เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่าตำรวจปารีสจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของเมืองหลวงแดนน้ำหอม ที่ได้รับอาวุธไรเฟิลจู่โจม กับโล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟไปใช้งาน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว
แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้ถูกสงวนไว้ให้เฉพาะกองกำลังระดับหัวกะทิ แต่ตอนนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ใช้ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที คอยหนุนให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับการสังหารหมู่
“อาชญากรบางรายที่คุณต้องเผชิญหน้าด้วยนั้น พวกเขาไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธหนักกับคุณ ดังนั้นคุณจะต้องพกพาอาวุธหนักเพื่อยิงตอบโต้กลับไป รวมถึงต้องมีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย” คาเซเนิฟ บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจปารีส
ตำรวจหน่วยต่อต้านอาชญากรรม (บีเอซี) ที่มักจะปฏิบัติการในชุดสวมใส่ธรรมดา จะได้รับไรเฟิลจู่โจม “Heckler & Koch G36” จำนวน 204 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1,800 ตัว, โล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟ 241 อัน อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ยังรวมถึงปืนไฟฟ้า “เทเซอร์” กับของอื่นๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าราว 17 ล้านยูโร
การเพิ่มสมรรถภาพของตำรวจฝรั่งเศสในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มือปืนของพวกญิฮัดหัวรุนแรงได้ใช้ปืนคาลาชนิคอฟและระเบิดฆ่าตัวตาย ก่อเหตุร้ายบริเวณจุดแสดงคอนเสิร์ต ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งในปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน จนมีผู้เสียชีวิต 130 ราย บาดเจ็บหลายร้อย
ตอนนั้นตำรวจบีเอซีคนหนึ่ง คือผู้ที่ไปถึงบริเวณโถงคอนเสิร์ตบาตาคล็องเป็นรายแรก เขามีเพียงปืนพกติดตัว ตำรวจรายนี้สามารถสังหารหนึ่งในคนร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปราว 90 ราย ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ต
อย่างไรก็ตาม แม้จะสังหารคนร้ายได้ แต่ในตอนแรกตำรวจผู้นี้ถูกบีบให้ต้องถอยและรอจนกว่าตำรวจชุดพิเศษจะมาถึงเนื่องจากเขาไม่มีอาวุธที่เพียงพอจะต่อกรกับคนร้าย 2 รายในอาคาร
หายนะครั้งนั้นทำให้ทางการฝรั่งเศสต้องประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งมีการขยายเวลาไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้
————————————
ที่มา : MGR Online วันที่ 1 มีนาคม 2559 17:53 น.
Link : http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000022069