อึ้ง! นักข่าวจีนงง ปินส์ใช้ปืนใหญ่สมัยสงครามโลก รักษาความปลอดภัยในการประชุมเอเปค

Loading

  ภาพจากเฟซบุ๊ก China Xinhua News ภาคภาษาไทย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558 เฟซบุ๊ก China Xinhua News ภาคภาษาไทยเผยแพร่ภาพ และข้อความตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสภาพการรักษาความปลอดภัยในการประชุมสุดยอด ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปค (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) จัดขึ้นในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งมีประเทศฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ โดยมีผู้นำสูงสุดของชาติชั้นนำในโลกเข้าร่วมมากมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้ “ฟิลิปปินส์ใช้อาวุธโบราณรักษาความปลอดภัยในการประชุมเอเปค เนื่องจากวันที่ 18-19 พฤศจิกายนนี้ จะมีการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 23 ขึ้นที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยในระหว่างการประชุม หน่วยงานรัฐบาลของฟิลิปปินส์จึงได้ระดมกำลังพลประมาณ 3.2 หมื่นคนเข้าร่วมในการรักษาความปลอดภัยและการรับมือกับภาวะฉุกเฉิน แต่ทว่า เมื่อมองดูแล้วในบรรดาอาวุธที่เตรียมใช้รักษาความปลอดภัยในระหว่างการประชุม เอเปคนั้นมีอยู่ไม่น้อยทีเดียวที่เป็นอาวุธ “โบราณ” ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เห็นในรูปคือปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานBofors หนึ่งในอาวุธรบภาคพื้นดินสำหรับป้องกันภัยทางอากาศขนาดกลางที่ใช้กันมาก ตั้งแต่หลังสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากมาควบคุมดูแลความสงบและความปลอดภัย…

ไลน์แจ้งเหตุเท็จป่วนจนท.ชายแดนใต้

Loading

  ไลน์แจ้งเหตุเท็จป่วนจนท.ชายแดนใต้              เหตุระเบิดภายในป้อม ชรบ. หรือชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2558 นอกจากจะสร้างความสูญเสียอย่างรุนแรง เพราะมีผู้เสียชีวิตถึง 4 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน แล้ว ยังปรากฏหลักฐานการสร้างความปั่นป่วนโดยผู้ไม่หวังดี ด้วยการสร้าง “รายงานแจ้งเหตุเบื้องต้นปลอม” ไปยังกรุ๊ปไลน์ของเจ้าหน้าที่ จนต้องตรวจสอบข่าวกันอย่างวุ่นวาย             “ทีมข่าว” ได้แคปเจอร์ “รายงานแจ้งเหตุเบื้องต้น” จำนวน 2 เหตุการณ์ เมื่อคืนวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ถูกส่งเข้าไลน์กรุ๊ปของเจ้าหน้าที่ แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน (ดูภาพประกอบเรื่องภาพแรก) ด้านซ้ายมือ คือภาพจากไลน์กรุ๊ปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรายงานการแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่ใช้กัน ซึ่งเป็นเหตุระเบิดที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี…

อิตาลี-สวีเดน ระทึก! คุมเข้มอาคารและสถานที่สาธารณะ มีข้อมูลถูกวางแผนโจมตีตามรอยปารีส

Loading

ตำรวจอิตาลี เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรอบอาคารสาธารณะในวันพฤหัสบดี(19พ.ย.) หลังได้รับแจ้งว่าพวกก่อการร้ายอาจมีแผนโจมตีบนแผ่นดินของพวกเขา ในนั้นอาจเป็นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม         รอยเตอร์ – ตำรวจในอิตาลี และสวีเดน พยายามไล่ล่าผู้ต้องสงสัยนักรบและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรอบอาคารสาธารณะในวันพฤหัสบดี (19 พ.ย.) หลังได้รับแจ้งว่าพวกก่อการร้ายอาจมีแผนโจมตีบนแผ่นดินของพวกเขา ตามหลังเหตุสังหารหมู่ในกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศอิตาลี เปิดเผยว่า เป้าหมายการโจมตีของพวกนักรบอาจเป็นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม หรือไม่ก็โบสถ์ หรือโรงละครลา สกาลา ในเมืองมิลาน ส่วนที่กรุงสตอกโฮล์มของสวีเดน ตำรวจเพิ่มจำนวนกำลังพลเฝ้าระวังรอบ ๆ รัฐสภาและสถานีรถไฟหลักต่าง ๆ ขณะที่ทั้งสองประเทศต่างก็อยู่ในระดับการเตือนภัยขั้นสูงรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุโจมตีใด ๆ หน่วยงานด้านความมั่นคงของสวีเดนบอกว่า พวกเขามีข้อมูลที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีเหตุโจมตีในประเทศ ไม่กี่วันหลังจากนักรบอิสลามิสต์ลงมือโจมตีกรุงปารีส คร่าชีวิตผู้คน 129 ศพ ตำรวจสวีเดนกำลังตามล่าตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่ชื่อว่า นายมูตาร์ มูตันนา มาจิดและแจกจ่ายภาพของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นระบุว่าบุคคลซึ่งเป็นที่ต้องการตัวรายดังกล่าวเป็นสมาชิกของกลุ่มรัฐอิสลาม นอกจากนี้แล้ว ตำรวจเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ประจำการนอกสถานที่สาธารณะและที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในนั้นรวมถึงอาคารราชการ สถานทูตต่างชาติและสื่อมวลชนบางสำนัก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สวีเดนเข้าร่วมภารกิจของนาโต้ในอัฟกานิสถาน และร่วมฝึกฝนกองกำลังชาวเคิร์ดในอิรัก ความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ดั้งเดิมไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของประเทศ ส่วนในกรุงโรม นายเปาโล เกนติโลนี รัฐมนตรีต่างประเทศ บอกว่า กองกำลังด้านความมั่นคงกำลังระบุตัวผู้ต้องสงสัย…

