อับเดลฮามิด อาบาอุด (ภาพ: AP)
เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส เผยชื่อนักรบกลุ่มไอซิสที่เชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายใน กรุงปารีส ศุกร์ 13 เป็นชาวเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ร้ายหลายครั้ง…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนของฝรั่งเศสเชื่อว่า นายอับเดลฮามิด อาบาอุด นักรบญิฮาด สัญชาติเบลเยียม เชื้อสายโมร็อกโก อายุ 27 ปี เป็นผู้วางแผนโจมตีก่อการร้ายในกรุงปารีส ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 ราย
เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสระบุว่า นายอาบาอุด เติบโตขึ้นมาในเขต โมเลนเบค-แซงต์-ฌอง ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเขตที่มีผู้อพยพจากประเทศแถบภูมิภาคอาหรับจำนวนมาก รวมทั้งประชากรมีอัตราว่างงานสูง และที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ อาบาอุดเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) เมื่อช่วงต้นปี 2013
นายอาบาอุดร่วมมือกับ นายซาลาห์ อับเดลซะลาม ซึ่งหลบหนี และพวกอีก 7 คนโจมตีในกรุงปารีส โดยทั้ง 2 คนเคยต้องโทษจำคุกในเบลเยียมเมื่อปี 2010 ในข้อหาปล้นอาวุธปืน
ทั้งนี้ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี นายอาบาอุด หรือ อาบู อูมาร์ อัล-บัลจิกิ เคยเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมชั้นนำของเบลเยียม แต่ไม่แน่ชัดว่าเกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางความเชื่อกับเขาเมื่อใด อย่างไรก็ตาม นายอาบาอุดมีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหลายครั้ง โดยเคยติดต่อกับนายเมห์ดี เนมมูเช นักรบญิฮาดชาวแอลจีเรียเชื้อสายฝรั่งเศส ผู้ก่อเหตุสังหารผู้บริสุทธิ์ 4 คน ที่พิพิธภัณฑ์ชาวยิวในกรุงบรัสเซลส์ เมื่อเดือน พ.ค. 2014
เจ้าหน้าที่ของเบลเยียมยังสงสัยด้วยว่า นายอาบาอุด ช่วยเหลือในเรื่องการจัดการ และด้านการเงินให้กลุ่มก่อการร้ายในเมืองเวอร์วิเยร์ส ทางตะวันออกของเบลเยียม ก่อนที่กลุ่มนี้จะถูกตำรวจบุกทลายเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดย นายอาบาอุด เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร ‘ดาบิก’ ของกลุ่มไอซิสถึงเหตุการณ์นี้ด้วยว่า เขาแอบเดินทางกลับมายังเบลเยียมพร้อมกับพวกไอซิสอีก 2 คน และตั้งเซฟเฮาส์ขึ้นในระหว่างวางแผนโจมตีผู้ทำสงครามศาสนา
นายอาบาอุด ยังเคยปรากฏตัวในคลิปวิดีโอโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มไอซิส เมื่อปี 2014 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายอาบาอุด อยู่บนรถยนต์คันหนึ่งซึ่งกำลังขนศพที่อยู่ในสภาพไม่สมประกอบ ตำรวจยังเชื่อว่าเขาเกี่ยวข้องกับแผนการโจมตีบนรถไฟตาลิส ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงปารีส และกรุงบรัสเซลส์ แต่ถูกขัดขวางเสียก่อนด้วย
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์ 17 พ.ย. 2558 05:55
