ทางการสหรัฐฯ เผยถูกจารกรรมข้อมูลครั้งใหญ่ ระบุกำลังสงสัยว่าต้นทางมาจากประเทศจีน

Loading

หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal และสถานีโทรทัศน์ CNN รายงานว่าหน่วยสืบสวนกลางของสหรัฐ (FBI) กำลังทำการสอบสวนเหตุการณ์การจารกรรมข้อมูล  การจารกรรมข้อมูล การเข้าถึงความลับ จากระบบของรัฐบาลกลางที่อาจถือ ว่าเป็นการจารกรรมข้อมูลครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอาจจะมีข้อมูลส่วนบุคคลหลุดออกไปมากถึง 4 ล้านรายการ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสอบสวนกลางระบุว่า การจารกรรมข้อมูลครั้งนี้ตรวจพบตั้งแต่เดือนเมษายนของปีนี้ และกระจายไปตามหน่วยงานต่างๆ โดยหน่วยงานที่โดนระบุชื่ออย่างชัดเจนคือ Office of Personnel Management ที่เป็นองค์กรบริหารบุคลากรของรัฐบาลกลาง (เทียบกับบ้านเราใกล้เคียงที่สุดคือ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) เจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังสงสัยว่า การแฮกดังกล่าวนี้มีต้นทางมาจากประเทศจีนและแฮกเกอร์อาจได้รับการสนับสนุน จากทางการจีน ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐอเมริกาออกมาปฏิเสธความเกี่ยวข้อง และระบุว่าอย่ารีบด่วนสรุปจนเกินไป อนึ่ง ในช่วงที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปอย่างไม่ค่อยราบรื่นนัก โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่สหรัฐส่งเครื่องบินสอดแนม บินใกล้กับหมู่เกาะทะเลจีนใต้ที่ทางการจีนอ้างสิทธิว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตัวเอง ที่มา – The Wall Street Journal (อาจจำเป็นต้องสมัครสมาชิก), CNN

จีนจำคุกนักข่าวหญิง เกา อี๋ว์ วัย 71 ปี ในความผิดปล่อยความลับแห่งชาติรั่วไหล

Loading

เอเจนซี–ศาลปักกิ่งตัดสินจำคุก 7 ปี นักข่าวหัวเห็ด เกา อี๋ว์ ผู้มักแฉคอรัปชั่นในกลุ่มชนชั้นนำบนเวทีการเมืองจีน ในความผิดปล่อยความลับของชาติรั่วไหล ศาลประชาชนชั้นกลาง หมายเลข 3 แห่งกรุงปักกิ่ง แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ขององค์กรในวันศุกร์ (17 เม.ย.) ระบุ นาง เกา อี๋ว์ วัย 71 ปี “ได้ฝ่าฝืนกฎหมายส่งข้อมูลที่เป็นความลับของรัฐให้แก่ต่างชาติ” จึงมีความผิดฐานปล่อยความลับของชาติรั่วไหลสู่ต่างแดน ศาลฯได้ตัดสินโทษนางเกา อี๋ว์ ได้แก่ โทษจำคุก 7 ปี และริบสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 1 ปี หลังจากได้รับการปล่อยตัว ศาลปักกิ่งได้เปิดการสอบปากคำพยานในคดีนางเกา อี๋ว์ ตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา (2557) โดยจำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่กลุ่มผู้สื่อข่าวจีนมักโดนฯเพื่อลากตัวเข้าคุก สำหรับนางเกา ถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ปีที่แล้ว ในฐานะผู้ต้องสงสัย “ปล่อยความลับของชาติรั่วไหลสู่ต่างแดน” สื่อทางการจีนรายงานกล่าวหาว่า นางเกา ได้เอกสารข้อมูลความลับของพรรคคอมมิวนิสต์มาอย่างผิดกฎหมาย และเผยแพร่ความลับนี้บนเว็บไซต์ของต่างชาติ เป็นที่เชื่อกันว่าเอกสารความลับฉบับที่เกาได้มานั้น เป็นเอกสารหมายเลข 9 ของพรรคฯ…

เกาหลีใต้จับกุมทหารฐานเผยความลับให้จีน

Loading

ภาพประกอบ แฟ้มภาพ – เรือกองทัพเรือเกาหลีใต้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ 4 ก.ค.58 ว่ากระทรวง กลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เรื่องการจับกุมทหารเรือนายหนึ่งในข้อหาเปิดเผยความลับทางทหารให้กับจีน นาวาตรีที่ถูกจับครั้งนี้ถูกกล่าวหาว่าได้ขายข้อมูลความลับของทางการเพื่อแลกกับเงินในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศจีนระหว่างปี 2552-2555 เขาทำงานอยู่ที่ศูนย์ควบคุมความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานต่อต้านการข่าวกรอง เมื่อเดือนที่แล้วเจ้าหน้าที่สองคนจากศูนย์แห่งนี้ถูกตัดสินจำคุก 4 -6 ปี ฐานเผยความลับของทางการให้กับตัวแทนผู้ค้าอาวุธ แหล่งที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วันที่ 4 กรกฎาคม 2558

อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับสำนวนการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด

