บึ้ม!กลางอัฟกานิสถาน ดับเกือบ 40 ราย

Loading

เกิดเหตุระเบิดในเมืองกันดาฮาร์ ของประเทศอัฟกานิสถานถึง 2 ครั้งในวันเดียวกัน ทำให้นักข่าวเสียชีวิต 1 ราย โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 38 คน ขณะที่สหรัฐฯและยูเอ็นประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนี้ (1 พ.ค. 61) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า มือระเบิดปลิดชีพตนเอง 1 คนก่อเหตุระเบิดในจังหวัดกันดาฮาร์ทางใต้ของอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) โดยมีเป้าหมายที่ขบวนรถของทหารนาโต้ แต่ผู้เสียชีวิตกลับเป็นเด็กนักเรียน 11 คนที่อยู่ในโรงเรียนสอนศาสนาที่ตั้งอยู่ริมถนน ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุระเบิดและมีผู้บาดเจ็บอีก 16 คน โดยเป็นทหารนาโต้จากโรมาเนีย 8 คน นอกนี้เป็นตำรวจและพลเรือนอัฟกานิสถานอีก 8 คน โดยเหตุระเบิดที่กันดาฮาร์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นในวันเดียวกับเหตุระเบิดปลิดชีพตนเอง 2 ครั้งซ้อนในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 คน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวและช่างภาพ 9 คนและมีผู้บาดเจ็บอีก 49 คน ขณะที่ในวันเดียวกัน เกิดเหตุผู้สื่อข่าวชาวอัฟกานิสถาน 1 คนของสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ภาคภาษาอัฟกานิสถาน ถูกยิงเสียชีวิตในเมืองคอสต์ ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตใน 3 เมืองดังกล่าวเพิ่มเป็น 38 คน ซึ่งรวมถึงผู้สื่อข่าวและช่างภาพที่เสียชีวิตมากถึง 10 คนด้วย นับเป็นวันที่มีสื่อมวลชนเสียชีวิตมากที่สุดในอัฟกานิสถานในรอบ 17 ปีนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกมาอ้างความรับผิดชอบเฉพาะเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนในกรุงคาบูล ทั้งนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯคนใหม่ ประณามเหตุระเบิดและเหตุร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) ในอัฟกานิสถาน ซึ่งโฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นร่วมประณามด้วย ที่มา : TNN24 1 พ.ค. 61, 13.37 น. ลิงค์ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=166302&t=news

ส่องภาพบอดี้การ์ดสุดเท่ของคิมจองอึน

Loading

  โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพบอดี้การ์ดส่วนตัวของผู้นำคิม ขณะเยือนเกาหลีใต้ นับว่าเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของคาบสมุทรเกาหลี สำหรับการพบกันของนายคิมจองอีน และประธานาธิบดีมุนแจอิน เมื่อวานนี้ (27 เมษายน) ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการหารือทั้งสองได้ลงนามในปฏิญาณปันมุนจอมร่วมกัน     ทั้งนี้มีรายงานว่าภายหลังการปรากฏตัวของนายคิมจองอึน ที่บริเวณพรมแดนของสองเกาหลี ซึ่งเดินทางมาด้วยรถยนต์เมอร์ซิเดส – เบนซ์ เอสคลาส ลิมูซีน พร้อมด้วยบรรดาบอดี้การ์ดสุดสมาร์ททั้ง 12 นาย วิ่งตามรถยนต์ของนายคิม เพื่อคอยอารักขาผู้นำของพวกเขา ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏต่อสื่อ ได้กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียลมีเดียทันที มีการแชร์ภาพและคลิปวิดิโอขณะที่บรรดาบอดี้การ์ดทั้ง 12 นายวิ่งตามอารักขารอบรถยนต์ของนายคิมตลอดการเยือนปันมุนจอม โดยชาวเน็ตบางคนต่างแซวว่า การรับหน้าที่วิ่งตามรถยนต์ของนายคิมนั้น เหมือนเป็นการออกกำลังการแบบคาดิโอที่ดี     องครักษ์ตระกูลคิม? สำหรับบอดี้การ์ดเหล่านี้มาจากหน่วย Supreme Guard Command หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ยูนิต 963” โดยหน่วยดังกล่าวมีหน้าที่เพื่อเป็นองครักษ์คุ้มกันครอบครัวคิมโดยเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าทำงานในหน่วยนี้จะต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จากคำให้สัมภาษณ์ของนายลียองกุก อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยอารักษ์ขานายคิมจองอิล ซึ่งภายหลังได้ขอลี้ภัยในประเทศแคนาดา   นายลี ยอง กุก กล่าวว่า การสรรหาคัดเลือกองค์รักษ์ประจำหน่วยนี้จะคัดเลือกจากบรรดาเด็กหนุ่มๆ ในโรงเรียนมัธยมทั่วเกาหลีเหนือตั้งแต่เด็กๆ จากนั้นจะมีการทดสอบความรู้ขั้นพื้นฐาน…

GCSC ห่วงสงครามไซเบอร์ยังแรงไม่หยุด ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตต่างโดนหางเลข

Loading

Bill Woodcock กรรมการผู้บริหารจาก Packet Clearing House ผู้พัฒนาและดูแลโครงข่ายพื้นฐานสำคัญสำหรับอินเทอร์เน็ต ระบุ ในฐานะกรรมาธิการจากคณะกรรมการเพื่อความมั่นคงแห่งโลกไซเบอร์ (Global Commission on the Stability of Cyberspace: GCSC) โลกควรมี “ข้อตกลงร่วมกัน” เพื่อจำกัดขอบเขตของสงครามไซเบอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโดนหางเลขไปด้วย Woodcock เปิดเผยว่า สงครามไซเบอร์ในปัจจุบันเกิดจาก 3 ชาติมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และรัสเซียต้องการกุมอำนาจเหนืออีกฝ่าย และพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการทำสนธิสัญญาเพื่อสงบศึก ส่งผลให้ตัวแทนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ อุตสาหกรรมต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค รวมตัวก่อตั้ง GCSC ขึ้นมา โดยมีรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสิงคโปร์ให้การสนับสนุน รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Internet Society โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อให้การทูตในการหยุดยั้งการโจมตีออนไลน์ที่มีรัฐบาลสนับสนุน (State-sponsored Attacks) สาเหตุสำคัญที่ GCSC ต้องการยับยั้งสงครามไซเบอร์นั้น Woodcock ระบุว่า สงครามไซเบอร์ต่างจากสงครามปกติทั่วไปตรงที่พุ่งเป้าที่กองกำลังทหารของอีกฝ่าย ถ้าใครโจมตีเป้าหมายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น โรงพยาบาลหรือโรงเรียน…