ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า Swisscom กว่า 800,000 ราย รั่วไหลสู่สาธารณะ

Loading

Swisscom บริษัทผู้ให้บริการทางด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ เผลอทำข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากว่า 800,000 ราย รั่วไหลสู่สาธารณะ คิดเป็นเกือบ 10% ของประชากรประเทศสวิตเซอร์แลนด์ทั้งหมด Credit: Helpnetsecurity ข้อมูลที่รั่วไหลออกสู่สาธารณะ ประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าของ Swisscom เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, วันเดือนปีเกิด, เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลอื่นๆ ซึ่ง Swisscom เองไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกแถลงการณ์ผ่านหน้าเว็บไซต์เกี่ยวกับรายละเอียดของข้อมูลที่รั่วไหล สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ทัั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่แบบ “Non-sensitive” ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นั่นคือไม่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive) เช่น พาสเวิร์ด, หมายเลขบัตรเครดิต, บทสนทนาต่างๆ และข้อมูลในการชำระเงิน การรั่วไหลของข้อมูลในครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของบริษัทคู่ค้าของ Swisscom ซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ระบบจะบังคับให้มีการใส่ยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดก่อนเสมอเพื่อเข้าถึงข้อมูล แต่แฮ็คเกอร์น่าจะอาศัยช่องโหว่บางอย่างเพื่อหลบหลีกการยืนยันตัวตนนี้ ท้ายที่สุดแล้ว Swisscom ตัดสินใจเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีความเข้มงวดมากขึ้น มีการเปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (Two-factor authentication) สำหรับบริษัทคู่ค้า รวมไปถึงการห้ามให้มีการค้นฐานข้อมูลลูกค้าคราวละมากๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ที่มา : techtalkthai ลิงค์ : https://www.techtalkthai.com/swisscom-data-breach-800000-customers-affected/  

Chinese police spot suspects with surveillance sunglasses

Loading

Police in China have begun using sunglasses equipped with facial recognition technology to identify suspected criminals. The glasses are connected to an internal database of suspects, meaning officers can quickly scan crowds while looking for fugitives. But critics fear the technology will give even more power to the government. The sunglasses have already helped police…

ตำรวจจีนเริ่มใช้แว่นตรวจจับใบหน้าผู้ต้องสงสัย

Loading

ตำรวจจีนเริ่มใช้แว่นกันแดดติดกล้องตรวจจับใบหน้า เพื่อช่วยระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอาชญากร โดยแว่นจะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลภายในของตำรวจที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถมองหาตัวคนร้ายที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนได้รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม มีผู้วิจารณ์ว่าเทคโนโลยีนี้ จะยิ่งทำให้รัฐมีอำนาจมากขึ้น สื่อของทางการจีนรายงานว่า แว่นกันแดดรุ่นใหม่นี้ ช่วยให้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วเจ็ดรายในบริเวณสถานีรถไฟที่แออัดของเมืองเจิ้งโจว โดยผู้ที่ถูกควบคุมตัว มีข้อกล่าวหาในความผิดต่างกัน ตั้งแต่ขับรถชนแล้วหนีไปจนถึงค้ามนุษย์ นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่าตำรวจสามารถระบุตัวผู้ที่ใช้บัตรประจำตัวปลอมได้อีก 26 คนด้วย เทคโนโลยีนี้ ช่วยให้ตำรวจสามารถถ่ายภาพผู้ต้องสงสัย เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาพที่อยู่ในฐานข้อมูลภายใน ซึ่งหากพบว่าตรงกัน ระบบจะส่งข้อมูล เช่น ชื่อและที่อยู่ของบุคคลนั้นกลับไปยังเจ้าหน้าที่อย่างไรก็ตาม มีความกังวลด้วยว่ารัฐบาลเผด็จการของจีนจะใช้แว่นกันแดดติดกล้อง เพื่อติดตามผู้ที่ไม่เห็นด้วยทางการเมืองและชนกลุ่มน้อย ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของโลก และคอยออกคำเตือนประชาชนเสมอว่า อุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้ประชาชนแทบไม่สามารถหลีกเลี่ยงทางการได้ โดยเท่าที่ผ่านมา จีนได้สร้างสิ่งที่เรียกว่า “เครือข่ายกล้องวงจรปิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ประเมินว่าขณะนี้จีนติดตั้งกล้องวงจรปิดไปแล้ว 170 ล้านตัว และกำลังจะติดตั้งเพิ่มอีก 400 ล้านตัวภายในสามปีข้างหน้า ซึ่งกล้องจำนวนมากมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าด้วย ————————————————————– ที่มา : BBC Thai / 8 กุมภาพันธ์ 2018 Link : http://www.bbc.com/thai/international-42986249?ocid=wsthai.chat-apps.in-app-msg.line.trial.link1_.auin

Google Chrome เตรียมขึ้นข้อความ “Not Secure” บนเว็บ HTTP ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้

Loading

Google ออกแถลงการณ์ เตรียมแสดงข้อความ “Not Secure” บนเบราว์เซอร์ Chrome สำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์ประเภท HTTP ซึ่งไม่มีการเข้ารหัสข้อมูล โดยจะเริ่มดำเนินการใน Google Chrome 68 ที่จะเปิดให้ใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2018 นี้ การตัดสินใจของ Google ครั้งนี้ คาดว่ามาจากการเติบโตของเว็บไซต์ประเภท HTTPS และทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่มีการเข้ารหัสข้อมูลเสียเป็นส่วนใหญ่ โดย Google ระบุว่า มากกว่า 68% ของทราฟฟิกของ Chrome บน Android/Windows และมากกว่า 78% ของทราฟฟิกของ Chrome OS/macOS ถูกเข้ารหัสข้อมูลแบบ HTTPS การแสดงข้อความ “Not Secure” บน Address Bar นี้ เป็นแผนกลยุทธ์ระยะยาวของ Google โดยเริ่มจาก Chrome 56 ที่จะแสดงข้อความนี้บนเว็บ HTTP ที่มีช่องใส่รหัสผ่านหรือข้อมูลบัตรเครดิต ตามมาด้วย Chrome 62…

วิทยาการข้อมูล (Data Science) จะพัฒนากองทัพไทยได้อย่างไร

Loading

  อาจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง ผู้อำนวยการหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูล: Business Analytics and Data Science)คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หลายสัปดาห์ก่อนคณาจารย์ด้านทางคณิตศาสตร์ สถิติศาสตร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และวิศวกรรมศาสตร์แห่งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือ โรงเรียนนายร้อย จปร. จำนวน 4 ท่านได้กรุณามานัดพบกับผมที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการเรียนการสอนและการวิจัยด้านวิทยาการข้อมูล (Data Science) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และผมได้ไปช่วยสอนซึ่งอันที่จริงเป็นการไปแลกเปลี่ยนและแบ่งปันความรู้กับคณาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถสูงมากจำนวน 10 กว่าท่านที่เขาชะโงก จังหวัดนครนายก ผมมีความดีใจว่า คณาจารย์เหล่านี้มีความมุ่งหมายที่จะปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนนายร้อย จปร. ให้มีการเรียนการสอนด้านวิทยาการข้อมูล โดยเฉพาะการเรียนการสอนทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนนายร้อย จปร. ซึ่งเป็นสาขาวิชาเอก ทำให้ผมทราบว่า โรงเรียนนายร้อยมีสอนถึงแปดสาขาวิชาเอกคือ 1. วิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร 2. วิศวกรรมโยธา 3. วิศวกรรมแผนที่ 4. วิศวกรรมอุตสาหการ 5.วิศวกรรมเครื่องกล 6. สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา 7. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ 8.…