China extends helping hand to Sri Lanka
By M.K. Bhadrakumar
16/05/2019
ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนา แห่งศรีลังกา เลือกที่จะเดินทางเยือนจีน ขณะสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศของเขายังดูน่าห่วง ภายหลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ไม่ค่อยรู้จักกันมาก่อน ก่อเหตุโจมตีวันอีสเตอร์ซึ่งสังหารผู้คนไปกว่า 250 คน ทำให้ศรีลังกากลายเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียใต้ถัดจากปากีสถาน ซึ่งกำลังเข้าร่วมในโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน และประสบกับการโจมตีเช่นนี้
การเดินทางไปจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ของประธานาธิบดี ไมตรีปาละ สิริเสนา (Maithripala Sirisena) แห่งศรีลังกา คือการตอกย้ำให้เห็นว่า พัฒนาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในประเทศเกาะแห่งนี้ ไม่สามารถที่จะแยกขาดออกจากภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาคเอเชียใต้ได้ การออกเยือนต่างประเทศของสิริเสนาครั้งนี้บังเกิดขึ้นเพียงแค่ 3 สัปดาห์ หลังจากเหตุการณ์โจมตีอย่างนองเลือดของผู้ก่อการร้ายในวันอีสเตอร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน ซึ่งสังหารผลาญชีวิตผู้คนไปมากกว่า 250 คน
สิ่งที่น่าสนใจมากยังอยู่ตรงที่ว่า จุดหมายปลายทางของสิริเสนา คือกรุงปักกิ่ง
ศรีลังกายังคงอยู่ใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน ขณะที่เสียงก้องสะท้อนจากการโจมตีแบบผู้ก่อการร้ายคราวนี้ ดังคึงคะนึงในลักษณะของการป่าวร้องให้เห็นถึงการปะทะขัดแย้งกันระหว่างคนต่างเชื้อชาติต่างศาสนาภายในประเทศนี้ ขณะที่สิริเสนายังอยู่ในประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ยังได้เกิดเหตุการณ์สดใหม่เกี่ยวกับความรุนแรงมุ่งต่อต้านชาวมุสลิมปะทุขึ้นมา ซึ่งบังคับให้พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของศรีลังกาต้องประกาศห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลกันทั่วทั้งเกาะ จากสภาพแวดล้อมต่างๆ เหล่านี้ จึงดูไม่ใช่จังหวะเวลาอันเหมาะสมเอาเสียเลยสำหรับสิริเสนาที่จะไปต่างประเทศ และดังนั้นข้อความทางการเมืองที่ส่งออกมาในคราวนี้จึงยิ่งเน้นย้ำด้วยความชัดเจนว่า เขาให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งแก่การเดินทางไปยังปักกิ่ง
จริงๆ แล้ว ทางเจ้าภาพฝ่ายจีนก็ดูจะรู้สึกซาบซึ้งใจกับท่าทีของสิริเสนา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ต้อนรับเขาที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งวันที่ 14 พฤษภาคม สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่า ในการพบปะหารือระหว่างสีกับสิริเสนานั้น ประเด็นเรื่องการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในศรีลังกาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด
ซินหวารายงานคำพูดของสีที่กล่าวว่า “จีนพร้อมแล้วที่จะยืนเคียงข้างรัฐบาลศรีลังกาและประชาชนชาวศรีลังกา, สนับสนุนศรีลังกาในการสู้รบปราบปรามการก่อการร้าย, และช่วยเหลือประเทศนี้ในการเพิ่มพูนเสริมสร้างศักยภาพการต่อสู้กับการก่อการร้ายเพื่อพิทักษ์รักษาความมั่นคงและเสถียรภาพแห่งชาติ”
สำนักข่าวของทางการจีนแห่งนี้ยังบอกอีกว่า “เขา (สี) เรียกร้องให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงอย่างหนักแน่นลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีก และดำเนินการร่วมกันในการจัดการกับภัยคุกคามทางด้านความมั่นคงประเภทที่ไม่ใช่แบบแผนปกติ อย่างเช่น การก่อการร้าย” (ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.xinhuanet.com/english/2019-05/14/c_138058299.htm )
เป็นเรื่องบังเอิญใช่หรือไม่ ศรีลังกากลายเป็นประเทศหุ้นส่วนของจีนรายที่สองในภูมิภาคเอเชียใต้ (รายแรกคือปากีสถาน) ซึ่งข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative ใช้อักษรย่อว่า BRI ชื่ออย่างไม่เป็นทางการอีกชื่อหนึ่งของข้อเริเริ่มนี้คือ เส้นทางสายไหมใหม่) กำลังประสบปัญหาปั่นป่วน ทั้งนี้หนึ่งในเป้าหมายที่ถูกโจมตีเมื่อวันอาทิตย์อีสเตอร์ 21 เมษายน คือ โรงแรมแชงกรีลา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อันเรียกกันว่า พอร์ต ซิตี้ (Port City) ที่กำลังสร้างกันอยู่ในกรุงโคลัมโบ บนที่ดิน 269 เฮกตาร์ (1,681.25 ไร่) ซึ่งเกิดขึ้นจากการถมมหาสมุทรอินเดีย นี่คือโครงการ BRI โครงการหนึ่ง โดยมีมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์ และดำเนินการโดย บริษัทก่อสร้างเพื่อการสื่อสารของจีน (China Communications Construction Company) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของแดนมังกรที่เน้นหนักเรื่องงานวิศวกรรม
————————————————————
ที่มา : MGR Online / 20 พฤษภาคม 2562
Link : https://mgronline.com/around/detail/9620000048134