เอเอฟพี – สหรัฐฯ ประกาศตราหน้าบุตรชายของผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) พร้อมตั้งรางวัลนำจับกลุ่มติดอาวุธ 3 คนในเลบานอนที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่าน
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศให้ จาวัด นัสรัลเลาะห์ (Javad Nasrallah) บุตรชายของ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง เป็น ‘ผู้ก่อการร้ายระดับโลก’ (global terrorist) ซึ่งจะทำให้เขาถูกอายัดทรัพย์สินทั้งหมดในสหรัฐฯ และไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินกับชาวอเมริกันได้
“พฤติกรรมบ่อนทำลายของฮิซบอลเลาะห์เป็นภัยต่อชาวเลบานอน” นาธาน เซเลส เอกอัครราชทูตผู้แทนพิเศษและผู้ประสานงานต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
เซเลส กล่าวหาฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเดียวในเลบานอนที่ยังไม่ยอมวางอาวุธหลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในช่วงปี 1975-1990 ว่ากำลังใช้พลเรือนเป็น ‘โล่มนุษย์’ โดยนำขีปนาวุธไปซุกซ่อนไว้ตามศูนย์กลางชุมชนต่างๆ
“ศักยภาพในการทำลายล้างของฮิซบอลเลาะห์ไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในตะวันออกลางเท่านั้น แต่ยังบ่อนทำลายเลบานอนเองด้วย”
สหรัฐฯ ยังตั้งเงินรางวัล 5 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมชาย 3 คน หนึ่งในนั้นคือ ซาเลห์ อัล-อารูรี (Saleh Al-Aruri) ผู้นำเบอร์สองของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคนติดต่อประสานงานระหว่างขบวนการอิสลามิสต์ปาเลสไตน์กับอิหร่าน
อารูรี ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารวัยรุ่นอิสราเอล 3 คนในเขตเวสต์แบงค์เมื่อปี 2014 โดยหนึ่งในผู้ตายคือ นัฟตาลี แฟรนเคล เป็นพลเมืองสองสัญชาติ (สหรัฐฯ-อิสราเอล)
อีก 2 คนที่ถูกตั้งรางวัลนำจับคือ คอลีล ยูซิฟ ฮาร์บ (khalil Yousif Harb) และ ไฮตัม ทาบาทาบาอี (Haytham Tabatabai)ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการทางทหารของฮิซบอลเลาะห์ในตะวันออกกลาง
ฮิซบอลเลาะห์เป็นองค์กรและพรรคการเมืองของชาวมุสลิมชีอะห์ในเลบานอน ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลปฏิวัติอิหร่านเมื่อปี 1982 โดยมีเป้าหมายเพื่อขับไล่กองทัพอิสราเอลที่ยึดครองภาคใต้ของเลบานอน
เชื่อกันว่าฮิซบอลเลาะห์ได้ส่งนักรบหลายพันคนเข้าไปยังซีเรียเพื่อช่วยค้ำจุนรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรกับเตหะราน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็ได้ประกาศคว่ำบาตรชายอีก 4 คนซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อกิจกรรมของฮิซบอลเลาะห์ในอิรัก ได้แก่ ชิบล์ มุฮ์ซิน อุบัยด์ อัล-ไซดี (Shibl Muhsin Ubayd Al-Zaidi), ยูซุฟ ฮาชิม (Yusuf Hashim), อัดนาน ฮุสเซน เกาทารานี (Adnan Hussein Kawtharani) และ มูฮัมหมัด อับดุลฮาดี ฟาร์ฮัต (Muhammad Abd-al-Hadi Farhat)
สำหรับ อัล-ไซดี นั้นเชื่อกันว่าเป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮิซบอลเลาะห์กับกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านและฝ่ายสนับสนุนในอิรัก ส่วนที่เหลืออีก 3 คนทำหน้าที่หาข่าวกรอง
ซาเลส ระบุว่า รัฐบาลอิหร่านจ่ายเงินอุดหนุนฮิซบอลเลาะห์สูงถึงปีละ 700 ล้านดอลลาร์
“น่าเสียดายที่ประชาชนชาวอิหร่านต้องถูกบังคับให้จ่ายเงินเหล่านี้” เขากล่าว
————————————————————-
ที่มา : MGR Online /
Link : https://mgronline.com/around/detail/9610000113576