ตำรวจปินส์ “ปะทะ” ม็อบต้านเอเปก-ด้าน “จีน” สุดเซ็งสหรัฐฯ ชงปัญหาทะเลจีนใต้บดบังเจรจา “ศก.-การค้า”

Loading

          เอเอฟพี – ตำรวจปราบจลาจลฟิลิปปินส์ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยที่พยายามฝ่าแนวกั้นด้านนอกสถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) วันนี้ (19 พ.ย.) ขณะที่การหารือระหว่างผู้นำ 21 ชาติถูกครอบงำด้วยปมปัญหาทะเลจีนใต้ที่สหรัฐฯ และจีนต่างงัดข้อกันอยู่        การประชุมเอเปกซึ่งฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพในปีนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างกลไกการค้าที่เป็นเอกภาพในกลุ่มประเทศสมาชิก แต่ก็มักจะถูกเบนประเด็นด้วยข้อพิพาทที่กำลังร้อนระอุ        ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศหนุนหลังชาติพันธมิตรที่พัวพันข้อพิพาทกับปักกิ่งในเรื่องทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก        แม้ทางการฟิลิปปินส์จะระดมกำลังตำรวจและทหารกว่า 20,000 นายคุมเข้มความปลอดภัยอย่างเต็มพิกัด แต่ก็ไม่วายเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับกลุ่มผู้ชุมนุมใกล้ๆ สถานที่จัดประชุม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา        ตำรวจซึ่งมีอุปกรณ์ปราบจลาจลครบมือทั้งหมวก โล่ และกระบอง ได้ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงสกัดกลุ่มผู้ประท้วงที่พยายามจะฝ่าแนวกั้นเข้าไปยังสถานที่จัดประชุมเอเปกที่อยู่ห่างออกไปราว 1 กิโลเมตร แต่ถึงแม้จะเกิดเหตุชุลมุนตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ทว่าสถานการณ์ก็ไม่ได้รุนแรงมาก และตำรวจยังคงอนุญาตให้ผู้ประท้วงยืนชุมนุมอยู่ที่หลังแนวกั้นต่อไปได้      …

ระทึก! 2 เที่ยวบิน “แอร์ฟรานซ์” เปลี่ยนเส้นทางลงจอดฉุกเฉิน หลังเจอขู่วางระเบิด

Loading

            เอเอฟพี – เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ จำนวน 2 เที่ยวบินซึ่งออกเดินทางจากสหรัฐฯ เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงปารีส ต้องเปลี่ยนเส้นทางลงจอดฉุกเฉินในรัฐยูทาห์เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) หลังสายการบินได้รับคำขู่ “วางระเบิด”         แอร์ฟรานซ์แถลงว่า สายการบินได้รับคำขู่วินาศกรรมเที่ยวบิน 65 ซึ่งออกเดินทางจากนครลอสแองเจลิส และเที่ยวบิน 55 ซึ่งทะยานขึ้นฟ้าจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงฝรั่งเศส         เหตุระทึกขวัญทางการบินนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากกรุงปารีสเผชิญเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายฝีมือกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 129 ราย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ย.)         สายการบินยืนยันว่า เครื่องบินทั้ง 2 ลำลงจอดอย่างปลอดภัย และได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย        …

ตะวันตกผวาหนัก! อพยพผู้โดยสารออกจากสนามบินเดนมาร์ก หลังพบกระเป๋าต้องสงสัย

Loading

          เอเอฟพี/เอเจนซี – ตำรวจเดนมาร์กต้องสั่งอพยพผู้คนออกจาก 1 ใน 2 ของอาคารผู้โดยสารของสนามบินคาสทรุพนานกว่า 2 ชั่วโมงในวันพุธ (18 พ.ย.) หลังพบกระเป๋าต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม หลังตรวจค้นโดยละเอียดไม่พบวัตถุระเบิดแต่อย่างใด        “มีการอพยพที่อาคารผู้โดยสาร 3 หลังพบกระเป๋าต้องสงสัยตอนราวๆ เที่ยงวัน แต่ไม่มีคำขู่โดยตรง” สตีน แฮนเซน โฆษกตำรวจบอกกับเอเอฟพี “สุนัขดมกลิ่นถูกส่งเข้ามายังจุดเกิดเหตุ รถไฟทุกขบวนที่มุ่งหน้ามายังสนามบินถูกระงับ”         ทว่า เวลาต่อมาตำรวจเดนมาร์กได้ยกเลิกประกาศแจ้งเตือนด้านความมั่นคง ด้วยยืนยันว่าหลังการตรวจค้นโดยละเอียดไม่พบสัญญาณของวัตถุระเบิด ณ อาคารผู้โดยสารแต่อย่างใด        ไม่นานหลังจากพบกระเป๋าต้องสงสัย รถมินิบัสตำรวจ 2 คนที่เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ในชุดกันกระสุนก็รุดมายังจุดเกิดเหตุ ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นแห่งหนึ่งรายงานว่าด้วยมีตำรวจตะโกนว่า “ทุกคนออกไปเดี๋ยวนี้” ก็ยิ่งก่อความตื่นตระหนกเพิ่มเติม        อย่างไรก็ตาม…

