ครม.ผ่านร่าง พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร ให้หน่วยงานรัฐเชื่อมข้อมูล ปัดล้วงความลับ ปชช.

Loading

ทีมโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร ให้หน่วยงานรัฐเชื่อมข้อมูลกับทะเบียนราษฎร มท. “สรรเสริญ” เบรก ไม่ได้ล้วงความลับของประชาชน อนุญาตให้เข้าถึงเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันนี้ (17 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำวันที่ 17 ต.ค. 2560 ว่าที่ประชุมเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงเกี่ยวกับการปฏิบัติเกี่ยวกับทะเบียนราษฎรให้มีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคัญ คือ 1. อนุญาตให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐสามารถเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎรได้ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้เพื่อความเหมาะสมต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐในสถานการณ์ปัจจุบัน 2. เพิ่มการรับแจ้งเกิดเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กเร่ร่อน เด็กที่ไม่ปรากฎบุพการี หรือไม่สามารถพิสูจน์สถานะการเกิดได้ 3. กำหนดการให้เลขประจำบ้านเฉพาะบ้านที่ปลูกอาศัยถูกต้องตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือกฎหมายอื่น กำหนดให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางจะกำหนดให้มีเลขประจำบ้านสำหรับแพ เรือ หรือสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยประจำ ให้มีทะเบียนบ้านชั่วคราวเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบทางทะเบียน และ 4. แก้ไขเพิ่มเติมมิให้บ้านที่ถูกปลูกสร้างโดยบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์ หรือที่ดินของรัฐที่ไม่ใช่ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย หรือที่ดินทรัพย์สินของราชการ ไม่ให้กำหนดเลขประจำบ้าน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากส่วนราชการหรือหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งนี้ กรณีบ้านที่ปลูกสร้างบุกรุกที่สาธารณะ และได้รับการกำหนดเลขประจำบ้านไปก่อนแล้วให้คงใช้ทะเบียนบ้านชั่วคราวต่อไปได้ แต่ถ้าบ้านดังกล่าวไม่มีผู้อยู่อาศัย หรือเป็นบ้านร้าง…

การประเมินมาตรการรักษาความปลอดภัยจากภาพกรณีการชุมนุมประท้วงและการควบคุมความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐฯ

Loading

รูปภาพการรายงานข่าวสารของสื่อมวลชนทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศเกี่ยวกับกรณีกลุ่มประชาชนจำนวนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมระหว่าง 15-18 กันยายน 2560ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรีสหรัฐฯ เพื่อประท้วงคำตัดสินของศาลยุติธรรมที่ให้ยกฟ้องคดีนายเจสัน สตอกลีย์ อดีตตำรวจเมืองเซนต์หลุยส์ จากข้อหาเจตนาฆ่านายแอนโธนี ลามาร์ สมิธ ชายผิวดำด้วยเหตุต้องสงสัยค้ายาเสพติด เมื่อเดือนธันวาคม 2554 เหตุการณ์ประท้วง 15 กันยายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 33คนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 11 นาย การเริ่มต้นเดินขบวนประท้วงของประชาชนเป็นไปโดยสงบ ช่วงบ่ายจนถึงกลางคืน/ภาพจากรอยเตอร์ ระหว่างการชุมนุมประท้วงช่วงบ่าย ปรากฎกลุ่มคนผิวดำถืออาวุธปืนหลายประเภทเข้าร่วมในกลุ่มเดินขบวน / ภาพจาก AP ข้อพิจารณา จากภาพนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการควบคุมอย่างเข้มงวดกับผู้ชุมนุมประท้วงมากขึ้น ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอุปกรณ์ป้องกันความรุนแรงเริ่มทำการควบคุมพื้นที่ ด้วยการตั้งแถวปะทะกับผู้ประท้วงบางส่วน  / ภาพจากรอยเตอร์ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล เตรียมความพร้อมอาวุธและหน้ากากป้องกันแก๊ซพิษ เนื่องจากกลุ่มผู้เดินขบวนประท้วงเริ่มใช้ความรุนแรงทำลายสิ่งของสาธารณะและทำการขว้างปาก้อนหินใส่บ้านนายกเทศมนตรีเมืองเซนต์หลุยส์ / ภาพจากรอยเตอร์ ในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลแจ้งว่า ควบคุมกลุ่มคนที่ก่อเหตุรุนแรงด้วยการฉีดสเปรย์พริกไทย แต่กลุ่มผู้ประท้วงอ้างว่าเป็นแก๊ซน้ำตา /ภาพจากรอยเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนบรรจุกระสุนพลาสติก จับกุมตัวผู้ที่ใช้ก้อนหินขว้างปาอาคารพานิชย์ / ภาพจากรอยเตอร์ ข้อพิจารณา การประท้วงวันแรกจะเห็นว่า กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เพียงกระบองเป็นอาวุธควบคุมยังไม่นำปืนกลมาใช้ ภาพเหตุการณ์ประท้วง 16 กันยายน …

ยอดเหยื่อระเบิดในโซมาเลีย ทะลุ 270 ราย

Loading

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดสองครั้งซ้อนในโซมาเลีย ทะยานขึ้นเป็น 276 คน เจ็บอีกอย่างน้อย 300 คน และนับเป็นเหตุโจมตีที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีด้วยรถบรรทุกระเบิด 2 ครั้งซ้อน ในโซมาเลียเมื่อวันเสาร์ พุ่งเป็น 276 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 300 คน ซึ่งจุดแรกเกิดขึ้นบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้าโรงแรมซาฟารี ที่มีคนพลุกพล่านใจกลางกรุงโมกาดิชู ตามด้วยจุดที่สองในเขตเมดินา ในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา กลายเป็นเหตุโจมตีที่นองเลือดที่สุดในครั้งเดียว นับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธมุสลิมเริ่มเคลื่อนไหว เมื่อปี 2550ปธน.โมฮัมเหม็ด อับดุลลาฮี โมฮัมเหม็ด ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศ เป็นเวลา 3 วัน และเรียกร้องขอบริจาคเลือดและเงินเพื่อช่วยเหลือเหยื่อระเบิด นายกฯ ฮัสซัน อาลี ไครา ได้ประนามว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงอัล-ชาฮับ ที่ฝักใฝ่อัล ไกดา และเรียกว่าเป็น “หายนะแห่งชาติ” แต่กลุ่มนี้ยังไม่ได้แสดงตัวใดๆตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บได้มาจากแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ และมียังศพอีกมากในห้องเก็บศพที่ยังไม่ถูกระบุอัตลักษณ์ แพทย์ต้องเร่งรับมือกับผู้บาดเจ็บที่ส่วนใหญ่มีบาดแผลไหม้เกรียมจนจำแทบไม่ได้ และเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ หลายครอบครัวยังคงค้นหาญาติที่สูญหายตามซากอาคาร ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคง ค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารโรงแรมซาฟารี ที่อยู่ใกล้กับกระทรวงต่างประเทศและสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง ร้านอาหาร ร้านค้าสหรัฐฯ…

ฝรั่งเศสเผยเอกสารลับชี้เหตุประหาร “มาตา ฮารี” เมื่อ 100 ปีก่อน

Loading

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 1917 นางมาร์คารีตา เจลเลอ (Margaretha Zelle) หญิงชาวดัตช์วัย 41 ปี ถูกศาลสั่งประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าที่ลานแห่งหนึ่งชานกรุงปารีสของฝรั่งเศส ในขณะนั้นแทบไม่มีใครรู้จักหญิงชื่อดังกล่าว แต่สาเหตุที่ทำให้เธอต้องโทษร้ายแรงกลับมาจากตัวตนอีกด้านหนึ่ง ซึ่งผู้คนรู้จักกันดีภายใต้โฉมหน้าของนักเต้นระบำเลื่องชื่อผู้ทรงเสน่ห์ “มาตา ฮารี” ทางการของหลายชาติในยุโรปเชื่อว่า เธอคือสายลับตัวอันตราย ที่คอยสร้างความปั่นป่วนให้กับสมรภูมิรบสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง การตายของเธอยังคงเป็นปริศนาว่า ตัวตนของจารชนรหัส “H21” ซึ่งก็คือนักเต้นสาวผู้โด่งดังคนนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นได้อย่างไร และใครคือผู้บงการให้เธอต้องจบชีวิตลงกันแน่ และที่สำคัญที่สุด มีนักประวัติศาสตร์หลายคนตั้งคำถามว่า เธอคือสายลับมือฉมังผู้อุทิศตนรับใช้เยอรมนี หรือแค่ผู้หญิงธรรมดาที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด จนถูกสถานการณ์ชักนำให้ต้องจำยอมทำหน้าที่ล้วงความลับของคู่สงครามทั้งสองฝ่ายกันแน่ “เที่ยวบินสุดท้าย” ของนักบินสงครามโลกครั้งที่ 2 ครบรอบ 50 ปี เช เกวารา: 10 ข้อน่ารู้ของนักปฏิวัติชาวอาร์เจนตินา ในวาระที่ครบรอบหนึ่งศตวรรษมรณกรรมของมาตา ฮารี กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสได้เปิดเผยเอกสารลับจำนวนหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีและการประหารสายลับสาวผู้นี้ออกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรก ในจำนวนนี้รวมถึงบันทึกการสอบปากคำมาตา ฮารีโดยหน่วยต้านจารกรรมของฝรั่งเศส และสำเนาโทรเลขของทูตทหารเยอรมันที่เป็นต้นเหตุให้เธอถูกจับกุมอีกด้วย   เด็กหญิงมาร์คารีตา เจลเลอ ถือกำเนิดในครอบครัวชาวดัชต์ที่มีฐานะ แต่ต่อมาพ่อของเธอล้มละลายและแม่ก็ตายจากไปตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ชีวิตวัยเยาว์ของเธอต้องยากลำบาก…