เวียดนามผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ใหม่ ท่ามกลางเสียงคัดค้าน

Loading

เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) สภาแห่งชาติเวียดนามผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ เพิ่มอำนาจควบคุมอินเทอร์เน็ตและการดำเนินการของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในประเทศ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและเสรีภาพในการแสดงออก กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 และกำหนดให้บริษัทอย่าง เฟซบุ๊ก และ กูเกิล จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวที่ “สำคัญ” ของผู้ใช้ไว้ในประเทศเวียดนาม รวมทั้งลบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมภายใน 1 วันตามคำร้องของเจ้าหน้าที่ ผู้ประท้วงและนักรณรงค์หลายคนคัดค้านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่นี้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและถูกใช้จัดการผู้เห็นต่างจากรัฐบาลบนโลกออนไลน์ ขณะที่ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) มองว่ากฎหมายใหม่ของเวียดนามนั้นมีความคล้ายคลึงกับกฎหมายปัจจุบันของไทย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเวียดนามใช้กฎหมายใหม่ ? สภาแห่งชาติเวียดนาม ลงคะแนนเสียง 91% ผ่านกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ฉบับใหม่เมื่อวานนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรอบสภาฯ ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ บริษัทโซเชียลมีเดียในเวียดนามจะต้องนำเนื้อหาที่ละเมิดกฎหมายออกจากระบบภายใน 1 วันหลังจากได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ นอกจากนี้ บริษัทเหล่านี้ยังจะต้องย้ายข้อมูลของผู้ใช้งานมาจัดเก็บไว้ภายในประเทศ รวมทั้งเปิดสำนักงานในเวียดนาม นายโว จอง เวียต ประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมและความมั่นคง ซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมายฉบับนี้ กล่าวว่าการย้ายข้อมูลมาไว้ในประเทศจะมีส่วนสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ และไม่ขัดแย้งกับระเบียบสากลแต่อย่างใด “การย้ายศูนย์ข้อมูลมาไว้ในเวียดนามนั้นจะเพิ่มต้นทุนสำหรับบริษัทเหล่านี้จริง แต่มันเป็นความจำเป็นสำหรับความต้องการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศ” เขากล่าวต่อสภาแห่งชาติเวียดนาม เสียงคัดค้าน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงกฎหมายฉบับนี้ ว่าเป็นความถดถอยทางสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของเวียดนาม ซึ่งเปิดทางให้รัฐบาลสามารถเซ็นเซอร์ความเห็นบนโลกออนไลน์…

กองทัพสหรัฐฯ ทดลองใช้ ‘เฮลิคอปเตอร์อัตโนมัติ’ ควบคุมด้วยแอพพ์

Loading

นักบินบนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมด้วยแอพพ์ (App) เป็นผู้โดยสารที่นั่งไปกับเครื่องเท่านั้น เเละเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานทุกอย่างเองโดยอัตโนมัติเพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย ดิออนเต้ โจนส์ (Dionte Jones) จ่าอากาศเอกเเห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้เหมือนมีสมองของมันเองแและคิดเอง เเต่ตนเองจะเป็นคนสั่งการให้เครื่องลงจอด เเละตนเองยังสามารถสั่งการให้เครื่องเข้าไปจอดในที่เก็บเองเมื่อไม่ต้องการใช้งานเเล้ว เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานผ่านแอพพ์ โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าออกคำสั่งว่าจะไปที่ไหน เดนนิส เบคเกอร์ (Dennis Baker) เจ้าหน้าที่วิจัยของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวว่า การวางแผนการเดินทางมีขึ้นขณะอยู่บนเครื่องบิน เครื่องบินจะบินไปตามเส้นทางที่นักบินสั่งการ โดยไม่จำเป็นต้องให้รายละเอียดของแผนการเดินทางแก่เครื่องบิน เครื่องบินสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในเส้นทางได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ต้นไม้หรือสิ่งกีดขวางทุกประเภทที่ประสบในระหว่างการเดินทาง เเละลงจอดในจุดที่นักบินสั่งการให้จอด สำหรับกองทัพสหรัฐฯ การศึกษาการใช้งานเครื่องบินบังคับอัตโนมัติจะช่วยรักษาชีวิตของทหารเเละมีการใช้งานที่สะดวกเเละเหมาะสม แดน ชูมิท (Dan Schumitt) นาวาอากาศโทแห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า มีคำถามเสมอว่าทำไมจึงส่งทหารนาวิกโยธินไปรบเป็นด่านเเรก หากกองทัพสามารถส่งหุ่นยนต์ไปทำหน้าที่แทน เเละเช่นเดียวกันกับเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติที่กองทัพสามารถนำไปใช้งานบางอย่างที่คนทำไม่ได้เนื่องจากเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติไม่เหนื่อยล้าเเละไม่ต้องพักผ่อนเหมือนมนุษย์ สามารถบินเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ เขากล่าวว่า เครื่องบินระบบควบคุมอัตโนมัติช่วยให้กองทัพมีทางเลือกมากขึ้นในการทำงาน ในขณะที่นาวิกโยธินเเห่งสหรัฐฯ กำลังทำการทดลองเบื้องต้นการใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บังคับอัตโนมัติ มีอาชีพอื่นๆ อีกหลายอย่างที่น่าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ รวมทั้งพนักงานดับไฟป่า อย่างเช่น เหตุไฟป่าในรัฐเเคลิฟอร์เนียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่รุนเเรงเเละยืดเยื้อยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางนาวิกโยธินสหรัฐฯเ คยทดลองใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมอัตโนมัติมาก่อนหน้านี้ โดยเคยส่งเครื่องบินขนส่งสัมภาระ K-Max ขับเคลื่อนอัตโนมัติสองลำ…