กองทัพสหรัฐฯ ทดลองใช้ ‘เฮลิคอปเตอร์อัตโนมัติ’ ควบคุมด้วยแอพพ์

Loading

นักบินบนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมด้วยแอพพ์ (App) เป็นผู้โดยสารที่นั่งไปกับเครื่องเท่านั้น เเละเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานทุกอย่างเองโดยอัตโนมัติเพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย ดิออนเต้ โจนส์ (Dionte Jones) จ่าอากาศเอกเเห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้เหมือนมีสมองของมันเองแและคิดเอง เเต่ตนเองจะเป็นคนสั่งการให้เครื่องลงจอด เเละตนเองยังสามารถสั่งการให้เครื่องเข้าไปจอดในที่เก็บเองเมื่อไม่ต้องการใช้งานเเล้ว เครื่องเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ทำงานผ่านแอพพ์ โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าออกคำสั่งว่าจะไปที่ไหน เดนนิส เบคเกอร์ (Dennis Baker) เจ้าหน้าที่วิจัยของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวว่า การวางแผนการเดินทางมีขึ้นขณะอยู่บนเครื่องบิน เครื่องบินจะบินไปตามเส้นทางที่นักบินสั่งการ โดยไม่จำเป็นต้องให้รายละเอียดของแผนการเดินทางแก่เครื่องบิน เครื่องบินสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในเส้นทางได้เอง ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ต้นไม้หรือสิ่งกีดขวางทุกประเภทที่ประสบในระหว่างการเดินทาง เเละลงจอดในจุดที่นักบินสั่งการให้จอด สำหรับกองทัพสหรัฐฯ การศึกษาการใช้งานเครื่องบินบังคับอัตโนมัติจะช่วยรักษาชีวิตของทหารเเละมีการใช้งานที่สะดวกเเละเหมาะสม แดน ชูมิท (Dan Schumitt) นาวาอากาศโทแห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าวว่า มีคำถามเสมอว่าทำไมจึงส่งทหารนาวิกโยธินไปรบเป็นด่านเเรก หากกองทัพสามารถส่งหุ่นยนต์ไปทำหน้าที่แทน เเละเช่นเดียวกันกับเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติที่กองทัพสามารถนำไปใช้งานบางอย่างที่คนทำไม่ได้เนื่องจากเครื่องบินควบคุมอัตโนมัติไม่เหนื่อยล้าเเละไม่ต้องพักผ่อนเหมือนมนุษย์ สามารถบินเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้ เขากล่าวว่า เครื่องบินระบบควบคุมอัตโนมัติช่วยให้กองทัพมีทางเลือกมากขึ้นในการทำงาน ในขณะที่นาวิกโยธินเเห่งสหรัฐฯ กำลังทำการทดลองเบื้องต้นการใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บังคับอัตโนมัติ มีอาชีพอื่นๆ อีกหลายอย่างที่น่าจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ รวมทั้งพนักงานดับไฟป่า อย่างเช่น เหตุไฟป่าในรัฐเเคลิฟอร์เนียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ที่รุนเเรงเเละยืดเยื้อยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทางนาวิกโยธินสหรัฐฯเ คยทดลองใช้งานเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ควบคุมอัตโนมัติมาก่อนหน้านี้ โดยเคยส่งเครื่องบินขนส่งสัมภาระ K-Max ขับเคลื่อนอัตโนมัติสองลำ…

US Sanctions 5 Russian Entities, 3 Individuals

Loading

                      The U.S. sanctioned five Russian entities and three individuals Monday, accusing them of malicious cyber activities to provide material and technological support to Moscow’s intelligence service. Treasury Secretary Steven Mnuchin said the sanctioned entities and individuals “have directly contributed to improving Russia’s cyber and…

คลังสหรัฐฯ ประกาศลงโทษพลเมืองและนิติบุคคลรัสเซีย 8 รายสนับสนุนการโจมตีทางไซเบอร์

Loading

                    กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศการลงโทษนิติบุคคลของรัสเซีย 5 ราย และพลเมืองชาวรัสเซียอีก 3 ราย โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดหาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีแก่สำนักงานด้านข่าวกรองของรัสเซีย เพื่อโจมตีทางไซเบอร์ต่อสหรัฐฯ และพันธมิตร รัฐมนตรีการคลังสหรัฐฯ สตีเว่น มนูชิน (Steven Mnuchin) กล่าวว่า “ผู้ที่ถูกลงโทษในครั้งนี้มีส่วนในการพัฒนาความสามารถทางไซเบอร์ของรัสเซีย ผ่านการทำงานร่วมกับองค์กรที่ชื่อว่า สำนักงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงปลอดภัยของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร” มาตรการลงโทษครั้งนี้รวมถึงการปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีธนาคารในสหรัฐฯ ของบรรดาผู้ที่ถูกลงโทษ และห้ามคนอเมริกันทำธุรกรรมกับผู้ที่ถูกลงโทษดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ การลงโทษครั้งล่าสุดยังมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพใต้ทะเลของรัสเซีย ซึ่งรวมถึงสายเคเบิลใต้ทะเลที่เป็นตัวส่งข้อมูลด้านโทรคมนาคมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การลงโทษครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง ‘ท่าทีที่ขัดแย้งกันเอง’ ของสหรัฐฯ ที่มีต่อรัสเซีย หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งเสนอให้รัสเซียกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกลุ่ม จี 7 ระหว่างการประชุมของ จี 7 ที่แคนาดา สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก เมื่อปี ค.ศ. 1997…

อีกแล้ว! จีนแฮก บ.คู่สัญญากองทัพเรือสหรัฐฯ ล้วงตับโครงการ “ขีปนาวุธต่อต้านเรือ” รุ่นใหม่

Loading

เอเอฟพี – บริษัทคู่สัญญากลาโหมของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกแฮกเกอร์จีนล้วงข้อมูลละเอียดอ่อนเกี่ยวกับกลยุทธ์สงครามใต้ทะเล รวมไปถึงโครงการพัฒนาขีปนาวุธต่อต้านเรือรุ่นใหม่ที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.)  สื่อดังของสหรัฐฯ อ้างข้อมูลจากพนักงานสอบสวนซึ่งระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ โดยเป็นฝีมือแฮกเกอร์ในสังกัดหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐจีน (Ministry of State Security) ซึ่งปฏิบัติการจากมณฑลกว่างตง บริษัทคู่สัญญารายนี้ทำงานให้กับศูนย์สงครามใต้ทะเลทางนาวี (Naval Undersea Warfare Center) ในเมืองนิวพอร์ต รัฐโรดไอแลนด์ โดยมีหน้าที่ศึกษาวิจัยและพัฒนาเรือดำน้ำ รวมไปถึงระบบอาวุธใต้ทะเล แฮกเกอร์จีนประสบความสำเร็จในการล้วงไฟล์ขนาด 614 กิกะไบต์ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับระบบเซ็นเซอร์, ระบบเข้ารหัสเรือดำน้ำ และโครงการ “ซี ดรากอน” ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังไม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวซึ่งริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2012 โดยระบุแต่เพียงว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคโนโลยีทางทหารที่มีอยู่เดิมมาปรับใช้ในรูปแบบใหม่ๆ  วอชิงตันโพสต์ได้รับการร้องขอจากกองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่ให้เผยรายละเอียดเกี่ยวกับระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่โดนจีนแฮก แต่บอกอย่างกว้างๆ ว่าเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือความเร็วเหนือเสียงที่สามารถยิงจากเรือดำน้ำได้ บิลล์ สปีกส์ โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยืนยันรายงานของวอชิงตันโพสต์ โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง จีนใช้แฮกเกอร์ล้วงข้อมูลทางทหารของสหรัฐฯ มานานหลายปีแล้ว และเพนตากอนก็เคยออกมายอมรับว่า ปักกิ่งสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ F-35 รุ่นใหม่, ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออต PAC-3 รวมไปถึงโครงการลับสุดยอดอื่นๆ …

สายการบินเอมิเรตส์ ผุดแผนใช้เครื่องบิน “ไร้หน้าต่าง”

