อาวุธชีวภาพในที่นี้หมายถึง การเพาะไวรัส แบคทีเรีย เห็ดรา และพืชบางชนิด เพื่อเตรียมไว้สำหรับการบ่อนทำลาย วินาศกรรม หรือเพื่อทำสงคราม โดยมุ่งกระทำต่อสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์และพืช อันจะส่งผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งในทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตัวอย่างเช่น เชื้อโรคที่เชื่อว่ามีการเพาะเลี้ยงไว้อย่างปกปิดในหลายประเทศ ได้แก่ เชื้อแอนแทรกซ์(Anthrax)ที่สร้างแผลพุพองในสัตว์เลี้ยง เมื่อมนุษย์ได้เชื้อประเภทนี้ก็อาจเสียชีวิตได้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีเชื้อกาฬโรค อหิวาตกโรค เชื้อโรคที่ทำให้อาหารเป็นพิษ(Botulism) เชื้อเห็ดราหรือแบคทีเรียที่สามารถทำลายพืชผลผลิตการเกษตรและปศุสัตว์ เป็นต้น เชื้อชีวภาพเหล่านี้ เมื่อนำไปปล่อยในแหล่งสาธารณูปโภค แหล่งที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่กสิกรรม จะสร้างความเสียหายและก่อกวนความสงบในสังคมทั้งภาครัฐและประชาชนอย่างยิ่ง ปัจจุบัน มีการกล่าวโทษหลายประเทศว่า ทำการเพาะเลี้ยงเชื้อชีวภาพไว้ใช้ในการสู้รบ อย่างเช่น สหรัฐฯ กล่าวโทษว่า อิรักมีเชื้อแอนแทรกซ์ประมาณ 12,000 ลิตร และ Botulism ประมาณ 500,000 ลิตร เพื่อบรรจุที่หัวขีปนาวุธสำหรับยิงไปตามประเทศศัตรู เป็นต้น
การก่อวินาศกรรมด้วยอาวุธชีวภาพสามารถดำเนินการได้ โดยนำเชื้อโรคที่เพาะเลี้ยงไปปล่อยลงตามแหล่งเป้าหมายที่ง่ายต่อการดำเนินการและให้ผลรวดเร็ว เช่น สถานีผลิตน้ำประปา อ่างเก็บน้ำ หลังจากนั้น เชื้อชีวภาพจะแพร่กระจายตัวเอง โดยทำลายสิ่งมีชีวิตด้วยพิษภัยที่สร้างไว้ เชื้อชีวภาพที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงนี้เชื่อว่า สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่า พิษร้ายแรงกว่า และทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าเชื้อชีวภาพตามธรรมชาติ การป้องกันและควบคุมเชื้อชีวภาพจะต้องใช้เวลาในการศึกษาทดสอบ ซึ่งกว่าจะบรรลุผล เชื้อเหล่านั้นก็สร้างความเสียหายอย่างมากไปแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ปรากฏข้อมูลที่ชัดเจนว่า มีกลุ่มก่อการร้ายหรือชาติใดใช้อาวุธชีวภาพ แต่กรณีการแพร่กระจายของเชื้อแอนแทรกซ์ในสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2544 โดยมีผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวหลายคนนั้น ทางการสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย แต่จนปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานยืนยันแน่ชัด เพราะการใช้อาวุธ ชีวภาพนั้น ผู้ใช้ต้องมีเงินทุน ความรู้ระดับสูงและอุปกรณ์ผลิตเพาะเลี้ยงเพียงพอ จึงน่าจะเกินขีดความสามารถของกลุ่มก่อการร้ายทั่วไป