ฝรั่งเศสออกหมายจับหนึ่งในทีมวินาศกรรมปารีส

ศาลฝรั่งเศสอนุมัติการออกหมายจับชายวัย 26 ปี ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายที่กรุงปารีส เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่าศาลฝรั่งเศสอนุมัติคำร้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันอาทิตย์ ในการออกหมายจับนายซาเลาะห์ อับเดสลาม อายุ 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ที่เขตโมเลนบีค ในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม เนื่องจากเป็นบุคคลต้องสงสัยคนสำคัญ ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุวินาศกรรมหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ศพ

หมายจับของเจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่า อับเดสลามเป็น “บุคคลอันตราย” ซึ่งประชาชนไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด และขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที หากพบเห็นบุคคลที่มีรูปพรรณสัณฐานตามปรากฏในภาพ แม้พนักงานสืบสวนยังไม่ได้เผยอย่างชัดเจนว่า อับเดสลามมีส่วนพัวพันกับเหตุวินาศกรรมครั้งนี้มากเพียงใด แต่เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดอับเดสลามคือผู้เช่ารถยนต์ 1 ใน 2 คันที่ทีมสังหารใช้เป็นพาหนะ โดยพาหนะที่อับเดสลามเช่าคือรถยนต์โฟล์กสวาเกน โปโล สีดำ ติดป้ายทะเบียนเบลเยียม และใช้ก่อเหตุที่โรงละครบาตากล็อง

ขณะที่นายฌอน โตรู โฆษกสำนักอัยการกลางเบลเยียม กล่าวในเวลาไล่เลี่ยกันว่า ได้รับการอนุมัติออกหมายจับอับเดสลามจากศาลในประเทศแล้วเช่นกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่า อับเดสลามคือหนึ่งในสามพี่น้องซึ่งร่วมมือกันก่อเหตุในกรุงปารีส โดยคนหนึ่งเป็นมือระเบิดและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนที่สองคือนายโมฮัมเหม็ดถูกตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ระหว่างเดินทางกลับจากกรุงปารีส ด้านแหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจเบลเยียมเผยว่า เจ้าหน้าที่เคยสอบปากคำอับเดสลามแล้ว แต่กลับปล่อยตัวไป

ทั้งนี้ การที่หนึ่งในกลุ่มมือสังหารซึ่งเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และผู้ต้องสงสัยอีก 7 คนที่ถูกทางการเบลเยียมจับกุมแล้ว อาศัยอยู่ที่เขตโมเลนบีค ซึ่งเป็นย่านยากจนในกรุงบรัสเซลส์ สร้างความกังวลอย่างยิ่งให้แก่รัฐบาลว่าเขตโมเลนบีคกำลังกลายสภาพเป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มหัวรุนแรง และวัยรุ่นที่ถูก “ล้างสมอง” โดยนายกรัฐมนตรีชาร์ลส มิเชล กล่าวว่าพื้นที่ดังกล่าวกำลังสร้าง “ปัญหาใหญ่”

นายแบร์นาร์ด กาเซนูฟ รมว.กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส กล่าวว่ากลุ่มคนร้ายก่อเหตุเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. วางแผนและเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยมีแหล่งกบดานอยู่ในเบลเยียม และได้รับความช่วยเหลือจากเครือข่ายในฝรั่งเศส โดยสถานที่เกิดเหตุเกิดขึ้น 5 จุดในเวลาไล่เลี่ยกัน เริ่มที่บริเวณใกล้กับสนามกีฬาสตาด เดอ ฟรองซ์ ร้านอาหารอีก 3 แห่ง และโรงละครบาตากล็องซึ่งกำลังจัดคอนเสิร์ต จึงเป็นจุดที่พบผู้เสียชีวิตมากที่สุด 89 ศพ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่อย่างน้อย 129 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 350 คน ในจำนวนนี้ 99 คนยังสาหัส ส่วนคนร้ายทั้ง 7 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