ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน – ซีเอ็นเอ็น รายงานการเปิดข้อมูลกระทรวงกิจการภายในของสิงคโปร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอาเซียน พบว่า กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เพ่งเล็งเป้าหมายสตรีผู้รับจ้างทำงานแม่บ้านและสาวใช้ ซึ่งเผชิญความโดดเดี่ยว มีปัญหาหนี้สินและปัญหาครอบครัว เข้าเป็นสมาชิกใหม่
สิงคโปร์จับกุม แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 3 คนที่รับจ้างทำงานบ้านในสิงคโปร์ เมื่อเดือน ก.ย. ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ทั้งตกเป็นผู้ต้องหาสนับสนุนทางการเงินให้กลุ่มก่อการร้าย และใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสนับสนุนกลุ่มไอเอสทางออนไลน์ ทำให้ทั้ง 3 คนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และถูกปรับ 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 11,300,000 บาท
ตำรวจอินโดนีเซียตรวจพบระเบิด 3 ก.ก. ในบ้านพักเมืองเบกาซี ชวาตะวันตก เมื่อปี 2559 พบ 1 ใน 4 คนร้ายทำงานเป็นแม่บ้านรับจ้างที่สิงคโปร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายเผยว่าผู้หญิง 3 คนนี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในสิงคโปร์และฮ่องกง เนื่องจากมีแนวร่วมกระจายอยู่ในเอเชีย หลังจากไอเอสในตะวันออกกลางอ่อนกำลังลง
นาวา นูรานิยาห์ นักวิจัยสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้งของอินโดนีเซีย หรือ IPAC บอกว่ากลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มไอเอสและถูกใช้ให้สร้างรายได้แก่ไอเอส
ระหว่างปี 2558-2559 มีผู้หญิงชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 50 แฝงตัวอยู่ในกลุ่มแม่บ้านชาวต่างชาติ โดยทำงานบังหน้าเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แม่บ้าน คนดูแลผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ 43 คนอยู่ในฮ่องกง อีก 4 คนอยู่ในสิงคโปร์และ 3 คนอยู่ในไต้หวัน
เมื่อถูกจับได้ จะถูกส่งกลับไปยังอินโดนีเซีย รวมทั้ง แม่บ้าน 3 คนนี้ด้วยซึ่งจะต้องเข้าโครงการล้างความคิดการเป็นหัวรุนแรงเสียก่อน
ไดแอน ยูเลีย โนวิตา และสามี ถูกนำตัวขึ้นศาลที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย เมื่อ 23 ส.ค.2560 ฝ่ายหญิงเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเล็ก ถูกตัดสินจำคุก 7 ปีครึ่ง ฐานวางแผนระเบิดพลีชีพที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา
ดิโอวิโอ อัลฟัธ เจ้าหน้าที่องค์กรพันธมิตรภาคประชาชนต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรง หรือ C-Save ของอินโดนีเซีย บอกว่าพื้นเพของผู้หญิงเหล่านี้ สวนใหญ่มักเผชิญปัญหาจากการหย่าร้าง ติดหนี้ ปรับตัวในสภาพสังคมวัฒนธรรมใหม่ไม่ได้ หรือถูกเจ้านายปฏิบัติไม่ดี ทำให้หาทางติดต่อกับชุมชนชาวอินโดนีเซียทางออนไลน์หรือไปด้วยตัวเองโดยอาจไม่รู้ตัวว่าถูกล้างสมองให้เป็นพวกหัวรุนแรง
นูรานิยาห์กล่าวว่า หลายคนติดต่อเพื่อนหญิงหรือชายที่สนับสนุนไอเอสผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนได้รับการเลือกให้เข้าร่วมเครือข่ายกลุ่มหัวรุนแรงผ่านกลุ่มที่ร่วมละหมาดด้วยกันหรือจากการพบปะกันในชุมชนและกลายเป็นพวกสายสุดโต่งอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงชาวอินโดนีเซียบางคนแต่งงานกับแฟนหนุ่มสายสุดโต่ง ซึ่งมีทั้งกลุ่มติดอาวุธ หรือ เป็นเครือข่ายส่งเงินสนับสนุนไอเอส หรือเป็นคนคัดเลือกผู้ร่วมเครือข่าย หรือผู้ประสานงาน ส่วนแม่บ้านบางคนเป็นเครือข่ายการเงินหรือสนับสนุนด้านการขนส่งและมีผู้หญิงบางคนเคยเดินทางไปในพื้นที่สงครามโดยเดินทางจากฮ่องกงไปซีเรีย
บางคนเริ่มต้นเส้นทางเข้าสู่เครือข่ายกลุ่มไอเอสจากการคบ “เพื่อนชาย” ชาวอินโดนีเซียผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จากนั้น แฟนหนุ่มชักชวนให้เข้าแชทรูมที่ต้องใช้แอปพลิเคชันสื่อสารผ่านรหัส เช่น Telegram จนกระทั่ง ถูกชวนไปร่วมกับไอเอสในซีเรีย แต่แผนแตกเสียก่อนเพราะรัฐบาลสิงคโปร์สืบรู้ความเคลื่อนไหว จึงถูกส่งตัวกลับอินโดนีเซีย
ส่วนเป้าหมายใหม่ที่่เป็นเครือข่ายไอเอส คือ ฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะที่เกาะมินดาเนา พื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากมีช่องโหว่ในการบังคับใช้กฎหมาย กองกำลังรักษาความปลอดภัยมีการทุจริตอย่างกว้างขวางและมีพื้นที่กว้างใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลและเคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงจากกลุ่มไอเอสบุกยึดเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนาในปี 2560
กองกำลังไอเอสเคยเคลื่อนไหวบุกเมืองมาราวี เมื่อปี 2560 facebook : mohammad manshawi
หลังจากกลุ่มไอซิสในซีเรียและอิรักอ่อนกำลังลง ก็เริ่มมีการสรรหาสมาชิกหน้าใหม่ในมาเลเซียและสิงคโปร์ แต่ใน 2 ประเทศนี้ ไม่ได้มีคำสั่งจากบนลงล่างเหมือนในตะวันออกกลาง แต่มีการสั่งการจากกลุ่มเครือข่ายในท้องถิ่นในอินโดนีเซียหรือแม้แต่ปัจเจกบุคคล อีกทั้ง มีการฝึกฝนสมาชิกที่เป็นแม่บ้านหลากหลายรูปแบบ รวมทั้ง ระเบิดฆ่าตัวตาย
ขณะที่รัฐบาลฮ่องกงและสิงคโปร์จับตาดูการคัดเลือกแม่บ้านอย่างใกล้ชิด ทั้งติดตามการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์และแวดวงเวทีการสัมมนาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการก่อการร้าย หากพบว่าแม่บ้านชาวต่างชาติโพสต์ข้อความสุดโต่ง จะเนรเทศทันที
สิงคโปร์เนรเทศแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 16 คน ตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่ฮ่องกงไม่เปิดเผยตัวเลข แต่ยืนยันว่าหน่วยข่าวกรองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติตลอดเวลา
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังร่วมมือกับองค์กรศาสนาท้องถิ่นและกลุ่มฟื้นฟูแรงงานชาวต่างชาติจัดกิจกรรมที่มัสยิดและสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับค่านิ
——————————————————–
ที่มา : ข่าวสด / 11 พฤศจิกายน 2562
Link : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3048662