้มาตรการทางการแพทย์ที่เหมาะสม รวมทั้ง การตรวจร่างกาย, ให้ยาปฏิชีวนะ และวัคซีน เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อนแล้ว   ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาเริ่มการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดย น.ส.แคธี ฮาร์เดน โฆษกซีดีซี กล่าวว่า ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนจะถูกส่งไปยังแล็บของซีดีซี เพื่อการทดสอบเพิ่มเติม…

เยอรมนีอพยพหนีระเบิด

Loading

เยอรมนีอพยพประชาชนราว 2 หมื่นคนในเมืองโคโลญจ์เพื่อปลดชนวนระเบิดสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อดำเนินการปลดชนวนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งพบระหว่างการก่อสร้างภายในเมืองโคโลญจน์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางการเยอรมนีอพยพประชาชนราว 2 หมื่นคนออกจากพื้นที่พักอาศัยในเมืองโคโลญจน์ ทางภาคตะวันตกของประเทศเยอรมนี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการปลดชนวนลูกระเบิดในช่วงสงคราม 2 ซึ่งถูกค้นพบอยู่ลึกลงไปใต้ดินราว 5 เมตรริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ใกล้กับสะพานมูลไฮม์ รายงานระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรจากจุดพบลูกระเบิด ได้รับแจ้งเตือนจากทางการให้อพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน รวมถึงสวนสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าวปิดทำการในวันเดียวกัน โดยมีตำรวจหลายร้อยนาย นักดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการ ซึ่งต่อมารัฐบาลท้องถิ่นเมืองโคลญจน์ประกาศว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและระเบิดถูกปลดชนวนสำเร็จ