Loading

สายการบินเอมิเรตส์ เผยแผนการใช้เครื่องบินที่ “ปราศจากหน้าต่าง” และเพิ่มฟังก์ชัน “หน้าต่างเสมือนจริง” เข้าไปแทน เพื่อลดน้ำหนักของเครื่องบินและสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการเดินทาง เซอร์ ทิม คลาร์ก ประธานบริหารสายการบินเอมิเรตส์ บอกว่า สายการบินเตรียมยกเลิกการใช้หน้าต่างจริงบนเครื่องบิน และเปลี่ยนให้เป็นระบบหน้าต่างเสมือนจริง ที่ใช้ภาพจากกล้องไฟเบอร์ออพติกนอกตัวเครื่อง เพื่อบันทึกภาพภายนอกเครื่องบินที่คมชัดกว่าตาเปล่า รวมทั้งยังเล็งเห็นประโยชน์ของการเลิกใช้หน้าต่างบนห้องโดยสารเครื่องบินรุ่นใหม่ๆว่า จะทำให้เครื่องบินมีน้ำหนักเบา ประหยัดพลังงานจากเชื้อเพลิง และเดินทางได้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้ แผนการใช้เครื่องบินไร้หน้าต่างนั้น จะเริ่มจากส่วนเฟิร์สคลาส ของเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER รุ่นใหม่ของเอมิเรตส์ พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายจะทำให้เครื่องบินทุกลำของสายการบินปราศจากหน้าต่างในที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยาน มองว่า การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะต้องผ่านกฏหมายด้านความปลอดภัยทางการบินเสียก่อน เพราะการมองเห็นด้านนอกของเครื่องบินเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะหากต้องมีการอพยพผู้คนออกจากเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์ด้านนอกเครื่องบินนั้นปลอดภัยเพียงพอสำหรับการอพยพ แต่ที่สำคัญกว่ากฎหมาย น่าจะเป็นการยอมรับของผู้โดยสารที่จะต้องอยู่บนเครื่องโดยไม่สามารถมองเห็นภาพมุมสูงจากเครื่องบินด้วยตาตัวเองได้เหมือนแต่ก่อน ——————————————————————— ที่มา : VOA Thai / มิถุนายน 07, 2018 Link : https://www.voathai.com/a/emirates-to-have-windowless-plane/4427268.html

4.0 ของจริง! คนสวีเดนเริ่มฝังไมโครชิปบนผิวหนังแทนพกบัตรประชาชน

Loading

สำนักข่าว AFP รายงานว่าปัจจุบันประชาชนชาวสวีดิชเริ่มทำการฝังไมโครชิปลงบนผิวหนังของตนเอง ซึ่งสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น อาทิ ไม่ต้องพกบัตรประชาชน, ใช้สแกนแทนคีย์การ์ดในการเข้าทำงานในออฟฟิศ, ซื้ออาหารจากตู้อัตโนมัติ, เข้ายิม, หรือแม้แต่ใช้แทนตั๋วรถไฟ โดยรายงานระบุว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวสวีดิชกว่า 3,000 รายที่ติดไมโครชิปแล้ว สำหรับการฝังชิปนั้นถูกระบุว่ามีอาการเจ็บเพียงเล็กน้อยระดับมดกัดไม่ต่างจากการเจาะหู ซึ่งการฝังชิปแม้จะฝังไว้ที่ผิวหนังแต่ก็อยู่ในระดับชั้นที่ไม่ลึก ทำให้การอ่านค่าชิปรวมทั้งบันทึกข้อมูลจัดเก็บสามารถทำได้ง่ายและแม่นยำ ซึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้คนสวีเดนหันมาใช้ไมโครชิปมากกว่าชาติอื่น ๆ ก็เนื่องจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศนั้นมีประสิทธิภาพระดับสูงสุดที่ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนตัวจะเป็นความลับไม่รั่วไหลแน่นอน ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชากรในสวีเดนเพียง 2% ที่ยังพกเงินสดติดตัว ขณะที่อีก 98% นั้นจ่ายผ่านบัตรเครดิตและสมาร์ทโฟนหมดแล้ว ซึ่งเทรนด์ของการใช้ร่างกายมนุษย์มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยี (Biohackng) โดยน่าสนใจไม่น้อยกว่าในอนาคตอุปกรณ์ไอทีพื้นฐานมากมายที่อาจถูกออกแบบมาเมื่อฝังลงในร่างกายของมนุษย์ By  Nattaphan Songviroon ——————————————————————- ที่มา : เว็บแบไต๋ / 5 มิถุนายน 2561 Link : https://www.beartai.com/news/itnews/247810?utm_source=LINEToday&utm_medium=Referral&utm_campaign=DirectLink