อัลดริช เฮเซน เอมส์ ( Aldrich Hazen Ames)
อัลดริช เฮเซน เอมส์ ( Aldrich Hazen Ames) เกิด 26 พฤษภาคม พ.ศ.2484 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน เคยปฏิบัติหน้าที่ต่อต้านการข่าวกรองและนักวิเคราะห์ของหน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (CIA) พ.ศ. 2537 ถูกตัดสินให้มีความผิดในข้อหาเป็นสายลับให้กับสหภาพโซเวียต
นักปฏิบัติการหัวรุนแรงชื่อ เดนิซ กิชมิช
นายเอมส์ ได้รับมอบหมายให้ไปประจำการที่กรุงอังคารา ตุรกี ปี 2512 รับผิดชอบในการประเมินและระบุตัวเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของโซเวียตในตุรกีเพื่อให้เป็นผู้ให้ข่าวแก่ CIA และประสบความสำเร็จในการแทรกซึมเข้าไปในองค์กรคอมมิวนิสต์ ผ่านนักศึกษาและนักปฏิบัติการหัวรุนแรงชื่อ เดนิซ กิชมิช แม้ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่ผลการประเมินการปฏิบัติงานอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ ทำให้นายเอมส์หมดกำลังใจและ คิดจะลาออกจาก CIA
ในปี 2515 นายเอมส์กลับสหรัฐฯ และปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ CIA กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ แผนกโซเวียต-ยุโรปตะวันออก (Soviet-East Europe; SE) ในครั้งนี้ ผลการประเมินการปฏิบัติงานของเขาอยู่ในระดับตั้งใจดี เนื่องมาจากมีความสามารถด้านการจัดการเอกสารและวางแผนปฏิบัติการภาคสนาม แต่ปัญหาจากพฤติกรรมการดื่มสุรามากเกินไป
ในปี 2519 นายเอมส์ได้รับมอบหมายให้ไปประจำอยู่ที่นครนิวยอร์กซิตี เพื่อดูแลสายลับสำคัญจากโซเวียต 2 นาย ในครั้งนี้ผลงานอยู่ในระดับยอดเยี่ยมมาก ทำให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจนสูงกว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในระดับเดียวกัน แต่ด้วยนายเอมส์มีอุปนิสัยชอบเลื่อนส่งบัญชีการเงิน ความไม่ใส่ใจในรายละเอียดของการปฏิบัติงาน ส่งผลให้เกิดการละเลยและฝ่าฝืนกฎด้านความปลอดภัยขั้นร้ายแรงถึง 2 ครั้ง เช่น ทิ้งกระเป๋าใส่อุปกรณ์ทำภารกิจลับไว้บนรถไฟใต้ดิน แต่การลงโทษนายเอมส์ยังอยู่ในระดับตักเตือน
ในปี 2524 นายเอมส์ไปปฏิบัติงานที่กรุงเม็กซิโกซิตี เม็กซิโก ผลการประเมินงานอยู่ในระดับพอใช้ และยังมีข่าวสารเชิงชู้สาวกับสตรีอื่นอย่างน้อย 3 ครั้ง ในเดือนตุลาคม 2525 นายเอมส์เริ่มมีความ สัมพันธ์กับนางมาเรีย เดล โรซาริโอ คาซัส ดูพุย เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตโคลัมเบีย และเป็นผู้ให้ข่าวแก่ CIA ในเม็กซิโก ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อข้อบังคับของ CIA ที่ห้ามมีความสัมพันธ์กับคนต่างชาติ ประกอบกับการดื่มสุราอย่างหนัก ซึ่งน่าจะเป็นผลให้นายเอมส์กลับไปประจำที่แผนกโซเวียต-ยุโรปตะวันออก ในกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐฯ ในเดือนกันยายน 2526 ตำแหน่งนี้อยู่ในหน่วยงานที่รับผิดชอบกิจกรรมต่อต้านข่าวกรองของโซเวียต นายเอมส์สามารถเข้าถึงแผนและปฏิบัติการของ CIA ต่อ KGB และ GRU หน่วยข่าวกรองทหารของโซเวียต