Visa Tests Biometric Fingerprint Reader on Cards

Loading

  NEW YORK — Fingerprints can unlock doors, phones and more, but are consumers ready to pay with them? Visa, the financial services giant, thinks so. The company, which backs credit, debit and prepaid cards, has started pilot tests of cards that have a built-in fingerprint reader. Users place their finger on the sensor area…

วีซ่าเริ่มใช้ข้อมูลชีวมาตรกับบริการบัตรเครดิต

Loading

  บริษัทวีซ่าจะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือแทนรหัสล็อกและลายเซ็นเต่หลายคนกังวลเรื่องความมั่นคงปลอดภัย   ปัจจุบัน เราใช้ลายพิมพ์นิ้วมือเปิดล็อคประตู โทรศัพท์มือถือ เเละอุปกรณ์อื่นๆ ได้แล้ว แต่ผู้บริโภคพร้อมหรือยังที่จะใช้ลายพิมพ์นิ้วมือในการจ่ายเงิน บริษัทวีซ่า (VISA) ยักษ์ใหญ่ด้านการบริการทางการเงิน มองว่า ลูกค้าพร้อมเเล้วที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลทางชีวมาตร หรือ biometrics ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะทางกายภาพเพื่อแสดงตน เเต่ยังมีข้อสงสัยกันว่า เทคโนโลยีนี้ มีความปลอดภัยเเค่ไหน บริษัทวีซ่าที่ให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิท เเละบัตรจ่ายเงินล่วงหน้า ได้เริ่มต้นทดสอบการใช้งานบัตรต่างๆ ที่มีตัวอ่านลายพิมพ์นิ้วมือฝังไว้ภายใน ผู้ใช้เพียงกดนิ้วมือลงบนเครื่องเซ็นเซอร์ และอาจจะเสียบบัตรเข้าไปที่ช่องอ่านชิพ หรือถือบัตรไว้เหนือจุดจ่ายเงิน การใช้ลายพิมพ์นิ้วมือช่วยให้ลูกค้าข้ามขั้นตอนที่ต้องระบุ รหัสล็อก หรือ PIN หรือไม่ต้องเขียนลายเซ็นลงไปที่ใบสั่งจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการ ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ใช้บัตรเครดิตจะถูกเปรียบเทียมกับลายพิมพ์นิ้วมือที่เข้าระบบเอาไว้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่เก็บไว้ในชิrของบัตรเครดิต เพื่อสร้างรหัสแบบสุ่มที่เรียกว่า คริพโตแกรม (cryptogram) และสีเเดงหรือสีเขียวบนตัวบัตรจะช่วยระบุว่าลายนิ้วมือของผู้ใช้ตรงกับลายนิ้วมือในบัตรหรือไม่ Matt Smith ประธานฝ่าย platform strategy ที่ VISA กล่าวว่า บัตรเครดิตนั้นๆ จะถูกตั้งให้ใช้ข้อมูลชีวมาตรที่เป็นลายพิมพ์นิ้วโป้ง เพราะลายพิมพ์นิ้วมือของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน เเละจะออกคำสั่งให้ตอบรับเมื่อลายพิมพ์นิ้วมือตรงกับที่บันทึกเอาไว้ในบัตรเเละปฏิเสธเมื่อไม่ตรงกัน สำหรับลูกค้าที่ใช้บัตรเครดิตร่วมกับคนอื่นๆ การสั่งจ่ายเงินจะกลับไปใช้ระบบระบุรหัสล็อก หรือเขียนลายเซ็นแทน บริษัทวีซ่าไม่ได้เป็นบริษัทที่ใช้ระบบจ่ายเงินดิจิตัลบริษัทเเรกที่ต้องการใช้ประโยชน์จากข้อมูลทาง…

