เครื่องมือ Search ของ Facebook นี้ถูกนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลส่วนตัวของผู้คนทั่วโลกที่ถูกขโมยมาจากช่องทางอื่นๆ และนำไปขายบน Dark Web โดยความสามารถ Search ของ Facebook นี้ได้เปิดให้ผู้โจมตีสามารถนำ Email Address หรือเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อไปทำการค้นหาบน Facebook ได้ และทำให้การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานที่เปิดเผยบน Public Profile สามารถทำได้ง่ายขึ้น และเมื่อนำไปรวมกับข้อมูลที่ขายบน Dark Web แล้วก็จะทำให้ข้อมูลส่วนตัวเหล่านั้นมีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้นสำหรับการนำไปใช้ต่อยอดในแง่มุมต่างๆ
ดูเผินๆ เหมือนอาจไม่ใช่เรื่องอันตรายเท่าไหร่เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยอยู่แล้ว แต่ข้อมูลเหล่านี้เมื่อนำไปรวมกับข้อมูลอื่นๆ ก็อาจถูกนำไปใช้โจมตีแบบ Social Engineering เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้ตกหลุมพรางของเหล่า Hacker ได้ง่ายดายขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งการใช้ Email หรือเบอร์โทรศัพท์ในการค้นหานั้นก็ยังให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าการค้นหาจากชื่ออย่างชัดเจนด้วย ดังนั้นในทางปฏิบัติการเปิดให้ผู้คนสามารถค้นหา Facebook Profile ได้ผ่านข้อมูลเหล่านี้ก็ถือว่าอันตรายไม่น้อย ซึ่งที่ผ่านมาวิธีการนี้ก็ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเกือบทั้งหมดของ Facebook ที่มีจำนวนมากถึง 2,200 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี Mark Zuckerberg ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องทำการรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานเอาไว้เป็นจำนวนมหาศาลนี้ว่าต้องการนำไปใช้เพื่อให้การนำเสนอโฆษณาแก่ผู้ใช้งานนั้นมีคุณภาพและมีความแม่นยำสูงที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งาน Facebook ที่ดีขึ้นนั่นเอง
ปัจจุบัน Facebook ได้ทำการปิดความสามารถดังกล่าวนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณึของ Cambridge Analytica นั้นก็มีการอัปเดตแล้วว่าข้อมูลของผู้ใช้งานที่ถูกนำไปใช้ในกรณีนั้นมีเพิ่มขึ้นจาก 50 ล้านรายไปเป็น 77 – 87 ล้านรายแทน และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ทาง Facebook จะแจ้งผู้ใช้งานทุกรายที่คาดว่าถูก Cambridge Analytica นำข้อมูลไปใช้
ที่มา : techtalkthai 5 เมษายน 2018
ลิงค์ : https://www.techtalkthai.com/facebook-says-2200-users-information-might-leak-via-its-search-feature/