สายการบินเอมิเรตส์ ผุดแผนใช้เครื่องบิน “ไร้หน้าต่าง”

Loading

สายการบินเอมิเรตส์ เผยแผนการใช้เครื่องบินที่ “ปราศจากหน้าต่าง” และเพิ่มฟังก์ชัน “หน้าต่างเสมือนจริง” เข้าไปแทน เพื่อลดน้ำหนักของเครื่องบินและสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการเดินทาง เซอร์ ทิม คลาร์ก ประธานบริหารสายการบินเอมิเรตส์ บอกว่า สายการบินเตรียมยกเลิกการใช้หน้าต่างจริงบนเครื่องบิน และเปลี่ยนให้เป็นระบบหน้าต่างเสมือนจริง ที่ใช้ภาพจากกล้องไฟเบอร์ออพติกนอกตัวเครื่อง เพื่อบันทึกภาพภายนอกเครื่องบินที่คมชัดกว่าตาเปล่า รวมทั้งยังเล็งเห็นประโยชน์ของการเลิกใช้หน้าต่างบนห้องโดยสารเครื่องบินรุ่นใหม่ๆว่า จะทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา ประหยัดพลังงานจากเชื้อเพลิง และเดินทางได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ แผนการใช้เครื่องบินไร้หน้าต่างนั้น จะเริ่มจากส่วนเฟิร์สคลาส ของเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER รุ่นใหม่ของเอมิเรตส์ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายจะทำให้เครื่องบินทุกลำของสายการบินปราศจากหน้าต่างในที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยาน มองว่า การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะต้องผ่านกฏหมายด้านความปลอดภัยทางการบินเสียก่อน เพราะการมองเห็นด้านนอกของเครื่องบินเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะหากต้องมีการอพยพผู้คนออกจากเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์ด้านนอกเครื่องบินนั้นปลอดภัยเพียงพอสำหรับการอพยพ แต่ที่สำคัญกว่ากฎหมาย น่าจะเป็นการยอมรับของผู้โดยสารที่จะต้องอยู่บนเครื่องโดยไม่สามารถมองเห็นภาพมุมสูงจากเครื่องบินด้วยตาตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน ——————————————————————— ที่มา : VOA Thai / มิถุนายน 07, 2018 Link : https://www.voathai.com/a/emirates-to-have-windowless-plane/4427268.html

4.0 ของจริง! คนสวีเดนเริ่มฝังไมโครชิปบนผิวหนังแทนพกบัตรประชาชน

Loading

สำนักข่าว AFP รายงานว่าปัจจุบันประชาชนชาวสวีดิชเริ่มทำการฝังไมโครชิปลงบนผิวหนังของตนเอง ซึ่งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ ไม่ต้องพกบัตรประชาชน, ใช้สแกนแทนคีย์การ์ดในการเข้าทำงานในออฟฟิศ, ซื้ออาหารจากตู้อัตโนมัติ, เข้ายิม, หรือแม้แต่ใช้แทนตั๋วรถไฟ โดยรายงานระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวสวีดิชกว่า 3,000 รายที่ติดไมโครชิปแล้ว สำหรับการฝังชิปนั้นถูกระบุว่ามีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยระดับมดกัดไม่ต่างจากการเจาะหู ซึ่งการฝังชิปแม้จะฝังไว้ที่ผิวหนังแต่ก็อยู่ในระดับชั้นที่ไม่ลึก ทำให้การอ่านค่าชิปรวมทั้งบันทึกข้อมูลจัดเก็บสามารถทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้คนสวีเดนหันมาใช้ไมโครชิปมากกว่าชาติอื่น ๆ ก็เนื่องจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศนั้นมีประสิทธิภาพระดับสูงสุดที่ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะเป็นความลับไม่รั่วไหลแน่นอน ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรในสวีเดนเพียง 2% ที่ยังพกเงินสดติดตัว ขณะที่อีก 98% นั้นจ่ายผ่านบัตรเครดิตและสมาร์ทโฟนหมดแล้ว ซึ่งเทรนด์ของการใช้ร่างกายมนุษย์มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยี (Biohackng) โดยน่าสนใจไม่น้อยกว่าในอนาคตอุปกรณ์ไอทีพื้นฐานมากมายที่อาจถูกออกแบบมาเมื่อฝังลงในร่างกายของมนุษย์ By  Nattaphan Songviroon ——————————————————————- ที่มา : เว็บแบไต๋ / 5 มิถุนายน 2561 Link : https://www.beartai.com/news/itnews/247810?utm_source=LINEToday&utm_medium=Referral&utm_campaign=DirectLink