การเป็นพันธมิตรระหว่างฮูษีกับอิหร่าน ยังเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้แบ่งปันวิธีโจมตีด้วยโดรนไปให้แนวร่วมในอิหร่าน อิรัก ซีเรีย และเลบานอน
วิม ซไวเนนบวร์ก นักวิจัยอาวุโสเกี่ยวกับโดรนที่ PAX องค์กรสันติภาพเนเธอร์แลนด์ กล่าวกับ NYT ว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบียไม่เพียงแต่เปิดเผยถึงช่องโหว่ของซาอุดิอาระเบียในการทำสงครามกับกบฎฮูษีเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการโจมตีเป้าหมายระดับสูงเริ่มที่จะมีต้นทุนที่ต่ำลงมาก โดยอาจมีค่าใช้จ่าย 15,000 เหรียญสหรัฐหรือน้อยกว่าในการสร้างโดรน การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้กลยุทธ์แบบ “เดวิดและโกลิอัท” (หรือตัวเล็กล้มยักษ์) และใช้โดรนโดรนราคาถูก เพื่อทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางยิ่งคาดเดาได้ยากขึ้น เพราะการโจมตีดังกล่าวไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัย ทำให้ตลาดปั่นป่วน และทำให้ความหวาดกลัวขยายวงกว้าง
แม้ว่า กบฎฮูษีจะไม่มีทุนทรัพย์ทางการเงินที่สำคัญ แต่โดรนกลับกลายเป็นทางออกต้นทุนต่ำให้เขาเพื่อใช้โจมตีศัตรูตัวฉกาจคือ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณทางทหารที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2561 โดยมีงบประมาณถึ 67,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ตอกย้ำว่า ประเทศที่มีงบประมาณทางทหารที่สูงมาก ก็อาจเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายที่ไม่มียุทโธปกรณ์ชั้นเลิศเลย
นอกจากนี้ การโจมตีล่าสุด ยังทะลวงลึกเข้าไปในดินแดนของซาอุดิอาระเบียมากกว่าการโจมตีครั้งก่อน ฟาเรีย อัลมุสลิมี ผู้ร่วมก่อตั้งของ Sanaa Center for Strategic Studies ซึ่งเน้นประเด็นเกี่ยวกับเยเมน กล่าวว่า สิ่งทีเกิดขึ้นเป็นความท้าทายต่อซาอุดีอาระเบีย เพราะไม่สามารถเผชิญหน้ากับฝ่ายกบฎฮูษีอย่างจะๆ ได้ ไม่ว่าพวกจะมีความสามารถทางการเงิน ทางการทหาร หรือมีข่าวกรองจะเป็นเช่นไรก็ตาม
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเยเมนเริ่มต้นขึ้นในปี 2014 เมื่อกลุ่มกบฏฮูษี ยึดเมืองหลวงและพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยเมน ทำให้ฝ่ายรัฐบาลต้องลี้ภัย แต่กลุ่มพันธมิตรของประเทศอาหรับที่นำโดยซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มทิ้งระเบิดในเยเมนในปี 2015 โดยหวังว่าจะผลักฮูซี ซึ่งเป็นมุสลิมชีอะห์ออกไป และฟื้นฟูรัฐบาลเยเมน ซึ่งเป็นมุสลิมสุนนีเหมือนซาอุดีอาระเบีย
แต่สงครามเลวร้ายลงและยืดเยื้อนานหลายปี ฝ่ายฮูษีได้พัฒนากลยุทธที่ซับซ้อนมากขึ้นในการโจมตีตอบโต้ซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้โดรน หลักฐานการใช้โดรนครั้งแรกของฮูษีปรากฎขึ้นเมื่อปีที่แล้ว และหลังจากนั้นสมรรถภาพพวกมันก็ดีขึ้นตั้งแต่นั้นมา
ซไวเนนบวร์ก แห่งสถาบัน PAX กล่าวว่าโดรนทำให้ฮูษีได้เปรียบ เพราะมีราคาถูก ยากที่จะตรวจจับ และยากที่จะยิงให้ตกลงมา และสามารถทำให้เกิดความเสียหายและภาวะชะงักงันอย่างเลวร้าย ซึ่งตรงกันข้ามกับราคาอันย่อมเยาของมัน แม้ว่าในเวลานี้จะไม่ทราบความศักยภาพที่แท้จริงของฮูษี แต่ทราบว่ามีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ (โดยภาพประกอบคือ รูปเอกสารแจกที่ออกโดยสำนักงานกองทัพอิหร่านเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2019 ระหว่างที่นายพลจัตวา Alireza Sabahifard (คนกลาง) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพบกเปิดเผยโดรนที่พัฒนาขึ้น ชื่อรุ่นว่า Kian)
————————————————————————
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ / 15 กันยายน 2562
Link : https://www.posttoday.com/world/600732