เอเอฟพี – กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับจีนเข้าถึงโทรเลขทางการทูตอันอ่อนไหวของอียูหลายพันฉบับ นิวยอร์กไทมส์ รายงานในวันนี้ (19 ธ.ค.61) ในการรั่วไหลของข้อมูลครั้งล่าสุดที่สร้างความอับอายให้กับองค์การระหว่างประเทศขนาดใหญ่แห่งนี้
โทรเลขจากภารกิจทางการทูตของอียูทั่วโลกเปิดเผยความวิตดกังวลเกี่ยวกับวิธีรับมือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับจีน รัสเซีย และอิหร่าน
การรั่วไหลครั้งนี้ที่ถูกตรวจพบโดยบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ Area 1 ทำให้นึกถึงการเผยแพร่โทรเลขจำนวนมหาศาลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยฝีมือวิกิลีกส์เมื่อปี 2010 ถึงแม้ว่าในกรณีของอียู จำนวนจะน้อยกว่ามากและประกอบด้วยการติดต่อสื่อสารที่มีความลับน้อยกว่า นิวยอร์กไทมส์ รายงาน
ในโทรเลขฉบับหนึ่ง ภารกิจทางการทูตของอียูในมอสโกอธิบายการประชุมซัมมิทในเฮลซินกิระหว่างทรัมป์และประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคมว่าเป็น “ความสำเร็จ (อย่างน้อยสำหรับปูติน”
โทรเลขอีกฉบับหนึ่งบรรยายถึงการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งในนั้นสีตำหนิกลยุทธ์ทางการค้าของทรัมป์ โดยระบุว่า สหรัฐฯกำลังทำตัวราวกับว่ากำลังสู้อยู่ใน “การแข่งขันชกมวยเถื่อน” และประกาศว่าจะไม่ยอมถูกกลั่นแกล้ง
นอกจากนั้นยังมีรายงานแบบกว้างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนซึ่งมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซีย รวมถึงคำเตือนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ว่า มอสโกอาจนำหัวรบนิวเคลียร์เข้ามาในไครเมียแล้ว
นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า ตามข้อมูลของ Area 1 เทคนิคที่แฮกเกอร์กลุ่มนี้ใช้ตลอดช่วงเวลา 3 ปีคล้ายกับเทคนิคที่หน่วยงานทางทหารหัวกะทิของจีนเคยใช้
กลุ่มแฮกเกอร์เข้าถึงเครือข่ายการติดต่อสื่อสารทางการทูตหลังจากปฏิบัติการ “ล่อลวงทางอินเตอร์เน็ต” (phishing) ที่มุ่งเป้าเจ้าหน้าที่อียูในไซปรัส
นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า โทรเลขจำนวนมากเป็นรายงานประจำสัปดาห์ทั่วๆ ไปจากภารกิจทั่วโลก อธิบายการสนทนากับเหล่าผู้นำและเจ้าหน้าที่
Link : https://mgronline.com/around/detail/9610000125813
เอเอฟพี – อียูแถลงในวันพุธ (19 ธ.ค.61) จะลงมือสืบสวนอยางเร่งด่วน หลังต้องสงสัยว่าเหล่าแฮกเกอร์ของกองทัพจีนได้เจาะระบบเข้าถึงโทรเลขทางการทูตอันอ่อนไหวหลายพันฉบับ
แอเรีย 1 ซีเคียวริตี บริษัทความมั่นคงทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ เผยว่าหน่วยงานหนึ่งภายใต้สังกัดของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาล เจาะฝ่าเครือข่ายติดต่อสื่อสารที่ได้รับการคุ้มกันเครือข่ายหนึ่ง ซึ่งทางอียูใช้สำหรับประสานงานนโยบายต่างประเทศ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเผยแพร่โทรเลขทางการทูตเหล่านั้นบางส่วน ซึ่งเป็นรายงานจากเหล่าคณะทำงานด้านการทูตของอียูจากทั่วโลกและเผยให้เห็นถึงความกระวนกระวายใจต่อการหาทางรับมือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯและความกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของจีน, รัสเซียและอิหร่าน
