เป้าหมายที่ต้องกำหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัยขึ้นก็เพื่อควบคุมและป้องกันการกระทำของบุคคลที่อาจเป็นภัยหรือเป็นภัย ดังนั้น ในส่วนของเป้าหมายการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ จึงเป็นการกำหนดขอบเขตของพื้นที่ เพื่อดำเนินการป้องกันบุคคลที่จะก่อให้เกิดภัย อันตราย และการกำหนดระเบียบปฏิบัติสำหรับการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ก็เป็นแนวทางปฏิบัติให้บุคคลยึดถือและกระทำตาม เพื่อป้องกันภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นทั้งจากคนหรือธรรมชาติ
จากสภาพสังคมในปัจจุบัน การรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ได้กลายเป็นมาตรการที่จำเป็นต้องดำเนินการโดยบุคคล ประกอบกับการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และวิทยาการสมัยใหม่มาเสริมการปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถป้องปราม หน่วงเหนี่ยว และป้องกันภัยอันตรายและการคุกคามในรูปแบบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม การรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องมีการวางแนวทางและกำหนดวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานที่นั้นๆ ฉะนั้น ก่อนที่จะการกำหนดแนวทางการรักษาความปลอดภัยสถานที่ จึงต้องทำการสำรวจและตรวจสอบข้อเท็จจริงของสถานที่ตั้ง บริเวณโดยรอบ และสภาพแวดล้อม เพื่อหารายละเอียดเกี่ยวกับจุดอ่อน-จุดแข็งของที่ตั้งเหล่านั้น ตลอดจนสภาพแวดล้อมและข้อแม้ต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการรักษาความปลอดภัยสถานที่ที่จะดำเนินการ
จุดมุ่งหมายในการกำหนดแนวทางการรักษาความปลอดสถานที่ เพื่อควบคุมบุคคลที่อาจเป็นหรือเป็นภัยมิให้ล่วงล้ำเข้ามาในบริเวณพื้นที่ตั้ง รวมทั้งอาคารสิ่งก่อสร้างภายในพื้นที่ตั้ง แบ่งออกเป็น
- ป้องปรามและป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วยความประมาท เลินเล่อ ความบกพร่อง หรือด้วยความตั้งใจทำลายต่อสถานที่และบริเวณโดยรอบของที่ตั้งของหน่วยงานของรัฐ เช่น อาคารสำนักงาน สถานที่จ่ายหรือที่ตั้งถังจัดเก็บเชื้อเพลิง โรงเก็บวัสดุและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ โรง เก็บสารเคมี โรงผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อน อ่างเก็บน้ำ เป็นต้น หรือพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ เช่น ที่ตั้งสำนักงานของหน่วยงานของรัฐ โดยเช่าพื้นที่อาคารของเอกชน ซึ่งอาจจะใช้ทั้งอาคารหรือบางส่วนของอาคาร ทั้งนี้ให้พิจารณารวมถึงภัยธรรมชาติที่อาจสร้างความเสียหายอีกด้วย
- ป้องกันอุบัติภัยและปกป้องจากการคุกคามทุกรูปแบบต่อบุคคลสำคัญ ที่เข้าสู่พื้นที่ตั้งของหน่วยงานของรัฐหรือสถานที่ซึ่งหน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ เช่น อาคารของหน่วยงานของรัฐหรือ หน่วยงานของรัฐใช้พื้นที่อาคารของเอกชน เพื่อการจัดกิจกรรม ซึ่งมีบุคคลสำคัญจากภายในและภายนอกประเทศมาเข้าร่วม เป็นต้น
เมื่อกำหนดดำเนินการสำรวจการรักษาความปลอดภัยสถานที่ให้กับหน่วยงานของรัฐที่จะวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่แล้ว การดำเนินการในชั้นต้น คือ การประเมินภารกิจของหน่วยงานของรัฐที่กำหนดวางมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่ เพื่อกำหนดระดับของการรักษาความปลอดภัยสถานที่ขึ้นอยู่กับความสำคัญและความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดภัยอันตราย เพื่อจะได้กำหนดมาตรการการรักษาความปลอดภัยสถานที่ให้เหมาะสมกับ
- ระดับความสำคัญของหน่วยงานของรัฐ
1.1 หน้าที่ความรับผิดชอบและภารกิจของหน่วยงานของรัฐนั้น
1.2 ทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ในการครอบครอง เก็บรักษา หรือดูแล
1.3 บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นชาวไทยและต่างชาติ
- ระดับความสำคัญของกิจกรรมที่จะจัดขึ้นในพื้นที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐหรือพื้นที่ของภาคเอกชน
2.1 บุคคลสำคัญของประเทศเข้าร่วมกิจกรรม
2.2 บุคคลสำคัญของประเทศและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรม โดยเป็นกิจกรรมระดับประเทศ เช่น งานสโมสรสันนิบาต
2.3 บุคคลสำคัญของประเทศและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรม โดยเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาล เช่น การประชุมสัมมนาระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงจากประเทศต่างๆ หรือจากองค์การระหว่างประเทศ
2.4 บุคคลสำคัญของประเทศและต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรม โดยเป็นกิจกรรมระดับนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลหรือองค์การระหว่างประเทศ โดยมีผู้นำประเทศเข้าร่วม เช่น การประชุมระดับผู้นำของกลุ่มประเทศอาเซียน
ปัจจัยหลักที่ต้องยึดถือ เมื่อต้องดำเนินการสำรวจเพื่อการรักษาความปลอดภัยสถานที่ ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงก่อนวางแนวทางป้องกันและป้องปราม มีดังนี้
- ภัยธรรมชาติหรืออุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น ให้พิจารณา
1.1 โอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้ เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่แห้งแล้งและบริเวณโดยรอบมีเชื้อเพลิงธรรมชาติ เช่น กอหญ้าแห้ง ไม้ไผ่ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ดี
1.2 โอกาสที่จะเกิดการไหลบ่าของน้ำป่าหรือดินถล่ม เนื่องจากมีที่ตั้งใกล้เนินเขา ภูเขา พื้นที่ดินล้วนซุยเคยยุบตัว หรือช่องทางที่เคยมีน้ำไหลผ่าน
1.3 ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมขังเป็นประจำ หรือมีโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมขัง เนื่องจากอยู่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน เมื่อเกิดพายุฝนหนัก หรือเป็นพื้นที่ลาดต่ำหรือเป็นแอ่ง
1.4 ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางผ่านของลมพายุ หรือเคยเกิดเหตุฟ้าผ่า
- ภัยที่เกิดจากบุคคล
2.1 กรณีที่เป็นการสำรวจสถานที่ตั้งของหน่วยงานของรัฐโดยทั่วไป ให้พิจารณา
- สภาพโดยทั่วไปของบุคคลในหน่วยงานของรัฐนั้น ได้แก่ ความมีระเบียบวินัย ความประมาท เลินเล่อ ความบกพร่อง หรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐนั้น
- การโจรกรรม
2.2 กรณีที่เป็นการสำรวจหน่วยงานของรัฐที่มีความสำคัญหรือมีบุคคลสำคัญมาเกี่ยวข้อง นอกจากต้องพิจารณาตามข้อ 1 และ 2.1 แล้ว ยังต้องเพิ่มข้อพิจารณาดังนี้
- สภาพความขัดแย้งที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดความต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ ชื่อเสียงเกียรติภูมิ สร้างความเสียหาย หรือทำลายล้างหน่วยงานของรัฐที่ตั้งอยู่ในสถานที่นั้น
- การชุมนุมประท้วง เพื่อเรียกร้องผลประโยชน์หรือเพื่อก่อกวน
- การจารกรรม
- การก่อวินาศกรรม
2.3 กรณีที่เป็นการสำรวจหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชน ซึ่งหน่วยงานของรัฐมีภารกิจที่จะต้องเข้าใช้พื้นที่เป็นการชั่วคราว แต่เป็นภารกิจที่มีความสำคัญหรือมีบุคคลสำคัญมาเกี่ยวข้อง นอกจากต้องพิจารณาตามข้อ 1 และข้อ 2 แล้ว ยังต้องเพิ่มข้อพิจารณาดังนี้
- ต้องคำนึงถึงผลพ่วงอื่นๆ ที่อาจเกิดต่อพื้นที่นั้น
- ในกรณีที่เป็นภาคเอกชน ต้องคำนึงถึงการสูญเสียผลประโยชน์และผลกระทบทางธุรกิจในด้านอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นขณะดำเนินกิจกรรมหรือในภายหลัง