เอเอฟพี – รายงานข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่สหรัฐฯถูกจับกุมเป็นรายที่ 3 ภายในระยะเวลา 1 ปี เนื่องจากต้องสงสัยว่าช่วยเหลือสปายสายลับของจีน เป็นการเปลือยให้เห็นสงครามอันดุเดือดเข้มข้นระหว่างหน่วยงานข่าวกรองของมหาอำนาจใหญ่ 2 รายนี้
กรณีหน่วยงานรับผิดชอบของทางการอเมริกัน เข้ารวบตัว เจอร์รี ชุน ซิง ลี อดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (ซีไอเอ) เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ถูกระบุว่ามีความเกี่ยวข้องโยงใยกับการที่เมื่อ 5 ปีก่อนปักกิ่งกำจัดกวาดล้างเครือข่ายสายลับและสายข่าวภายในจีนของซีไอเออย่างสุดเหี้ยม
ก่อนหน้านั้นในเดือนมิถุนายน 2017 ก็มีการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯผู้หนึ่ง ชื่อ เควิน มัลลอรี ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ซีไอเอเหมือนกัน เขาถูกตั้งข้อหาว่าส่งมอบความลับต่างๆ ของสหรัฐฯให้พวกสายลับจีนเพื่อแลกกับเงินทองจำนวน 25,000 ดอลลาร์
ย้อนหลังขึ้นไปอีก 3 เดือน แคนแดช ไคลเบิร์น นักการทูตสหรัฐฯซึ่งมีฐานอยู่ในจีน ถูกตั้งข้อหาเนื่องจากรับเงินสดและของขวัญคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นดอลลาร์จากหน่วยงานข่าวกรองจีน
ตามรายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์ หน่วยงานต่อต้านการจารกรรมของสหรัฐฯต้องทำงานอย่างหามรุ่งหามค่ำอย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ปี 2012 เพื่อสืบเสาะหาตัวคนที่อาจฝักใฝ่ปักกิ่ง ซึ่งแฝงฝังตัวอยู่ภายในหน่วยงานสืบราชการลับของอเมริกา
นิวยอร์กไทมส์รายงานเอาไว้เมื่อปีที่แล้วว่า เริ่มตั้งแต่ปี 2010 จนกระทั่งถึงสิ้นปี 2012 ฝ่ายจีนสามารถเปิดโปงและสังหารแหล่งข่าวของซีไอเอซึ่งอยู่ภายในประเทศจีนไปเป็นจำนวน “อย่างน้อยที่สุดสิบกว่าคน” รวมทั้งรวบตัวเอาเข้าคุกอีก 6 คนหรือมากกว่านั้น ข่าวชิ้นนี้บอกว่าในจำนวนพวกที่ถูกฆ่านั้น มีอยู่รายหนึ่งถูกยิงตายต่อหน้าต่อตาพวกเพื่อนร่วมงานของเขา เพื่อเป็นการส่งข้อความถึงคนอื่นๆ ว่าอย่าได้คิดเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
ความหายนะในคราวนั้นได้สร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ความสามารถของรัฐบาลสหรัฐฯในการเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารลับของชาติเอเชียที่กำลังเป็นคู่แข่งสำคัญยิ่งของอเมริกา
ขณะเดียวกันก็ส่อแสดงให้เห็นว่า กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนและหน่วยงานสืบราชการลับของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน สามารถแอบเจาะทะลวงไส้ของฝ่ายข่าวกรองอเมริกันได้
สายลับจีนที่ฝังตัวอยู่ในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ?
ลี ซึ่งปัจจุบันอายุ 53 ปีถูกจับกุมเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 15 ม.ค. หลังโดยสารเครื่องบินมาลงที่นิวยอร์ก
เขาเป็นพลเรือนอเมริกันด้วยการแปลงสัญชาติ และไปพำนักอาศัยอยู่ที่ฮ่องกงหลายปีก่อนจะถูกจับ ทว่าในวัยหนุ่มเขาเคยเป็นทหารในกองทัพบกสหรัฐฯช่วงทศวรรษ 1980 จากนั้นก็ทำงานให้ซีไอเอนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นเวลานาน 13 ปี โดยที่ได้รับความไว้วางใจให้สามารถเข้าถึงชั้นความลับระดับสุดยอด
ตอนนี้เขาถูกตั้งข้อหาความผิดเพียงแค่สถานเดียว นั่นคือ การมีข้อมูลข่าวสารการป้องกันประเทศเอาไว้ในครอบครองอย่างผิดกฎหมาย ทว่าจากคำฟ้องซึ่งยื่นต่อศาล แสดงให้เห็นรายละเอียดของการสืบสวนสอบสวนที่ดำเนินมาอย่างน้อยที่สุด 5 ปี จึงเป็นการบ่งชี้ว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
คำฟ้องระบุว่า เมื่อปี 2012 พวกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้แอบตรวจค้นกระเป๋าเดินทางของลี ขณะที่เขาอยู่ระหว่างการเดินทาง
พวกเขาค้นพบสมุดบันทึก 2 เล่มซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารที่เป็นความลับ เป็นต้นว่า อัตลักษณ์ของสายลับตลอดจนทรัพย์สินของซีไอเอ, บันทึกเรื่องราวการพบปะกับสายลับเหล่านี้, ที่ตั้งของอาคารสถานที่ซึ่งเป็นความลับ, และหมายเลขโทรศัพท์
