จากหนังสือ “ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ” กรมศิลปากร มีเนื้อความเกี่ยวกับวิธีการจัดกำลังพล อาวุธ และพาหนะสำหรับถวายความปลอดภัยและการอารักขาต่อพระมหากษัตริย์ตามแต่การเสด็จพระราชดำเนินจะเป็นทางสถลมารคที่แยกออกเป็นทางกระบวนราบ กระบวนช้าง กระบวนม้า หรือการเสด็จโดยทางชลมาคร ซึ่งการจัดดังกล่าวก็คือ วิธีการวางแนวทางรักาความปลอดภัยนั้นเอง และในบางวิธียังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน อย่างเช่น หนังสือเล่มนี้ ในภาคที่ ๑๙ ตำรากระบวนเสด็จพระราชดำเนินครั้งกรุงศรีอยุธยา
เรื่อง ล้อมวง ณ ที่ประพาส
“ แลพันเทพราชกลาโหมได้เกณฑ์พันทนายคบหอก หมู่ตำรวจในซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ตำรวจใหญ่ ซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ตำรวจนอก ซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวม ๒๐หมู่ทหารใน ซ้าย ๑๖ ขวา ๑๖ รวม ๓๒ หมู่ทนาย เลือกหอก ซ้าย ๑๐ ขวา ๑๐ รวม ๒๐ รวมทั้งสิ้น ๑๒๖ คน ล้อมวงชั้นในชั้นนอก
พันอินทราช(กลาโหม) เกณฑ์ปืนหามแล่น หมู่ตำรวจใน ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก หมู่ตำรวจใหญ่ ซ้าย ๒ ขวา ๒ รวม ๔ กระบอก อาสาเดโชกระบอก ๑ อาสาท้ายน้ำกระบอก ๑ อาสาซ้ายระบอก ๑ อาสาขวากระบอก ๑ รวม ๑๒ กระบอก ล่วงไปล้อมวงชั้นใน
และหมื่นนรินทรเสนี พันเทพราชได้เกณฑ์เจ้ากรม ปลัดกรมอาสา ๖ เหล่า อาสาจาม ตั้งกองรายล้อมวงชั้นนอก
และหมื่นนรินทรเสนี เกณฑ์หลวง ขุน หมื่น ฝ่ายทหารขึ้นวัดขึ้นสวนขึ้นมะม่วง๑ ครั้นเสด็จถึงที่ประทับฉนวน แล้วผู้คนเอากราบทูลพระกรุณา ฯ.”
เรื่อง เสด็จทางสถลมารค กระบวนราบ
“ อนึ่ง ถ้าเสด็จทางสถลมารค ออกจากพระราชวังไปวัดวาอาราม ถ้าไปแห่งใดๆ มิได้ประทับแรม.
——————–
๑ ตรงนี้เห็นจะหมายความว่า ขึ้นตรวจที่เสด็จประพาสก่อนเสด็จไปถึง
หมื่นนรินทรเสนี เกณฑ์ หลวง ขุน หมื่นตำรวจในตำรวจนอก ตำรวจใหญ่ อาสา ๖ เหล่า ค้นวัดวาอาราม สุมทุมพุ่มไม้ คอยกราบทูลพระกรุณา ฯ.”
จะเห็นจากเนื้อความที่เน้นตัวดำในเรื่อง “ล้อมวง ณ ที่ประพาส”และ“เสด็จทางสถลมารค กระบวนราบ” ว่าต่างต้องจัดกำลังพลไปทำการตรวจสอบความปลอดภัยของพื้นที่และบริเวณโดยรอบ ณ จุดที่พระมหากษัตริย์จะเสด็จไป ซึ่งในปัจจุบันก็คือ มาตรการเข้าควบคุมและตรวจสอบสถานที่เพื่อการรักษาความปลอดภัยนั้นเอง