จากกรณี น.ส.พ.ข่าวสด (www.khaosod.co.th/politics/news_3056014) รายงานข่าวหัวข้อ “บิ๊กตู่ ไอเดียบรรเจิด สั่งหามาตรการ ดึงเงินประกันสังคมปล่อยกู้” : วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 – 15:36 น. ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลราชการของสื่อมวลชนต่อสาธารณะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรัฐบาล รายละเอียด คือ
“บิ๊กตู่ – เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือ ด่วน ที่ นร 0505/ว 459 แจ้งถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ส่วนราชการรับทราบว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 พ.ย. นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการหลัก ๆ 3 ประเด็น โดยข้อที่น่าสนใจ นั้นคือ สั่งให้กระทรวงแรงงาน (สำนักประกันสังคม) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ “ให้พิจารณาความเป็นไปได้ ในการกำหนดแนวทางและมาตรการในการบริหารจัดการเงินกองทุนประกันสังคมให้เกิดประโยชน์ และตอบสนองแก่ความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น เช่น การกู้ยืมเพื่อการลงทุน หรือการกู้ยืมเพื่อรายจ่ายจำเป็นอื่น ๆ”
พร้อมกันนี้ยังเสนอสำเนาหนังสือราชการ ด่วน ที่ นร 0505/ว 459 ลงชื่อ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อยืนยันความเป็นแหล่งที่มาของข่าวสารอีกด้วย
ดังนั้น จึงนำกรณีข้างต้นมาประเมินเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552 โดยแบ่งประเด็นออกเป็น
ประเด็นแรก ข้อมูลที่ น.ส.พ.ข่าวสด นำเสนอมาจากสำเนาหนังสือ ด่วน ที่ นร 0505/ว 459 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงชื่อโดยนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการคณะรัฐมนตรี สาระสำคัญคือ แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทราบถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2562 ข้อสั่งการนี้คาดว่าจะยังไม่ยุติ แต่โดยนัยนับว่ามีความสำคัญ หากนำไปเปิดเผยจะมีผลกระทบต่อรัฐบาล ประกอบกับอยู่ร่วมในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมลับ ฉะนั้น หน่วยงานรัฐซึ่งรับผิดชอบ จึงต้องดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ.2544 เพื่อให้ข้อมูลทุกชนิดที่ใช้ประกอบการประชุมคณะรัฐมนตรี มีความปลอดภัยเทียบเท่ากับข้อมูลข่าวสารลับในครอบครองของทางราชการ ถึงแม้เนื้อความเหล่านั้นจะไม่มีการกำหนดชั้นความลับไว้ก็ตาม
ประเด็นที่สอง จากสรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2562 ที่ปรากฎในwww.thaigov.go.th/news/contents/details/24365 ซึ่งเป็นรายงานเปิดเผยต่อสาธารณะของรัฐบาลก็มิได้แสดงข้อมูลใด ๆ เกี่ยวข้องกับการสั่งการของนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ จึงประเมินได้ว่า การสั่งการตามสำเนาหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นข้อมูลราชการที่ยังมิได้กำหนดให้เปิดเผยเป็นสาธารณะ การนำข้อมูลการประชุมคณะรัฐมนตรีไปเผยแพร่ของสื่อมวลชนนอกเหนือจากที่รัฐแถลงไว้ ถือเป็นการละเมิดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสารราชการได้ เพราะผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องไม่สามารถนำข้อมูลข่าวสารในครอบครองของส่วนราชการไปเผยแพร่ โดยปราศจากการอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ
ประเด็นที่สาม โดยปกติการประชุมของคณะรัฐมนตรี บรรยากาศการประชุม หรือท่าทีผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงข้อสั่งการใด ๆ ถือเป็นสิ่งที่เป็นความลับหรือมีความสำคัญ หากนำไปเปิดเผยสู่สาธารณะก่อนเวลาอันควร จนส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์หรือสร้างทัศนะคติด้านลบต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีขึ้นแล้ว อาจมีเหตุจากหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบ มิได้ถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ.2552 ที่กำหนดวิธีดำเนินการรักษาความปลอดภัยการประชุมลับไว้ที่หมวด 6
จึงสรุปว่า การที่สื่อมวลชนนำสำเนาหนังสือราชการไปเผยแพร่ทำให้เกิดทัศนะคติด้านลบและสร้างความตื่นตระหนกขึ้นในสังคม ถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญของทางราชการก่อนเวลาอันควร อันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือไม่เจตนา ดังนั้น ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องควรสร้างจิตสำนึกด้านการรักษาความปลอดภัย และกำหนดแนวทางปฏิบัติให้มีความรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐ บุคคล ทรัพย์สิน และสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ และหากพบการละเมิดให้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานเจ้าของเรื่องทราบทันที
——————————————————
ผู้เขียน โดย : เกลียวพันธ์ ลีละศร
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการรักษาความปลอดภัย