“กระทรวงการต่างประเทศ” เตือนอย่าเขียน-แสตมป์ลายการ์ตูนลงในหนังสือเดินทาง เสี่ยงโดนห้ามเข้าประเทศ

Loading

กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เตือนนักท่องเที่ยว อย่าเขียน ขีดฆ่า แสตมป์ลายการ์ตูนลงในหนังสือเดินทาง จะถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หากมีข้อสงสัย โทร.สอบถามได้ที่ 0-2572-8442 จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยปั๊มสติกเกอร์ตัวการ์ตูนลงในหน้าสุดท้ายของหนังสือเดินทาง จนไม่สามารถเดินทางเข้าภายในประเทศไต้หวันและประเทศสิงคโปร์ ได้ ทำให้ “กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนนักท่องเที่ยวว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เช่น การเขียน ขีดฆ่า หรือจะแสตมป์ลายการ์ตูนลงในหนังสือเดินทางจะทำให้ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ กรมการกงสุลยังได้ระบุข้อความแจ้งเตือนไว้อีกว่า ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น และการขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “หนังสือเดินทางชำรุด” อาจถูกปฏิเสธเข้าประเทศต่าง ๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก หากพบข้อสงสัย สามารถโทร.สอบถามได้ที่ 0-2572-8442 ————————————————————— ที่มา : MGR Online / 29 พฤษภาคม 2562 Link : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000051148

อินโดฯบล็อกโซเชียลมีเดีย สกัดข่าวปลอมแพร่กระจายหลังประกาศผลเลือกตั้ง

Loading

อินโดฯ บล็อกโซเชียลมีเดียบางส่วน หลังผู้กลุ่มหนุนปราโบโวก่อจลาจลรุนแรงไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง ด้านโจโกวีลั่นไม่ยอมให้ใครขวางประชาธิปไตย ทางการอินโดนีเซียสั่งบล็อกการเข้าถึงสื่อโซเชียลมีเดียในบางส่วน ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หลังจากพบว่ามีการส่งต่อข้อมูลทั้งข้อความ ภาพถ่าย และวิดิโอที่เป็นข่าวปลอมกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนนายพลปราโบโวที่ก่อจลาจลรุนแรงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย บาดเจ็บอีกราว 200 คน “เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยุการแพร่กระจายข่าวปลอมผ่านชุมชนเราจะ จำกัด การเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่างบนโซเชียลมีเดีย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสื่อสารและข้อมูลสารสนเทศของอินโดนีเซีย ข่าวปลอมต่อต้านจีนเต็มโซเชียล มีรายงานว่าเกิดการส่งต่อข้อมูลข่าวปลอมในกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนนายพลปราโบโวซึ่งไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ว่าในบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังหารผู้ประท้วงจนเสียชีวิตนั้นเป็นชาวอินโดฯเชื้อสายจีน ข้อความดังกล่าวถูกส่งต่อกันอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียลของอินโดฯตลอดตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงในวันนี้ซึ่งมีรายงานพบการจลาจลปะทะกับเจ้าหน้าที่ จนทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการใช้แก๊สน้ำตาเข้าควบคุมสถานการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมบางคนได้ใช้ข้อความว่า “Usir Cina” (ไล่จีน) และ “Awas Asing” (ระวังคนต่างชาติ) เป็นข้อความในการประท้วง ท่ามกลางข้อครหาในตัวประธานาธิบดีโจโกวีว่าเป็นผู้ที่เข้าหาทางการจีนมากเกินไป ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักชุมนุมประท้วงที่ด้านหน้าของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดฯ (KPU) ขณะที่สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่าทางการได้ส่งทหารราว 30,000 นายเข้าเมืองหลวงเพื่อรักษาความสงบพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ ประธานาธิบดีโจโกวี ซึ่งชนะการเลือกตั้งด้วยผลคะแนน 55.5% เหนือคู่แข่งคือนายพลซูเบียนโตที่ได้ 44.5% กล่าวในวันนี้ว่า ผลจะทำงานร่วมกับทุกคนที่ทำเพื่อพัฒนาประเทศนี้ แต่ผมจะไม่ยอมให้ใครก็ตามที่ขัดขวางความมั่นคง กระบวนการประชาธิปไตยและความสามัคคีของประเทศอันเป็นที่รักของเรา” “ไม่มีทางเลือกอื่น ทหารและตำรวจจะดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่ก่อจลาจลรุนแรงอย่างเข้มงวด” ประธานาธิบดีโจโกวีกล่าว นอกจากนี้ผู้นำอินโดฯ ยังกล่าวถึงเหตุจลาจลว่า “เจ้าหน้าที่มีหน้าที่รักษาสถานการณ์ที่วุ่นวานในจาการ์ต้าเพื่อควบคุมกลุ่มผู้ประท้วง”…

กบฎฮูตีอ้างส่งโดรนยิง “คลังแสง” ในสนามบินซาอุฯสำเร็จ

Loading

เอพี- วันนี้ (21 พ.ค) กบฎฮูตีออกแถลงการณ์ว่า ทางกลุ่มได้ส่งโดรนขนระเบิดเข้าไปยังซาอุดีอาระเบีย เป้าหมายสนามบินที่มีฐานทัพ การโจมตีเป็นที่รับรู้ของทางริยาด ท่ามกลางความตรึงเครียดยังคงเพิ่มสูงจากปัญหาสหรัฐฯ-อิหร่าน  เอพีรายงานวันนี้ (21 พ.ค) ว่า เบื้องต้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีผู้บาดเจ็บหรือมีขอบเขตความเสียหายมากน้อยเพียงใด การโจมตีเมืองนัจญ์รอน (Najran) ของซาอุฯเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทางเตหะรานประกาศเพิ่มการผลิตจำนวนการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมขึ้น 4 เท่า พร้อมกับความตรึงเครียดที่เกิดขึ้นในวันจันทร์ (20) ที่มีการทวีตจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่อิหร่านย้ำว่า ยูเรเนียมจะถูกเสริมสมรรถนะเพียง 3.67% ของข้อจำกัดภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2015 เพื่อสามารถใช้กับโรงงานพลังงานไฟฟ้า แต่ต่ำกว่าเป้าเป็นอย่างมากถึงสำหรับจำนวนที่ต้องการสำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทว่าการเพิ่มจำนวนการผลิต ส่งผลทำให้ในไม่ช้าอิหร่านจะละเมิดต่อข้อกำหนดการครอบครองที่ถูกกำหนดโดยข้อตกลง เอพีชี้  โดยทางเตหะรานได้กำหนดเส้นตายที่ 7 ก.คนี้ สำหรับบรรดาชาติยุโรปในการกำหนดเงื่อนไขใหม่สำหรับข้อตกลง หรือไม่ทางอิหร่านจะเพิ่มจำนวนการเสริมสร้างสมรรถนะให้เข้าใกล้กับระดับการผลิตอาวุธ โดยฝ่ายสหรัฐฯได้ส่งฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด พร้อมกองเรือบรรทุกเครื่องบินมายังอ่าวเปอร์เซียในความสงสัยถึงภัยคุกคามที่เกิดมาจากอิหร่าน  ในการโจมตีด้วยโดรนของกลุ่มกบฎฮูตี สถานีข่าวผ่านดาวเทียมของกลุ่มติดอาวุธที่ชื่อ อัล-มาซีราห์ ( Al-Masirah) กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร (21) ทางกลุ่มของพวกเขาได้มีเป้าหมายการโจมตีที่สนามบินในเมืองนัจญ์รอนพร้อมกับโดรนคาเซฟ–2เค (Qasef-2K) ที่ได้โจมตีที่คลังแสงนัจญ์รอน ตั้งห่างทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงริยาดไปราว 840…

เพิ่มข้อหา ‘ก่อการร้าย’ มือปืนกราดยิงมัสยิดไค

Loading

ผู้ต้องหาคดีกราดยิงมัสยิดในไครสต์เชิร์ช ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 51 ราย ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย เดิมทีผู้ก่อเหตุ ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 51 คดี และข้อหาพยายามฆ่าอีก 40 คดี อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ ทางนิวซีแลนด์เรียกร้องไม่ให้เอ่ยชื่อถึงชื่อผู้ก่อเหตุเนื่องจากไม่ต้องการให้เขาได้รับความสนใจจากสังคม “ข้อหานี้จะสื่อเป็นนัยว่าเกิดการก่อการร้ายขึ้นในไครสต์เชิร์ช” กรมตำรวจนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีประเทศนิวซีแลนด์ ได้ชี้มาก่อนแล้วว่าเหตุกราดยิงมัสยิดนั้น เป็นการก่อการร้ายซึ่งมีการวางแผนมาอย่างดี อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติปราบปรามการก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ เพิ่งบังคับใช้เมื่อปี 2002 และยังไม่เคยมีการใช้งานในศาลมาก่อน ทางตำรวจชี้ว่าการตัดสินใจตั้งข้อหาก่อการร้ายนั้น กระทำภายหลังการหารือกับบรรดาอัยการและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของรัฐบาลแล้ว ขณะนี้ ผู้ต้องหาคนดังกล่าว ซึ่งนิยามตัวเองว่าเป็นผู้นิยมแนวคิดคนผิวขาวเป็นใหญ่ กำลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำความมั่นคงสูง และอยู่ระหว่างการทดสอบว่ามีสภาวะทางจิตเหมาะสมที่จะเข้ารับการพิจารณาคดีในศาลหรือไม่ โดยกำหนดการขึ้นให้การครั้งต่อไปของเขาคือวันที่ 14 มิถุนายนปีนี้ ทางตำรวจนิวซีแลนด์ยังชี้แจงอีกว่า ได้เข้าพบผู้รอดชีวิตและครอบครัวของเหยื่อ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม เพื่ออธิบายถึงข้อห้างที่มีการตั้งเพิ่มเติมแล้ว “ตำรวจมีหน้าที่ที่จะต้องให้ความช่วยที่จำเป็นในทุกๆ ด้าน สำหรับการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีในศาล ซึ่งจะทั้งท้าทายและสะเทือนอารมณ์ต่อครอบครัวของเหยื่อและผู้รอดชีวิตจากเหตุกราดยิง” ทางกรมตำรวจระบุ อย่างไรก็ตาม ไฮเวล กริฟฟิธ ผู้สื่อข่าวบีบีซีในซิดนีย์ ชี้ว่ามีข้อถกเถียงกันในนิวซีแลนด์ถึงข้อดีข้อเสียของการพิจารณาคดีนี้ด้วยพ.ร.บ. การก่อการร้าย…