อังกฤษเล็งเพิ่มงบฯ “หน่วยข่าวกรอง-รักษาความปลอดภัยทางการบิน” รับมือก่อการร้าย

Loading

  รอยเตอร์ – อังกฤษจะเพิ่มเจ้าหน้าหน่วยข่าวกรองขึ้นอีก 15 เปอร์เซ็นต์และเพิ่มการใช้จ่ายด้านการรักษาความปลอดภัยทางการบินอีกกว่าเท่าตัวเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษกล่าวในวันนี้ (16) รัฐบาลระบุว่าพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มทรัพยากรหลังจากพบว่ามีการวางแผนโจมตีอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงที่เกิดขึ้นในปารีสและตูนิเซีย “ผมตั้งใจที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับทรัพยากรที่เราจำเป็นต้องใช้ในการต่อสู้กับภัยคุกคามการก่อการร้าย เพราะการปกป้องประชาชนชาวอังกฤษเป็นภาระหน้าที่อันดับหนึ่งของผม” คาเมรอน กล่าวในถ้อยแถลง “นี่เป็นการต่อสู้แห่งยุคสมัยที่เรียกร้องให้เราต้องเพิ่มกำลังคนเพื่อต่อสู้กับผู้ที่จะทำลายเราและคุณค่าของเรา” รัฐบาลระบุว่า ในฐานะส่วนหนึ่งของการทบทวนการป้องกันประเทศและความมั่นคงตลอด 5 ปีอย่างกว้างขวางกว่าเดิม ซึ่งจะถูกเผยแพร่ในวันที่ 23 พฤศจิกายน พวกเขาจะจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 1,900 คนในหน่วยงานสายลับ MI5 และ MI6 รวมถึงหน่วยงานข่าวกรอง GCHQ พวกเขายังมีแผน “การเปลี่ยนแปลงแบบเป็นขั้น ” ในการรักษาความปลอดภัยทางการบินด้วย หลังจากการตกของเครื่องบินรัสเซียในอียิปต์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งอังกฤษระบุว่า พวกเขาเชื่อว่าตกเพราะถูกวางระเบิด     คาเมรอนจะหารือเรื่องการรักษาความปลอดภัยทางการบินกับผู้นำโลกคนอื่นๆ ที่การประชุมซัมมิท G20 ในตุรกีในวันนี้ (16) รวมถึงระหว่างการหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผู้นำอังกฤษยังได้สั่งให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยที่สนามบินหลายแห่งทั่วโลกโดยเร่งด่วน…

ฝรั่งเศสยืนยัน ‘อับเดลฮามิด อาบาอุด’ จอมบงการโจมตีปารีส ตายแล้ว

Loading

  อัยการฝรั่งเศสยืนยัน อับเดลฮามิด อาบาอุด ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้วางแผนก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 129 ราย เสียชีวิตแล้ว… สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานอัยการกรุงปารีสประกาศในวันพฤหัสบดี (19 พ.ย.) ว่านายอับเดลฮามิด อาบาอุด ชาวฝรั่งเศส สมาชิกกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ผู้ต้องสงสัยเป็นผู้วางแผนก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อ 13 พ.ย. จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 129 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก เสียชีวิตแล้ว หลังตำรวจฝรั่งเศสบุกจู่โจมอพาร์ตเมนต์ในเขต แซงต์ เดอนิส ทางเหนือของกรุงปารีส เมื่อเช้ามืดวันพุธที่ผ่านมา เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเชื่อว่า นายอาบาอุด วัย 28 ปี เป็นผู้วางแผนก่อเหตุกราดยิง, จับตัวประกัน และระเบิดฆ่าตัวตายหลายจุดในกรุงปารีสเมื่อ 13 พ.ย. และเชื่อด้วยว่าเขายังอยู่ในประเทศแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด จนกระทั่งตำรวจดักฟังบทสนทนาทางโทรศัพท์ และได้ข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ญาติของ นายอาบาอุด อาจจะอาศัยอยู่ที่ชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเขต แซงต์ เดอนิส ทางการฝรั่งเศสจึงส่งกำลังตำรวจ และทหารกว่า…

การก่อวินาศกรรมโดยไม่ใช้วัตถุระเบิด

Loading

การก่อวินาศกรรมวิธีนี้อาศัยคุณสมบัติของสิ่งที่จะนำมาใช้วินาศกรรมโดยไม่ต้องอาศัยวัตถุระเบิด เพียงแต่ตัววินาศกรอาจต้องพลีชีพไปพร้อมด้วยเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้จำเป็นจะต้องมีการวางแผนและเตรียมการในกลุ่มผู้ปฏิบัติเป็นอย่างดี ทั้งจะต้องมีงบประมาณสนับสนุนเพียงพอ นอกจากนี้วินาศกรต้องมีความรู้และศึกษาลู่ทางก่อนที่จะพิจารณาเลือกใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือยานพาหนะที่มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำลายเป้าหมาย สำหรับการก่อวินาศกรรมในรูปแบบนี้นอกจากจะให้ผลทำลายล้างแล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะหวาดระแวงในสังคมและลดศรัทธาที่มีต่อฝ่ายปกครองด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีวินาศกรของกลุ่ม อัล เควดาใช้เครื่องบินพาณิชย์พุ่งชนอาคารเวิร์ดเทรด เซ็นเตอร์ในสหรัฐฯ  นับเป็นการก่อวินาศกรรมที่สามารถกระทำได้อย่างเกินความคาดหมาย และยากต่อการป้องกัน  อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางความคิดของวินาศกร ที่เลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องบินมาทำลายอาคาร ซึ่งให้ผลลัพธ์ได้เท่าเทียมกับวัตถุระเบิด กรณีวินาศกรรมดังกล่าวนับเป็นตัวอย่างของการนำเอาสิ่งประกอบในชีวิตประจำวันมาใช้ในก่อวินาศกรรมอย่างบรรลุผล  ฉะนั้นวิธีการนี้ยอมส่งผลให้เกิดการปรับใช้กับสิ่งอื่นได้อีก เช่น รถยนต์ รถไฟ หรือเรือบรรทุกน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ  และรอโอกาสที่เหมาะสมในการดำเนินการ เท่านั้น