ในคำฟ้องไม่ได้ระบุว่าข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้องมีค่าอย่างยิ่งสำหรับปักกิ่ง ได้มีการจัดส่งไปให้ฝ่ายจีนหรือว่าฝ่ายนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารพวกนี้แล้วหรือยัง
ขณะที่รายงานข่าวของนิวยอร์กไทมส์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวหลายรายในประชาคมข่าวกรอง บอกว่า ลีเป็นผู้หนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลายๆ รายซึ่งถูกทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจับตามาเป็นปีๆ แล้ว ว่าอาจจะเป็นสายลับจีนที่แฝงตัวในวงการข่าวกรองอเมริกัน
ภัยคุกคามที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในด้านการสืบราชการลับ
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับคดีล่าสุดนี้ แต่สำหรับรัฐบาลอเมริกันนั้นกำลังแสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับงานสปายสายลับของปักกิ่ง
“สหรัฐฯเผชิญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติของตนที่มีขนาดใหญ่โตและขยายตัวมากขึ้นทุกที จากการปฏิบัติการเก็บรวบรวมข่าวกรองของฝ่ายจีน” นี่เป็นข้อความในรายงานฉบับเดือนพฤศจิกายน 2016 ของคณะกรรมการทบทวนด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีน
ย้อนหลังไปอีกหลายๆ ปี เมื่อปี 2008 เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ 2 คนถูกจับกุมเนื่องจากแอบส่งสิ่งที่เป็นความลับให้แก่ ไท่ เฉิน กั๋ว พลเมืองชาวอเมริกันซึ่งอพยพมาจากไต้หวัน โดยที่ทางการสหรัฐฯระบุว่าบุคคลผู้นี้กำลังทำงานให้หน่วยข่าวกรองจีน
เมื่อปี 2010 เจ้าหน้าที่หลายคนตรวจสอบพบว่า เกลนน์ ชรีเวอร์ วัย 28 ปี ผู้ซึ่งสามารถพูดภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่วและซีไอเอกำลังจะนำตัวเข้ามาทำงานด้วย แท้ที่จริงเป็นสายลับที่กินเงินเดือนของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีนอยู่แล้ว และได้รับมอบหมายภารกิจให้พยายามแทรกซึมเข้ามาในซีไอเอ
สำหรับกรณีการจับกุม 3 รายหลังสุด อาจจะเกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนเรื่องเครือข่ายของซีไอเอในจีนถูกกวาดล้างก็เป็นได้
ไคลเบิร์นผู้ถูกจับในเดือนมีนาคม 2017 เคยทำงานอยู่ที่จีนหลายปีโดยสังกัดกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่นั่นเธอมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับชาย 2 คน โดยที่อย่างน้อยที่สุดก็คนหนึ่งซึ่งเธอรู้จักนั้น มาจากกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของแดนมังกร และคอยส่งของขวัญของกำนัลให้เธอทั้งที่เป็นเงินสดและข้าวของอื่นๆ เอกสารที่ยื่นฟ้องต่อศาลระบุ
ทว่าเธอใช้เงินทองเหล่านี้จำนวนมากไปกับชายอีกคนหนึ่ง บุคคลผู้นี้ซึ่งอายุน้อยกว่าเธอครึ่งหนึ่ง เป็นผู้ที่เธออยู่กินด้วยในปักกิ่งและในเซี่ยงไฮ้ เอกสารคำฟ้องบอก
คำฟ้องคดีอาญาต่อเธอนั้นกล่าวเพียงว่า ไคลเบิร์นจัดส่งแค่พวกข้อมูลข่าวสารที่ไม่ใช่ความลับให้แก่พวกสายลับจีน
ส่วนในคดีของมัลลอรี ผู้ถูกจับในเดือนมิถุนายน 2017 เขาอายุ 60 ปี มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทำสัญญาด้านกลาโหมกับรัฐบาลสหรัฐฯ และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทั้งนี้เขาก็เป็นผู้ที่สามารถพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า อันที่จริงแล้วมัลลอรีทำงานให้ซีไอเอ ก่อนที่จะเข้าสู่วงการภาคเอกชน
ในคำฟ้องร้องที่ยื่นต่อศาลระบุว่า ทราบกันดีว่ามัลลอรีมีการติดต่อกับพวกสายลับจีนอยู่บ่อยครั้ง พร้อมให้สัญญาว่าจะหาวัสดุเอกสารด้านกลาโหมที่มีค่ามาส่งให้
“จุดประสงค์ของพวกคุณคือการได้ข้อมูลข่าวสาร ส่วนจุดประสงค์ของผมคือการได้เงินตอบแทน” เขาบอกกับพวกสายลับจีนในข้อความติดต่อกันข้อความหนึ่ง
———————————————————————————-
ที่มา : MGR Online /
Link : https://mgronline.com/around/detail/9610000006611