นายกฯ ฝรั่งเศสเตือนอาจมีการก่อเหตุโจมตีด้วย “อาวุธเคมี-ชีวภาพ”

Loading

          เอพี – ขณะที่ฝรั่งเศสยังคงช็อคกับเหตุโจมตีนองเลือดในกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรี มานูเอล วาลส์ ออกมาเตือนในวันนี้ (19 พ.ย.) ว่า พวกอิสลามิสต์หัวรุนแรงอาจใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในวันใดวันหนึ่ง พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็น 3 เดือน        “การก่อการร้ายเกิดขึ้นในฝรั่งเศสไม่ใช่เพระว่าสิ่งที่ฝรั่งเศสกำลังทำในอิรักและซีเรีย แต่เป็นสิ่งฝรั่งเศสกำลังทำให้กับสองประเทศนั้นต่างหาก” วาลส์ บอกกับสภาผู้แทนราษฎร เขากล่าวเสริมว่า “เราทราบว่าอาจมีภัยคุกคามจากอาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพด้วย” แต่วาลส์ไม่ได้ระบุชัดว่าภัยคุกคามจากอาวุธชนิดดังกล่าวคืออะไร        ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเบลเยียมที่ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีปารีสส่วนใหญ่อาศัยอยู่ นายกรัฐมนตรี ชาร์ล มิเชล ได้ประกาศชุดมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายเพิ่มเติมในวันนี้ (19) และระบุว่า เงิน 400 ล้านยูโรจะถูกกันไว้เพื่อขยายการต่อสู้นี้        เขาบอกกับสมาชิกสภานิติบัญญัติว่าจะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการกำจัดข้อความสร้างความเกลียดชัง เขายังเรียกร้องให้มีการร่วมมือกันระหว่างประเทศมากกว่านี้ด้วย และระบุว่า เขาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเบลเยียมเพื่อขยายช่วงเวลาที่ตำรวจสามารถคุมขังผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายได้โดยไม่ได้ตั้งข้อหา           ในขณะเดียวกัน…

ผู้นำเวเนฯ สั่งทบทวนสัมพันธ์ US หลังพบหลักฐานมะกันสอดแนมบริษัทน้ำมันแห่งชาติ-เจาะอีเมล์อดีตรมต.

Loading

      เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online – ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ยืนยันในวันพุธ (18 พ.ย.) จะยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการและประกาศขอทบทวนความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา หลังมีรายงานว่า วอชิงตันทำการสอดแนมบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา รวมถึง ทำการดักฟังโทรศัพท์และแอบเจาะเข้าอีเมล์ของ ราฟาเอล รามิเรซ อดีตรัฐมนตรีน้ำมันเวเนซุเอลา      มาดูโรอ้างรายงานที่มีการเผยแพร่ในวันพุธ (18 พ.ย.)โดยสื่อดังอย่าง “ดิ อินเตอร์เซ็ปต์” ที่อ้างข้อมูลจากจดหมายข่าวภายในองค์กรของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) ฉบับเดือนมีนาคม ปี 2011 ที่ในเวลาต่อมาถูกปล่อยให้รั่วไหลโดยเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในรัสเซีย  ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐโดยยืนยันว่า เขาได้สั่งให้มีการสืบสวนเรื่องอื้อฉาวที่เป็นฝีมือของรัฐบาลวอชิงตัน และประกาศจะเรียกตัวลี แม็คเคล็นนี อุปทูตสหรัฐฯประจำเวเนซุเอลามาเข้าพบ เพื่อยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการต่อไป ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและการากัสที่เย็นชาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และทั้งสองรัฐบาลก็ไม่ได้มีการแลกเปลี่ยนเอกอัครราชทูตระหว่างกัน นับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา    ด้าน “เตเลซูร์” สถานีโทรทัศน์ภาคภาษาสเปนที่ออกอากาศในหลายประเทศทั่วภูมิภาคลาตินอเมริกา…