กสทช.นำร่องใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือสำหรับผู้ซื้อซิมการ์ดใหม่ แบบเติมเงิน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ป้องกันการก่อเหตุร้ายโดยใช้มือถือจุดชนวนระเบิดและเพื่อยกระดับการยืนยันตัวตน
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานอ้างคำพูดนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ระบุว่านอกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว 2 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ อ.นาทวี และ อ.จะนะ จะเริ่มใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือผู้ซื้อซิมการ์ดประเภทเติมเงินเช่นเดียวกัน เพื่อแสดงตัวตนว่าเป็นบุคคลที่ตรงกับสำเนาบัตรประชาชน และมีลายนิ้วมือที่แสดงไว้กับกรมการปกครองหรือไม่
โดยกสทช.ได้จัดทำระบบการลงทะเบียนซิมการ์ดด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยนำเทคโนโลยีการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้ใช้บริการ มาเปรียบเทียบกับข้อมูลในบัตรประชาชนที่เก็บบันทึกโดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงไปใช้ในการลงทะเบียนด้วยระบบการสแกนลายนิ้วมือ โดยระบบจะส่งข้อมูลบัตรประชาชนไปจัดเก็บที่ฐานข้อมูลของผู้ให้บริการทันที ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกจัดเก็บเป็นความลับและปลอดภัย
- ระเบิดภาคใต้: ความรู้สึกของผู้สูญเสีย
- คำถามถึง “พื้นที่ปลอดภัย” หลังระเบิดปัตตานี?
- ระเบิดบิ๊กซีปัตตานี: ขอความร่วมมือบิ๊กซีหยุดบริการถึง 1 มิ.ย.
นายฐากรกล่าวว่า สำนักงาน กสทช.กำหนดให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกค่ายเริ่มทดลองใช้งานจริงในพื้นที่กรุงเทพฯ ค่ายละ 1 จุดให้บริการ ในช่วงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังให้บริการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 2 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ อำเภอนาทวี และอำเภอจะนะ รวมทั้งสิ้น 30 จุด จากนั้นจะมีการประเมินผลและขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ หรือราว 3 หมื่นจุดได้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า
ด้านเว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า สำหรับเหตุที่ต้องให้สแกนลายนิ้วมือเพื่อยกระดับการยืนยันตัวตนและเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รวมถึงจากปัญหาธุรกิจสีเทาและธุรกิจออนไลน์ดดดซึ่งส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนทางการเงินในระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อป้องกันหรือตรวจสอบได้หากมีการนำโทรศัพท์ไปจุดชนวนก่อเหตุระเบิดซึ่งที่ผ่านมามักเป็นการจุดชนวนจากเครื่องที่ใช้ระบบเติมเงิน
เหตุระเบิดที่ศูนย์การค้าบิ๊กซีในเมืองปัตตานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 พ.ค. ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 61 คน
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าในการลงทะเบียนซื้อซิมการ์ดแบบเติมเงินจะต้องใช้ลายพิมพ์นิ้วมือ และตรวจสอบใบหน้าว่าตรงกับในบัตรประชาชนหรือไม่ โดยเป็นระบบที่ทางการนำมาใช้เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ก่อเหตุร้ายใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่จุดชนวนระเบิด
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า บอกกับรอยเตอร์ว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะทำให้ผู้ก่อเหตุซื้อซิมการ์ดประเภทเติมเงินได้ยากขึ้น และยังช่วยให้ทางการสามารถตามตัวคนร้ายได้ด้วย อย่างไรก็ดี พ.อ.ปราโมทย์ ยอมรับว่าคนร้ายหันไปซื้อโทรศัพท์มือถือและซิมการ์ดจากประเทศมาเลเซียแทน
รอยเตอร์ระบุด้วยว่าเหตุไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เกิดบ่อยครั้งขึ้นในปีนี้ โดยล่าสุดเป็นเหตุระเบิดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในจังหวัดปัตตานีในเดือนนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 60 คน
ด้านศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้รายงานว่า เหตุไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 6,500 คน
ที่มา : BBC THAI
ลิงค์ : http://www.bbc.com/thai/thailand-40050383?ocid=socialflow_facebook