นิติวิทยาศาสตร์กับลายนิ้วมือ

Loading

ลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ ลายฝ่าเท้า ของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน และไม่เปลี่ยนแปลง การใช้ลายนิ้วมือ ลายฝ่ามือ ลายฝ่าเท้าในการตรวจพิสูจน์บุคคลจึงเป็นที่ยอมรับ และนิยมใช้อยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

อาลีเปย์ใช้ระบบจดจำใบหน้าเข้ารหัสโอนเงินลูกค้า

Loading

     ไชน่าเดลี – อาลีเปย์ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีนซึ่งดำเนินการโดยอาลีบาบา ยักษ์อีคอมเมิร์ซ เริ่มใช้ระบบใหม่ในการเข้ารหัสสำหรับลูกค้า ซึ่งอำนวยความสะดวก อีกทั้งมีความปลอดภัยด้วยระบบจดจำใบหน้า      รายงานข่าวกล่าว (21 ธ.ค.) ว่า ในช่วงทดลองใช้งานนี้เทคโนโลยีดังกล่าวที่ผ่านมา พบว่ามีความแม่นยำกว่าร้อยละ 90 แม้ว่าจะยังใช้ได้กลับระบบปฏิบัติการ IOS และสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพียงบางรุ่น      ผู้ร่วมงานออกแบบระบบคนหนึ่งบอกว่า บริษัทได้ร่วมกับ Ant Financial และผู้ดูแลบริการการเงิน พัฒนาเทคโนโลยีนี้เพื่อใช้กับอาลีเปย์ และอาลีเปย์ วอลเล็ต      เฉิน จื่อตงผู้เชี่ยวชาญข้อมูลระดับอาวุโส ซึ่งรับผิดชอบระบบฯ กล่าวว่า “นี่คือแนวโน้มใหม่ที่จะเข้ามาแทนระบบระบุตัวบุคคล ด้วยเทคโนโลยีไบโอเมตริก (Biometric) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพ ผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีทางด้านชีวภาพและทางการแพทย์ กับเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2558 16:53 น. Link : http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9580000139721

ศาลฎีกาพิพากษายืน ผอ.ประชาไท ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

Loading

     23 ธ.ค. 2558 ที่ห้องพิจารณาคดี 908 ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไทเป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ให้จำคุก 8 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา จากกรณีที่ปล่อยให้มีการโพสต์ผิดกฎหมายในเว็บบอร์ดประชาไทนาน 20 วัน      ศาลฎีการะบุถึงพฤติการณ์แวดล้อมที่ชี้ว่า จำเลยไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่ส่งข้อมูล IP address ของผู้ใช้บริการเว็บบอร์ดที่มีข้อความเข้าข่ายหมิ่นสถาบันให้เอง จนเลยระยะเวลา 90 วันตามกฎหมายที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ต้องเก็บ IP address ไว้ ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ใช้รายอื่นได้      จีรนุช เปรมชัยพร แสดงความผิดหวังต่อคำพิพากษาและแสดงความกังวลต่อประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจด้านอินเทอร์เน็ต หากมีการบังคับใช้กฎหมายเช่นนี้ โดยอาจสร้างความยากลำบากในการปฏิบัติตัวของผู้ให้บริการ เพราะข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นข้อมูลสำคัญ หากไม่มีเหตุอันควร การยื่นข้อมูลเหล่านี้ให้เจ้าหน้าที่โดยไม่ต้องร้องขอ ผู้ให้บริการอาจละเมิดต่อผู้ใช้บริการได้…

