นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท. ได้ปรับปรุงระเบียบ ทอท. ว่าด้วยการเข้าออกหรืออยู่ในพื้นที่ เพื่อรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2560 เพื่อให้การรักษาความปลอดภัยสอดคล้องกับแนวทางที่กำหนดในแผนรักษาความปลอดภัยในการบินพลเรือนแห่งชาติ และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เรื่อง หลักเกณฑ์ในการออกบัตรอนุญาตเข้าพื้นที่หวงห้ามของสนามบิน พ.ศ.2560 โดยยกเลิกบัตรส่วนกลาง และบัตรปฏิบัติงานทั้งหมดที่ไม่มีภาพถ่าย และกำหนดให้บัตรอนุญาตเข้าพื้นที่เพื่อการรักษาความปลอดภัยมี 2 ประเภท คือ บัตรอนุญาตฯ แบบถาวร และแบบชั่วคราว โดยต้องมีภาพถ่ายของผู้ถือบัตรอยู่บนหน้าบัตรด้วย ทั้งนี้ได้เริ่มปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายนิตินัย กล่าวต่อว่า การออกบัตรอนุญาตฯ เพื่อใช้สำหรับเข้าออกหรืออยู่ในพื้นที่ของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับบุคคลที่สามารถมีบัตรเข้าพื้นที่หวงห้าม 7 ประเภท ได้แก่
1.กรรมการ พนักงานและลูกจ้าง ทอท.
2.ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ ราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ที่ได้รับคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้องจากหน่วยงานต้นสังกัด และได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานประจำ ณ สถานที่ทำการในท่าอากาศยาน
3.เจ้าหน้าที่บริษัทการบิน
4. ผู้ประกอบการ ผู้รับจ้างเหมาบริการ ผู้เช่าหรือใช้พื้นที่ท่าอากาศยาน รวมทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจในท่าอากาศยาน และได้รับสัมปทานหรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ในพื้นที่
5.เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล องค์การชำนัญพิเศษ หรือองค์การระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ต้อนรับและอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่ส่งถุงเมล ซึ่งกระทรวงต่างประเทศรับรอง หรือเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศที่กระทรวงกลาโหมรับรอง
6. คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของท่าอากาศยานตามที่ ทอท.แต่งตั้ง
7.บุคคลในหน่วยงานอื่น ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ทอท.กำหนด
นายนิตินัย กล่าวด้วยว่า บุคคลที่ขอบัตรฯ ใหม่ หรือขอต่ออายุบัตรฯ ต้องมีหนังสือแสดงผลการตรวจสอบประวัติทุกครั้ง รวมทั้งหน่วยงานที่ขอบัตรรักษาความปลอดภัยสำหรับบุคคลชนิดชั่วคราว ต้องมีผู้ที่มีบัตรฯ ชนิดถาวรเป็นผู้ติดตามตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย และผู้ติดตามสามารถทำหน้าที่ได้ครั้งละไม่เกิน 5 คน ซึ่ง ทอท.ได้ดำเนินการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน เที่ยวบินและผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้ใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.มีความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเพื่อยกระดับมาตรฐานการบินไทยอีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับการตรวจสอบจากไอเคโอ ซึ่ง กทพ.อยู่ระหว่างยื่นเอกสารเพื่อแจ้งให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบไอซีวีเอ็มเป็นการตรวจสอบซ้ำเพื่อนำไปสู่การปลดลอคธงแดงตามแผนที่วางไว้ในปลายปีนี้ ประกอบกับเป็นการรับมือรวจสอบแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน หรือ ยูแซฟ (Universal Security Audit Programme – USAP)ในระหว่างวันที่ 11 ก.ค.-21ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีการตรวจสอบสนามบินทั้งสองแห่งของทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์
ลิงค์ : http://www.posttoday.com/biz/gov/502890