Loading

ผู้อุทธรณ์ : นาง ก. หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ : การทางพิเศษแห่งประเทศไทย อุทธรณ์เรื่องนี้ได้ความว่า นาง ก. ผู้อุทธรณ์ พนักงานบริหารงานทั่วไป ๗ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีบันทึกลงวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยขอข้อมูลข่าวสารเพื่อประกอบการดำเนินการ กรณีการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีคำสั่งให้ผู้อุทธรณ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยตามมติคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ความรับผิดทางละเมิด โดยผู้อุทธรณ์ขอเอกสารในสำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด จำนวน ๕ รายการ คือ ๑. คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่ ๒๑๑/๒๕๕๓ลงวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ ๒. สาเหตุหรือความเสียหายแก่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเห็นว่ามีเหตุอันสมควรเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของผู้อุทธรณ์ ๓. สำเนาการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มทำการสอบสวนจนถึงรายงานการสรุปผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ เสนอผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยให้ออกคำสั่งดังกล่าว ๔. รายละเอียดกรณีให้ผู้อุทธรณ์ต้องรับผิดชดใช้เงินที่ถูกยักยอกไปส่วนไหน สัดส่วนเท่าใด มีผู้ใดที่ต้องร่วมรับผิดชดใช้จำนวนเท่าใด ใช้เกณฑ์ใดเป็นตัวกำหนด ๕. เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องที่คณะกรรมการฯ นำมาใช้ประกอบการพิจารณาอันเป็นเหตุให้ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีคำสั่งที่ ๔๖๖/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕ การทางพิเศษแห่งประเทศไทยมีหนังสือ ลับ…

อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต ๒ เกี่ยวกับการสอบสวนข้อเท็จจริง

Loading

ผู้อุทธรณ์ : นาง ก. หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒ อุทธรณ์เรื่องนี้ได้ความว่า นาง ก. ผู้อุทธรณ์ ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านโคกหล่าม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒ ถูกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง กรณีมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับนาย ส. ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบอนใหญ่ โดยต่างฝ่ายต่างมีคู่สมรสโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้วเป็นเหตุให้ครอบครัวอีกฝ่ายได้รับความเดือดร้อน ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๒ มีคำสั่งลงโทษปลดผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ ผู้อุทธรณ์จึงอุทธรณ์คำสั่งลงโทษต่อ อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ซึ่งทำการแทนคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต่อมา อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ พิจารณาแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ ผู้อุทธรณ์เป็นเพียงความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงสมควรให้ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งลดโทษผู้ฟ้องคดีจากปลดออกจากราชการเป็นลดขั้นเงินเดือนหนึ่งขั้นและสั่งให้ผู้อุทธรณ์กลับเข้ารับราชการต่อมาผู้อุทธรณ์จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองนครราชสีมา ซึ่งศาลปกครองนครราชสีมามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ว่าผู้อุทธรณ์มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินสมควรกับนาย ส. ซึ่งเป็นคู่สมรสของผู้อื่น อันเป็นพฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการกระทำที่เสื่อมเสียถึงเกียรติของข้าราชการและความรู้สึกของสังคมที่มีต่อการกระทำของผู้อุทธรณ์ซึ่งเป็นข้าราชการครู ผู้ต้องเป็นแบบอย่างต่อสังคมอันทำให้ราชการได้รับความเสียหายต่อภาพพจน์ชื่อเสียง แต่พฤติการณ์เป็นเพียงความผิดวินัยไม่ร้ายแรงคำสั่งลดโทษผู้อุทธรณ์จึงเหมาะสมและชอบด้วยกฎหมาย ผู้อุทธรณ์จึงมีหนังสือลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ ถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ…

อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของโรงพยาบาลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด เกี่ยวกับข้อมูลการรักษาพยาบาล

Loading

ผู้อุทธรณ์ : นาง ก. หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ : โรงพยาบาลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด อุทธรณ์เรื่องนี้ได้ความว่า นาง ก. ผู้อุทธรณ์ มีหนังสือลงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๖ถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด และหนังสือลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ขอข้อมูลการรักษาพยาบาลของนายพนัส ธรรมเกตุ ซึ่งเป็นคู่สมรสที่ถึงแก่ความตาย เพื่อประกอบการขอรับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันชีวิตโรงพยาบาลอาจสามารถเสนอความเห็นต่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดว่า ไม่อาจเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้อุทธรณ์ได้เพราะต้องรับผิดตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๕๐ และต่อมานายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดมีบันทึกท้ายคำขอผู้อุทธรณ์ฉบับลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ เห็นชอบด้วยกับความเห็นของโรงพยาบาลอาจสามารถที่ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแก่ผู้อุทธรณ์ผู้อุทธรณ์มีหนังสือ (ไม่ได้ระบุวันที่) เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ถึงคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ อุทธรณ์คำสั่งของโรงพยาบาลอาจสามารถที่ไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าวคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายพิจารณาคำอุทธรณ์ คำชี้แจงของผู้อุทธรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาจสามารถเหตุผลที่โรงพยาบาลอาจสามารถไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร และเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว ข้อเท็จจริงสรุปความได้ว่า ผู้อุทธรณ์เป็นภรรยาของนาย ข. ซึ่งได้ทำสัญญาประกันชีวิตไว้กับบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด โดยกรมธรรม์ระบุให้ผู้อุทธรณ์เป็นผู้รับประโยชน์ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๕นาย ข. ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอาจสามารถซึ่งตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอาจสามารถกับโรงพยาบาลศรีนครินทร์อยู่ระยะหนึ่ง ต่อมานาย ข.กลับไปรักษาตนเองที่บ้าน และเสียชีวิตในวันที่ ๒๗…