“ไอเอส”บุกอาเซียน! เผยคลิปฐานฝึกในป่า

Loading

     กลุ่มไอเอสเผยคลิปฐานฝึกกองกำลังใจกลางป่าดงดิบของประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมชักจูงคนท้องถิ่นเข้าร่วม      ในที่สุดกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ก็เดินทางมาปักหมุดที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างค่อนข้างจะเป็นทางการแล้ว หลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งเปิดเผยกิจกรรมและฐานฝึกกองกำลังของกลุ่มเป็นครั้งแรกใจกลางป่าดงดิบของประเทศฟิลิปปินส์พร้อมชักจูงให้คนท้องถิ่นเข้าร่วมกับกองกำลังต่อสู้ในซีเรีย      คลิปวิดีโอดังกล่าวบันทึกภาพระหว่างการฝึกจู่โจม การออกกำลังกายเสริมความเข้มแข็ง โดยบุคคลในคลิปปกปิดใบหน้าด้วยหมวกไหมพรมสีดำ และแต่งกายด้วยชุดสีดำเหมือนกับสมาชิกไอเอส ในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ยังถือธงสัญลักษณ์ของไอเอส พร้อมประกาศว่านี่กองกำลังแห่งเคาะลีฟะฮ์ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเคาะลีฟะฮ์หมายถึงรัฐอิสลามในซีเรียและอิรัก      บุคคลในคลิปยังเรียกร้องให้บุคคลที่สนใจร่วมเดินทางไปแสวงบุญที่เคาะลีฟะฮ์ ซึ่งหมายถึงการเชื้อเชิญให้เข้าร่วมกับกองกำลังไอเอส คาดว่าคลิปนี้ถ่ายทำที่เกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นฐานกำลังสำคัญของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนและประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม      ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนกลุ่มใดบนเกาะมินตาเนาที่แสดงตัวเป็นสมาชิกไอเอส แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า หลายกลุ่มในฟิลิปปินส์ประกาศสวามิภักดิ์กับไอเอส เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฎภาพยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีการผนึกกำลังกันจริง ๆ      ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยืนยันเช่นกันว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนในท้องถิ่นประกาศสวามิภักดิ์กับไอเอส และเมื่่อเดือนที่แล้วสมาชิกกลุ่มอันซาร์ อัลเคาะลีฟะฮ์ 8 คนที่ประกาศเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับไอเอส ถูกเจ้าหน้าที่เด็ดชีพระหว่าการปะทะที่เมืองปาลิมบัง ทางภาคใต้ของประเทศ      ด้านเจ้าหน้าที่ด้านการทหารของฟิลิปปินส์กล่าวว่า กลุ่มอันซาร์ อัลเคาะลีฟะฮ์ พยายามโหนกระแสความดังของไอเอส แต่ไม่ใช่ขบวนการเดียวกัน      ทั้งนี้…

ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เห็นชอบเพิ่มการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างกัน เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย

Loading

     ออสเตรเลียและอินโดนีเซีย เห็นชอบเพิ่มการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างกัน เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย หลังจากตำรวจอินโดนีเซียจับกุมเครือข่ายกลุ่มสุดโต่ง ที่วางแผนก่อเหตุระเบิดพลีชีพในกรุงจาการ์ตาได้เมื่อสองวันก่อน      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย “นางจูลี บิช็อป” กล่าวหลังประชุมทวิภาคีประจำปีกับรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย “นางเรตโน มาร์ซูดี” ที่นครซิดนีย์ว่า ออสเตรเลียและอินโดนีเซียกำลังร่วมมือกันใกล้ชิดอย่างยิ่ง ในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรับมือการก่อการร้าย และจะแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองระหว่างกันต่อไป เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและศาสนาที่เคารพรัก      (Ins: 7082) เมื่อวันศุกร์และเสาร์ที่ผ่านมา (18-19 ธ.ค.58) ตำรวจอินโดนีเซียได้บุกจู่โจมหลายเมืองทั่วเกาะชวา พร้อมจับกุมสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสุดโต่งได้ 5 คน และยึดเคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ทดลอง และธงที่ได้รับแรงใจจากกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสได้ด้วย โดยมีรายงานว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับเบาะแสมาจากสำนักงานตำรวจกลางของออสเตรเลียและหน่วยสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ      นางบิช็อป กล่าวว่า เธอไม่สามารถให้รายละเอียดเรื่องแผนการระเบิดพลีชีพในกรุงจาการ์ตาได้ แต่เห็นว่าการแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งออสเตรเลียได้เตรียมความพร้อมในส่วนของตนไว้เสมอ และปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจอินโดนีเซียประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในการกวาดล้างความพยายามก่อการร้าย      ด้านนางมาร์ซูดี ไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องแผนการก่อการร้ายเช่นกัน กล่าวเพียงว่า การแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในความร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างอินโดนีเซียกับออสเตรเลีย ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์วันที่ 21 ธันวาคม 2558, 19:00 น. Link : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/679418