การล่วงละเมิดครั้งนี้ย้อนให้นึกถึงเหตุเผยแพร่โทรเลขจำนวนมหาศาลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยฝีมือวิกิลีกส์เมื่อปี 2010 ถึงแม้ว่าในกรณีของอียู จำนวนจะน้อยกว่ามากและประกอบด้วยข้อมูลการติดต่อสื่อสารที่มีความลับน้อยกว่า
นอกเหนือจากอียู ทาง แอเรีย 1 บอกว่าปฏิบัติการโจมตีมีเป้าหมายที่สหประชาชาติและสหภาพแรงงาน AFL-CIO ด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่อียูบอกว่าพวกเขาเริ่มตรวจสอบเหตุรั่วไหลครั้งนี้แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ยุโรปอยู่ในการเฝ้าระวังขั้นสูงเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวมุ่งร้ายบนโลกออนไลน์ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งรัฐสภาอันสำคัญในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
“สำนักเลขาธิการสภาอียูทราบเรื่องแล้ว เกี่ยวกับคำกล่าวอ้างที่ว่าอาจมีข้อมูลอ่อนไหวรั่วไหลและกำลังสืบสวนอย่างกระตือรือร้นในประเด็นนี้” สภายุโรป ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐสมาชิกกล่าว “ทางสภาไม่ขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างหรือประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการด้านความมั่นคง สำนักเลขาธิการสภาอียูจริงจังกับเรื่องความมั่นคง ในนั้นรวมถึงระบบไอทีเป็นอย่างมาก”
วัลดิส ดอมบรอฟสกีส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปบอกว่าทางกลุ่มจริงจังอย่างมากกับรายงานข่าวระบบของอียูถูกแฮก แต่ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายละเอียดต่างๆที่รั่วไหล “สิ่งที่ชัดเจนคือไม่มีสถาบันใดหรือประเทศไหนที่ได้รับข้อยกเว้นจากเหตุแฮกในลักษณะนี้ ทุกระบบการสื่อสารล้วนมีความอ่อนแอ” เขาบอก “เราต้องจัดการอย่างไม่ลดละกับความท้าทายนี้ ปรับปรุงยกระดับระบบการสื่อสารของเราเพื่อตอบโต้กับภัยคุกคามเหล่านั้น”
แอเรีย 1 ระบุว่าพวกมือแฮกเกอร์เข้าถึงเครือข่ายการสื่อสารทางการทูต จากการหลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต โดยมีเป้าหมายที่กระทรวงการต่างประเทศในไซปรัส ด้วยการใช้อีเมลที่ออกแบบล่อให้พวกเขาดาวโหลดเครื่องมือสำหรับเจาะระบบ
เมื่อเข้าไปในระบบของอียูได้แล้ว พวกมือแฮกเกอร์จะคัดลอกโทรเลขทางการทูตหลายพันฉบับ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลในชั้นความลับระดับต่ำ ใขณะที่การติดต่อสื่อสารที่มีความอ่อนไหวและความลับมากกว่านี้ถูกจัดการอยู่ในระบบที่มีความปลอดภัยสูงกว่า
นิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า โทรเลขจำนวนมากเป็นรายงานประจำสัปดาห์ทั่วๆไปจากสถานทูตต่างๆทั่วโลก รายละเอียดการสนทนาต่างๆระหว่างพวกผู้นำและเหล่าเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามในนั้นมีบทวิเคราะห์แนวโน้มการเมืองและการค้าโลกด้วย โดยเฉพาะบทบาทที่เปลี่ยนแปลงไปของจีนภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ
———————————————————-
ที่มา : MGR Online / 19 – 20 ธันวาคม 2561
Link : https://mgronline.com/around/detail/9610000125946