และรับผิดชอบประเมินและสร้างช่องทางการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ทูตของโซเวียต เพื่อให้เป็นสายข่าวให้ CIA ในเดือนเมษายน 2528 นายเอมส์นำข้อมูลที่พอที่จะสร้างความน่าเชื่อถือในฐานะเจ้าหน้าที่ CIA ให้กับโซเวียต โดยขอค่าตอบแทน 50,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้หนี้ที่มีอยู่ขณะนั้น ซึ่งพวกโซเวียตจ่ายอย่างรวดเร็ว นายเอมส์เริ่มชี้แหล่งข่าวระดับสูงสุดของ CIA และ FBI ที่รายงานกิจกรรมของโซเวียตจำนวนกว่า 10 คนให้ทางการโซเวียตรับทราบ เหตุผลในการแปรพักตร์ครั้งนี้ นอกจากได้รับค่าตอบแทนจำนวนมากแล้ว นายเอมส์เชื่อการกำจัดแหล่งข่าวเหล่านั้นจะลดโอกาสที่จะตรวจพบการจารกรรมของตนเอง
ปี 2528 เครือข่ายสายลับและแหล่งข่าวโซเวียตของ CIA และ FBI ลดจำนวนลง จน CIA ผิดสังเกตและประเมินว่า มีการจารกรรมอยู่ภายในสำนักงาน CIA การสืบสวนเบื้องต้นมุ่งที่ช่องทางที่เกิดจากเครื่องดักฟังของโซเวียตภายในสำนักงาน หรือรหัสถูกถอดได้ และเมื่อจับกุมนายเอ็ดเวิร์ด ลี ฮาวเวิร์ด เจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งแปรพักตร์ไปเป็นผู้ส่งข้อมูลไปให้โซเวียตเช่นกัน แต่เมื่อ CIA สูญเสียแหล่งข่าวสำคัญอีก 3 แหล่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ฮาวเวิร์ดไม่มีทางทราบได้ CIA จึงทำการสืบค้นต่อ
เนื่องจากนายเอมส์หย่าร้างกับภรรยาอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2528 ซึ่งทำให้นายเอมส์ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเป็นจำนวนมาก ประกอบนายเอมส์ยังสามารถใช้ชีวิตได้หรูหรากว่าเจ้าหน้าที่ CIA อื่น นายเอมส์จึงแต่งงานกับนางมาเรีย เดล โรซาริโอ คาซัส ดูพุย มาเรีย เดล เจ้าหน้าที่สถานทูตโคลัมเบียทันที เพื่อสร้างหลักฐานว่าทรัพย์สินที่มีมาจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยของภรรยาของเขา ในปี 2529 นายเอมส์ไปประจำการที่กรุงโรม อิตาลี ซึ่งผลประเมินงานอยู่ในระดับพอใช้และยังมีหลักฐานเกี่ยวกับปัญหาติดสุรา ระหว่างปี 2533-2534 นายเอมส์ถูกส่งกลับสหรัฐฯ และไปประจำแผนกวิเคราะห์ของศูนย์ต่อต้านข่าวกรอง ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสายลับสองหน้าของสหรัฐฯ
ในปี 2529 และปี 2534 CIA ได้ทดสอบด้วยเครื่องจับเท็จ (โพลีกราฟ) กับนายเอมส์ และนายเอมส์ผ่าน โดยทำตามการแนะนำของฝ่ายโซเวียตที่ให้ “ทำตัวตามสบาย” สาเหตุที่ CIA อ้างถึงการผ่านการทดสอบของนายเอมส์ ในภายหลังว่า ผู้ทดสอบ “เป็นมิตรมากเกินไป” กับนายเอมส์ ทำให้ผลการตอบสนองทางจิตไม่ไปในทางที่ควรจะเป็น
ในเดือนมีนาคม 2536 CIA และ FBI เริ่มการสืบสวนนายเอมส์อย่างละเอียด วิธีการรวมไปถึงการสังเกตการณ์ผ่านทางอิเล็กโทรนิค, การคุ้ยขยะ และการติดเครื่องติดตามที่รถยนต์ส่วนตัว เพื่อติดตามความเคลื่อนไหว ในช่วงต้นปี 2537 นายเอมส์ต้องไปร่วมการประชุมที่กรุงมอสโค โซเวียต FBI จึงทำการจับกุมตัวเขาและภรรยา เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2537
———————————–
อ้างอิงจากวิกี พีเดีย