หลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่คอนเสิร์ตเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศยกระดับ การเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายเป็นระดับ “วิกฤต” ซึ่งคือขั้นสูงสุด
นางแอมเบอร์ รัดด์ รัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษ บอกกับรายการ Today ของสถานีวิทยุ Radio 4 ของบีบีซี เมื่อวันพุธว่า การยกระดับนี้หมายความว่า ตำรวจสามารถขอกำลังเสริมจากทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ได้ 3,800 นาย และขยายเวลาไปได้นานเท่าที่จำเป็น
- เพิ่มเติม: รัฐมนตรีมหาดไทย ชี้ มือระเบิดเมืองแมนเชสเตอร์ ไม่น่าจะก่อเหตุโดยลำพัง
- ระเบิดแมนเชสเตอร์: สหราชอาณาจักรยกระดับรับมือภัยก่อการร้ายสูงสุด
ระดับการเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายระดับนานาชาติถูกเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อเสิงหาคม 2006 หนึ่งปีหลังจากเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนซึ่งมีผู้เสียชีวิต 52 คน
เกณฑ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 5 ระดับด้วยกัน ตั้งแต่เริ่มเปิดเผยให้สาธารณะทราบ ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่การประเมินระดับการเฝ้าระวังต่ำกว่า “มาก” และก็ไม่เคยปรับลดไประดับนั้นอีกเลยตั้งแต่ สิงหาคม 2014
นิยามระดับการเฝ้าระวังภัยก่อการร้าย โดย หน่วยข่าวกรองอังกฤษ MI5
ต่ำ: มีความเป็นไปได้ต่ำ
กลาง: มีความเป็นได้ แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
มาก: มีความเป็นไปได้สูง
ร้ายแรง: มีความน่าจะเกิดขึ้นสูงมาก
วิกฤต: คาดว่าจะเกิดเหตุขึ้นในเร็ววันนี้
ระดับการเฝ้าระวังภัยระดับ “วิกฤต” เคยเกิดขึ้นสองครั้งด้วยกัน โดยในครั้งแรกเกิดเมื่อ 10 สิงหาคม 2006 เก้า วันหลังจากเกณฑ์นี้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ และหลังจากการการเปิดโปงแผนวางระเบิดเครื่องบินถึง 10 เที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรไปสหรัฐอเมริกา
ส่วนครั้งที่สอง คือเหตุก่อการร้ายโดยขับรถพุ่งชนสนามบินกลาสโกว์ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2007 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตคนเดียว คือหนึ่งในผู้ก่อการร้ายเอง
โดยจากทั้งสองเหตุการณ์ ระดับการเฝ้าระวังภัยถูกคงอยู่ไว้ที่ “วิกฤต” ไม่เกิน 4 วัน
ก่อนมาตรวัดระดับนี้จะถูกปรับขึ้นมาเป็น “วิกฤต” เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระดับถูกคงไว้ที่ “ร้ายแรง” มาถึง 998 วัน
ที่มา : BBC Thai
ลิงค์ : http://www.bbc.com/thai/international-40035316