IRA-style booby trap bomb wounds prison officer in Belfast

Loading

DUBLIN — Irish Republican Army die-hards tried to kill a Belfast prison officer with an under-car booby trap bomb and are plotting to kill Northern Ireland security forces as the 100th anniversary of an Irish rebellion against British rule approaches, a police commander warned Friday. Stephen Martin, assistant chief constable of the Northern Ireland police,…

ฝรั่งเศสอนุมัติให้ตำรวจพกอาวุธหนัก หวังรับมือก่อการร้ายทันท่วงที

Loading

     เอเจนซีส์ – รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ระบุเมื่อวันจันทร์ (29 ก.พ.) ว่าตำรวจปารีสจะเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกของเมืองหลวงแดนน้ำหอม ที่ได้รับอาวุธไรเฟิลจู่โจม กับโล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟไปใช้งาน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเมื่อปีที่แล้ว      แบร์นาร์ด คาเซเนิฟ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสระบุว่า ที่ผ่านมาอาวุธเหล่านี้ถูกสงวนไว้ให้เฉพาะกองกำลังระดับหัวกะทิ แต่ตอนนี้จะเปิดโอกาสให้ตำรวจได้ใช้ เพื่อจะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที คอยหนุนให้กับทีมเจ้าหน้าที่ตรวจตรา โดยเฉพาะเวลาที่เจอกับการสังหารหมู่      “อาชญากรบางรายที่คุณต้องเผชิญหน้าด้วยนั้น พวกเขาไม่ลังเลใจที่จะใช้อาวุธหนักกับคุณ ดังนั้นคุณจะต้องพกพาอาวุธหนักเพื่อยิงตอบโต้กลับไป รวมถึงต้องมีการป้องกันที่เหมาะสมด้วย” คาเซเนิฟ บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในสถานีตำรวจปารีส      ตำรวจหน่วยต่อต้านอาชญากรรม (บีเอซี) ที่มักจะปฏิบัติการในชุดสวมใส่ธรรมดา จะได้รับไรเฟิลจู่โจม “Heckler & Koch G36” จำนวน 204 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1,800 ตัว, โล่กันกระสุนปืนคาลาชนิคอฟ 241 อัน อุปกรณ์ใหม่เหล่านี้ยังรวมถึงปืนไฟฟ้า “เทเซอร์” กับของอื่นๆ รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าราว 17 ล้านยูโร…

คู่มือการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับ

Loading

“การประชุมลับ” ตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ หมายความว่า การร่วมปรึกษาหารือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ และให้หมายความรวมถึงการหาข้อยุติ ข้อพิจารณา ความเห็น การอภิปราย การบรรยาย การบรรยายสรุป และเหตุการณ์ที่ปรากฏในการประชุมลับนั้นด้วย

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยอีเมล์ชุดสุดท้ายของคลินตัน

Loading

     วอชิงตัน 1 มี.ค.- กระทรวงต่างประเทศสหรัฐนำอีเมล์ชุดสุดท้ายจากเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวที่นางฮิลลารี คลินตันใช้ส่งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศมาเปิดเผยในเว็บไซต์      โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อีเมล์ชุดสุดท้ายมีประมาณ 3,800 หน้า รวมเป็นอีเมล์ที่เปิดเผยแล้วกว่า 52,000 หน้า บางหน้าผ่านการตรวจทานเนื้อหาบางส่วนเนื่องจากเป็นการติดต่ออย่างเป็นทางการ อีเมล์ชุดท้ายไม่มีเนื้อหาที่เป็นเอกสารลับ หนึ่งในนั้นเป็นอีเมล์เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือที่หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐแย้งว่าควรถือว่าเป็นความลับ แต่กระทรวงพิจารณาแล้วสรุปว่าไม่ใช่ ส่วนอีเมล์ระหว่างนางคลินตันกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาถูกนำออกจากอีเมล์ชุดสุดท้ายก่อนเผยแพร่ แม้เนื้อหาไม่ถือว่าเป็นความลับแต่จัดเป็นบันทึกภายในของทำเนียบขาว นอกจากนี้มีอีเมล์หนึ่งหน้าที่ไม่นำมาเปิดเผยเพราะเป็นไปตามคำขอของหน่วยงานด้านกฎหมาย      นางคลินตันหวังว่า การเปิดเผยอีเมล์จะช่วยสยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เธอไม่ใช้บัญชีอีเมล์ของทางการขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และกลายเป็นประเด็นให้ผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐใช้โจมตีเธอ อย่างไรก็ตาม คณะสอบสวนรัฐบาลกลางจะยังเดินหน้าสอบสวนต่อไปว่า การที่เธอใช้เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวขณะดำรงตำแหน่งถือเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ ————————————– ที่มา : สำนักข่าวไทย / 1 มีนาคม 2559 Link : http://www.tnamcot.com/content/414601

Final set of Clinton emails released

Loading

The US State Department has released the final batch of emails from former Secretary of State Hillary Clinton’s private computer server. The release has brought the total number of emails that were withheld or censored for containing information now-deemed classified to more than 2,000. The department released the concluding set of around 1,700 emails on…

สหรัฐบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ คุมเข้ม 38 ประเทศ หวั่นก่อการร้าย

Loading

     กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ของสหรัฐ เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ส่งผลให้ประชาชน 38 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่า ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ ขณะที่อิหร่าน ได้ออกมาร้องเรียนว่าเป็นกฎหมายที่ละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ทำไว้กับ 6 ชาติมหาอำนาจ      ปัญหาการก่อการร้ายจากการโจมตีกรุงปารีส ของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ปีก่อน ได้ทำให้สหรัฐตัดสินใจทบทวนโครงการยกเว้นวีซ่ากับ 38 ประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาความปลอดภัย จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่ในการคุมเข้มสำหรับชาวต่างชาติ ส่งผลให้ประชาชนในประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าภายใต้โครงการดังกล่าว ต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดก่อนจะเดินทางเข้าสหรัฐ      กฎหมายวีซ่าฉบับใหม่นี้ มีผลบังคับใช้ทันทีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามรับรองเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติรับรองร่างกฎหมายเพิ่มความเข้มงวดต่อโครงการยกเว้นวีซ่าเข้าสหรัฐอย่างท่วมท้นด้วยคะแนนเสียง 407 ต่อ 19 เสียง      โดยการลงมติครั้งนี้ ได้ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดใหม่เรื่องการขอวีซ่าสำหรับพลเมืองชาวอิรัก ซีเรียและประเทศอื่นๆที่เชื่อได้ว่าเป็นแหล่งของพวกก่อการร้ายตลอดจนใครก็ตามที่เดินทางไปยังประเทศเหล่านั้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนประชาชนที่เคยเดินทางไปอิหร่านและซูดานที่สหรัฐกล่าวหาว่าสนับสนุนการก่อการร้ายจำเป็นต้องขอวีซ่าด้วย นอกจากนี้ มาตรการใหม่ยังกำหนดให้ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการยกเว้นการขอวีซ่าทำการตรวจสอบนักเดินทางที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลของตำรวจสากล เพื่อพิจารณาว่าคนเหล่านั้นเป็นที่ต้องการของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายฐานมีความสัมพันธ์กับการก่อการร้าย หรือการก่ออาชญากรรมใดๆ หรือไม่      ทั้งนี้ภายใต้โครงการดังกล่าว…