เพลิงไหม้ จลาจล ตายหมู่ เหตุร้ายที่เกิดบ่อยในคุกเวเนซุเอลา

Loading

  จลาจลและเพลิงไหม้ในรัฐการาโบโบ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 70 คน คือโศกนาฏกรรมครั้งที่ 5 ที่เกิดขึ้นกับห้องคุมขังและเรือนจำในรอบ 6 ปี ของเวเนซุเอลา เจ้าหน้าที่ทางการระบุว่า เหตุจลาจลและเพลิงไหม้ที่สถานีตำรวจในเมืองวาเลนเซีย ในรัฐการาโบโบ ของเวเนซุเอลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 68 คน หลัง นักโทษในห้องขังจุดไฟเผาที่นอน เพื่อพยายามหลบหนีออกมาเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของญาตินักโทษ ซึ่งมาล้อมสถานีตำรวจหลังทราบข่าวเพลิงไหม้   เกิดอะไรขึ้นที่สถานีตำรวจ? ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงเหตุการณ์แวดล้อมเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น สมาคมอูนา เวนตานา อะ ลา ลิเบร์ตัด (หน้าต่างเสรีภาพ) ซึ่งสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของห้องขังต่าง ๆ ระบุว่า จากรายงานที่ทางสมาคมได้รับ ผู้ถูกควบคุมตัวอยู่คนหนึ่งได้ยิงตำรวจนายหนึ่งที่ขา และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการจุดไฟเผาที่นอน และไฟก็ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว เฆซุส ซานตานเดร์ เจ้าหน้าที่ทางการของรัฐการาโบโบ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งถูกยิงหลังจากเกิดเพลิงไหม้ด้วย โดยขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไหม้ไว้ได้แล้ว มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทุบกำแพงเพื่อพยายามช่วยผู้ที่ติดอยู่ในเปลวเพลิงออกมา ตาเร็ก ซาอับ หัวหน้าอัยการรัฐ กล่าวว่า ผู้ที่เสียชีวิตเกือบทั้งหมดเป็นนักโทษ แต่มีผู้หญิงอย่างน้อย 2…

ไฟแดง! Facebook เลิกอนุญาตบริษัทอื่นผสมข้อมูลออฟไลน์เพื่อ targeting โฆษณา

Loading

  เฟซบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมเบอร์ 1 ของโลกกำลังเร่งกำจัดจุดอ่อนของตัวเองเพื่ออุดช่องโหว่ป้องกันข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล ล่าสุด ประกาศปิดบริการ “พาร์ตเนอร์แคทากอรีส์” (Partner Categories) ซึ่งเปิดให้บริษัทอื่นที่เป็นพันธมิตร ผสมข้อมูลออฟไลน์เข้ากับข้อมูลผู้ใช้ Facebook เพื่อนำไปทำกิจกรรมทางการตลาดโดยเฉพาะการกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณา นอกจากนี้ Facebook ยังปรับใหม่หน้าตั้งค่า หรือ Setting ของตัวเอง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถกำหนดความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ท่ามกลางรายงานข่าวของสื่อสหรัฐฯ ที่มองว่า Facebook ได้ปรับให้ผู้ใช้ลบทิ้งบัญชีของตัวเองได้ง่ายขึ้นด้วย   หน้าใหม่ง่ายกว่าเดิม ในเวลาที่ Facebook ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษเรื่องความเสี่ยงข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล ล่าสุด Facebook ประกาศปรับปรุงหน้าการตั้งค่าผู้ใช้งาน 4 ด้าน เพื่อแก้ปัญหาผู้ใช้บางส่วนสับสน หาทางเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวไม่พบหรือพบได้ยาก การปรับปรุง 4 ด้านของ Facebook ประกอบด้วยการยุบรวมเมนูการตั้งค่า Settings ทั้งหมดให้ค้นหาได้จากหน้าเดียว, การเพิ่มเมนูทางลัดให้ผู้ใช้ค้นหาและจัดการง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มเมนูใหม่ให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลของตัวเอง (Access Your Information) ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหา จัดการ ดาวน์โหลด และลบ…