Federal Security Service (FSB) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2538 ปรับมาจากหน่วย KGB (Komitet Gosudarstvennoy Bezopasnosti KGB ชื่ออังกฤษ State Security Committee คณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ เป็นอดีตหน่วยงานกลางดูแลการข่าว ความมั่นคงและตำรวจสันติบาล) ของสหภาพโซเวียต โดยเป็นหน่วยงานการข่าวกรอง ทำหน้าที่สืบราชการลับที่จัดเป็นภัยคุกคามต่อรัฐ ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายและการจารกรรมของรัสเซีย ทั้งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังตำรวจต่างชาติในการปราบปรามและต่อต้านกลุ่มมุสลิมจีฮัด รวมทั้งอาชญากรรมบางประเภท ตลอดจนการจลาจล ปฏิบัติการต่อต้านหรือการเรียกร้องต่างๆ ต่อรัฐบาล เช่น กรณีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนจากเชชเนียในสงครามสองครั้ง เมื่อ พ.ศ.2533 และ พ.ศ.2543 การปฏิวัติกุหลาบ (Rose Revolution) ของจอร์เจีย เมื่อ พ.ศ.2547 และการปฏิวัติสีส้มของยูเครน เมื่อ พ.ศ.2548 หรือกรณีเมื่อ พ.ศ.2558 เอสโตเนียได้กล่าวหารัสเซียว่า ลักพาตัวนาย Eston Kohver เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อใช้แลกเปลี่ยนกับสายลับรัสเซียที่ถูกตัดสินจำคุก
กรณีเกี่ยวกับการใช้สารพิษของหน่วย FSB
เมื่อ พ.ศ.2545 ปรากฏข่าวสารกล่าวโทษหน่วย FSB ว่า ทำการลอบสังหารหัวหน้ากลุ่มจีฮัดหรือที่เรียกว่า กาหลิบ (Khattab) ในเชชเนีย โดยใช้จดหมายเคลือบสารพิษ
ต่อมาในกรณีฆาตกรรมนาย Alexander Litvinenko อดีตเจ้าหน้าที่ FSB ที่ลี้ภัยอยู่ใน สหราชอาณาจักร ทำให้ FSB ถูกจับจ้องไปทั่วโลก นาย Litvinenko กล่าวหาชุดปฏิบัติการลับเพื่อลอบสังหารฝ่ายตรงข้ามที่มีชื่อว่า URPO ของหน่วย FSB เนื่องจากนาย Litvinenko ได้รับพิษจากธาตุกัมมันตรังสีพอโลเนียม -210 มารี คูรี และปิแอร์ คูรีแยกธาตุกัมมันตรังสีออกจากยูเรเนียมได้สองธาตุ คือ พอโลเนียม และ เรเดียม ระหว่างลี้ภัยอยู่ในกรุงลอนดอน ในปี 2549 สรุปการไต่สวนอย่างเป็นทางการของสหราชอาณาจักรว่า น่าจะเป็นการกระทำที่ผ่านความเห็นชอบจากนายปูตินและนาย Nikolai Patrushev หัวหน้า FSB แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหา ดังกล่าว อย่างไรก็ดี หลังจากการเสียชีวิตของนาย Litvinenko ไม่กี่สัปดาห์ รัสเซียได้ผ่านกฎหมายให้อำนาจหน่วย FSB ดำเนินการต่อต้าน “กลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง” และ “ผู้ก่อการร้าย” ในต่างประเทศ หลังจากนั้นฝ่ายตรงข้ามของนายปูติน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวเสียชีวิตอย่างลึกลับ ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเป็น”ปฏิบัติการ” ของหน่วย FSB
การแทรกแซงในต่างประเทศ
จากหนังสือเกี่ยวกับ FSB ชื่อ“The New Nobility” ของ Andrei Soldatov (ผู้สื่อข่าวสายสืบสวนและมีความเชี่ยวชาญด้านกิจการรักษาความปลอดภัย,ชาวรัสเซีย) และ Irina Borogan (บรรณาธิการ Agentura.Ru web site,ชาวรัสเซีย) กล่าวถึงนายปูตินดำเนินการขยายอำนาจของหน่วย FSB โดยสามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปต่างประเทศ เพื่อปฏิบัติการพิเศษต่างๆ ได้ เทียบเท่ากับหน่วย MI6 (Military Intelligence Section 6) ของอังกฤษ อีกทั้งหน่วย FSB ยังทำหน้าที่รวบรวมข่าวกรองในต่างประเทศและเป็นตัวแทนของหน่วยข่าวกรองทางทหาร (Glavnoye Razvedyvtel’noye Upravleniye, GRU) อีกด้วย
การสอดแนมและการแทรกแซงทางไซเบอร์
หน่วย FSB เป็นส่วนสำคัญของทฤษฎีใหม่ในสงครามข้อมูลข่าวสารของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการชี้นำความคิดเห็นของประชาชนในต่างประเทศด้วยสื่อสังคมออนไลน์
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ เชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียมีความเชื่อมโยงกับการลักลอบและบิดเบือนข้อมูลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ พ.ศ.2559 โดย กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วย FSB สองนาย คือ Dmitry Dokuchaev และ Igor Sushchin ทำการเจาะบัญชี Yahoo และขโมยข้อมูลของผู้ใช้บริการนับล้านราย
หน่วย FSB ใช้ระบบที่เรียกว่า Sorm (Russia’s System of Operational-Investigatory Measures) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่มีกฎหมายรองรับ ให้สามารถทำการตรวจสอบการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต สามารถเข้าแทรก เฝ้าสังเกตข้อมูลจากอีเมลและโทรศัพท์ ทั้งผู้ให้บริการโทรคมนาคมของรัสเซียต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลา 12 ชั่วโมงสำหรับการตรวจสอบ โดยให้ข้อมูลโดยตรงกับหน่วย FSB ซึ่งยังไม่มีการระบุเวลาที่แน่ชัดและขอบเขตการเฝ้าระวังของหน่วย FSB
——————————————————————————————–
ที่มา : BBC News / รายงานโดย ลอเรนซ์ ปีเตอร์ / วันที่ 3 ก.พ.61
แปลโดย : องค์การ รปภ.ฝ่ายพลเรือน
Link : http://www.bbc.com/news/world-europe-42636245