การลักลอบดักฟังโทรศัพท์มือถือในกรุงวอชิงตัน
President Donald Trump called the raid on his personal lawyer Michael Cohen’s office “a disgraceful situation,” an “attack on our country” and a “whole new level of unfairness.” “It’s a total witch hunt,” the president said at the start of a meeting with senior military leadership Monday. “I’ve been saying it for a long time.…
สำนักงานสอบสวนกลาง หรือ FBI บุกตรวจค้นสำนักงานของทนายส่วนตัวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และพบหลักฐานการจ่ายเงินค่าปิดปากให้กับอดีตดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อให้เก็บงำความสัมพันธ์ลับกับผู้นำสหรัฐฯ นายสตีเฟน ไรอัน ทนายของนายไมเคิล โคเฮน ทนายส่วนตัวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า นายโคเฮนให้ความร่วมมือกับทาง FBI ในการมอบเอกสารหลักฐานหลายพันฉบับให้กับทีมสืบสวนกรณีที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทั้งอีเมลล์ เอกสารทางภาษี และบันทึกทางธุรกิจ แต่ที่น่าสนใจ คือ ทาง FBI ได้บุกยึดหลักฐานการสนทนาระหว่างนายโคเฮน กับประธานาธิบดีทรัมป์ รวมทั้งเอกสารการจ่ายเงินค่าปิดปาก 130,000 ดอลลาร์ให้กับสตอร์มีย์ แดเนียลส์ หรือ สเตฟานี คลิฟฟอร์ด อดีตดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้ปริปากพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและทรัมป์ ก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้ ทนายของนายไมเคิล โคเฮน การบุกตรวจค้นสำนักงานของนายโคเฮนของ FBI เป็นไปอย่างไม่เหมาะสมและไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด แต่เอกสารดังกล่าวถือเป็นการยืนยันคำพูดของนายโคเฮน แต่หักล้างคำปฏิเสธของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อ้างว่าเขาไม่ทราบเรื่องการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวมาก่อน ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประณามการบุกค้นสำนักงานทนายความส่วนตัวของเขาว่าเป็นสิ่งที่ “น่าอับอาย”…
Facebook dropped another bombshell on its users by admitting that all of its 2.2 billion users should assume malicious third-party scrapers have compromised their public profile information. On Wednesday, Facebook CEO Mark Zuckerberg revealed that “malicious actors” took advantage of “Search” tools on its platform to discover the identities and collect information on most of…
เครื่องมือ Search ของ Facebook นี้ถูกนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลส่วนตัวของผู้คนทั่วโลกที่ถูกขโมยมาจากช่องทางอื่นๆ และนำไปขายบน Dark Web โดยความสามารถ Search ของ Facebook นี้ได้เปิดให้ผู้โจมตีสามารถนำ Email Address หรือเบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อไปทำการค้นหาบน Facebook ได้ และทำให้การรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานที่เปิดเผยบน Public Profile สามารถทำได้ง่ายขึ้น และเมื่อนำไปรวมกับข้อมูลที่ขายบน Dark Web แล้วก็จะทำให้ข้อมูลส่วนตัวเหล่านั้นมีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้นสำหรับการนำไปใช้ต่อยอดในแง่มุมต่างๆ ดูเผินๆ เหมือนอาจไม่ใช่เรื่องอันตรายเท่าไหร่เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยอยู่แล้ว แต่ข้อมูลเหล่านี้เมื่อนำไปรวมกับข้อมูลอื่นๆ ก็อาจถูกนำไปใช้โจมตีแบบ Social Engineering เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้ตกหลุมพรางของเหล่า Hacker ได้ง่ายดายขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งการใช้ Email หรือเบอร์โทรศัพท์ในการค้นหานั้นก็ยังให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าการค้นหาจากชื่ออย่างชัดเจนด้วย ดังนั้นในทางปฏิบัติการเปิดให้ผู้คนสามารถค้นหา Facebook Profile ได้ผ่านข้อมูลเหล่านี้ก็ถือว่าอันตรายไม่น้อย ซึ่งที่ผ่านมาวิธีการนี้ก็ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเกือบทั้งหมดของ Facebook ที่มีจำนวนมากถึง 2,200 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี Mark Zuckerberg ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องทำการรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งานเอาไว้เป็นจำนวนมหาศาลนี้ว่าต้องการนำไปใช้เพื่อให้การนำเสนอโฆษณาแก่ผู้ใช้งานนั้นมีคุณภาพและมีความแม่นยำสูงที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งาน Facebook ที่ดีขึ้นนั่นเอง ปัจจุบัน…
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว