เวียดนามจำคุกครูดนตรีนักเคลื่อนไหวในข้อหา ‘บ่อนทำลายประเทศ’

Loading

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทางการเวียดนามได้มีคำตัดสินจำคุกครูสอนดนตรีผู้หนึ่งเป็นเวลา 11 ปี ในวันศุกร์ หลังจากที่เขาโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กที่รัฐบาลมองว่าเป็นการบ่อนทำลายประเทศ ถือเป็นกรณีล่าสุดที่รัฐบาลเวียดนามจับกุมคุมขังประชาชนที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งมีการแสดงความเห็นที่แหลมคมและสุ่มเสี่ยงมากกว่าสื่อกระแสหลักที่ถูกควบคุมอย่างเข้มวงดโดยรัฐบาล ครูสอนดนตรีระดับมหาวิทยาลัยวัย 42 ปีผู้นี้มีชื่อว่า เหงียน นาง ตินห์ ซึ่งเขาโพสต์ข้อความและรูปภาพเกี่ยวกับการกระทำที่รุนแรงของตำรวจเวียดนาม สิทธิในที่ดิน และปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในทะเลซึ่งเกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างชาติ เขาถูกทางการกล่าวหาว่าเผยแพร่เนื้อหาต่อต้านรัฐ และมีแนวคิดที่เป็นศัตรูต่อรัฐ โดยเขาถูกตัดสินจำคุก 11 ปี และภาคทัณฑ์อีก 5 ปี และในวันเดียวกันนี้ มีรายงานว่าสตรีนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลชาวเวียดนามผู้หนึ่งได้หายตัวไปจากสนามบินฮานอย ขณะเดินทางกลับมาจากประเทศไทย ดินห์ เทา อาศัยอยู่กับสามีในต่างประเทศ และทำงานให้กับองค์กรทางสัมคมแห่งหนึ่งของเวียดนาม สามีของเธอบอกกับ AFP ว่าเธอเดินทางกลับไปเวียดนามเพื่อช่วยเหลือนักรณรงค์อีกผู้หนึ่ง แต่เธอหายตัวไปจากสนามบินหลังจากเดินทางมาถึง โดยข้อความสุดท้ายที่เธอส่งไปให้เขาจากสนามบินฮานอย ระบุว่ามีตำรวจอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินแห่งนั้นหลายคน รัฐบาลเวียดนามถูกกล่าวหาว่าพยายามปราบปรามคนที่เห็นต่างกับรัฐบาล ตั้งแต่ผู้นำชุดใหม่ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมขึ้นปกครองประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน และเมื่อปีที่แล้ว รัฐสภาเวียดนามได้ผ่านกฎหมายความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้สื่ออนไลน์ เช่น Facebook และ YouTube ต้องลบเนื้อหาบางอย่างหากรัฐบาลเห็นว่าไม่เหมาะสม และต้องจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่เวียดนามด้วย องค์กรนิรโทษกรรมสากลระบุว่า เวลานี้มีนักโทษการเมืองอย่างน้อย…

แจ้งเตือนการโจมตีแบบ APT จากกลุ่ม Calypso ขโมยข้อมูลสำคัญทั้งจากหน่วยงานระดับสูง ไทยเสี่ยงโดนด้วย

Loading

ทีมนักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยจากบริษัท Positive Technologies ได้เผยแพร่รายงานบทวิเคราะห์การโจมตีของกลุ่ม Calypso ซึ่งเป็นกลุ่มที่โจมตีในลักษณะ Advance Persistent Threat (APT) โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานระดับสูงของรัฐบาลหลายๆ ประเทศ โดยในรายงานได้ระบุว่าประเทศไทยตกเป็นเป้าหมายด้วย จากรายงาน ทีมวิจัยคาดว่าการโจมตีของกลุ่ม Calypso น่าจะเริ่มดำเนินการมาแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 โดยช่องทางการโจมตีในขั้นแรก (initial vector) จะเจาะระบบเว็บไซต์แล้ววางไฟล์ web shell (.aspx) ไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นช่องทางพิเศษในการรับคำสั่ง จากนั้นจะใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวเป็นช่องทางเพื่อขยายต่อไปยังเครื่องอื่นๆ ในเครือข่ายต่อไป (lateral movement) ในขั้นตอนถัดมาจะมีการติดตั้งเครื่องมือสำหรับใช้ในการรวบรวมข้อมูลหรือแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังเครื่องอื่นๆ ในเครือข่าย ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือที่สามารถดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ต เช่น Sysinternals, Mimikatz, Netcat หรือเครื่องมือสำหรับโจมตีช่องโหว่อย่าง DoublePulsar และ EternalBlue เป็นต้น โดยเครื่องมือเหล่านี้จะถูกดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในไดเรกทอรี C:\RECYCLER หรือ C:\ProgramData ทั้งนี้ จากรายงานพบว่ามีการใช้เครื่องมือเฉพาะของกลุ่ม APT อื่นมาประกอบการโจมตีด้วย แต่ยังไม่ยืนยันว่ากลุ่ม Calypso นี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่ม APT…

รายงานเผย เจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียติดต่อกับกบฏยูเครนที่เป็นผู้ต้องสงสัยยิงเที่ยวบิน MH17 ตก

Loading

ทีมสืบสวนร่วมนานาชาติ (JIT) นำโดยเนเธอร์แลนด์ แถลงวานนี้ (14 พฤศจิกายน) ถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสาเหตุการตกของเที่ยวบิน MH17 ของสายการบิน Malaysia Airlines ที่ประสบเหตุตกในพื้นที่ขัดแย้งทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2014 จนส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คน เสียชีวิตทั้งหมด จากการตรวจสอบหลักฐานใหม่ที่ได้จากการดักฟังโทรศัพท์โดยหน่วยข่าวกรอง SBU ของยูเครน พบการติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียกับผู้นำหลายคนของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) ซึ่งในจำนวนนี้อย่างน้อย 2 คนตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุโจมตีเที่ยวบิน MH17 และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมผู้โดยสารและลูกเรือของเที่ยวบิน นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัสเซียทราบว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ และยังมีอิทธิพลต่อกลุ่มกบฏ DPR ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การเงิน และการทหาร ขณะที่พบว่าการติดต่อระหว่างรัสเซียและผู้นำกลุ่มกบฏมีความถี่ขึ้นในช่วงหลังเดือนกรกฎาคม 2014 ซึ่งหลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับกลุ่มกบฏนั้นมีความใกล้ชิดกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ “มีการโทรศัพท์ติดต่อระหว่างผู้นำกลุ่มกบฏ DPR และเจ้าหน้าที่รัสเซียเกือบทุกวัน พวกเขาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในมอสโก ใกล้ชายแดนยูเครนและในสาธารณรัฐไครเมีย การสื่อสารส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านโทรศัพท์ที่มีระบบป้องกัน ซึ่งได้จากหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย” ทีมสืบสวนกล่าว เมื่อปีที่ผ่านมา ทีมสืบสวนเคยเปิดเผยหลักฐานบ่งชี้ว่าเที่ยวบิน MH17 อาจถูกโจมตีจากระบบขีปนาวุธ BUK-TELAR และพบว่ากลุ่มกบฏ DPR ได้ระบบขีปนาวุธดังกล่าวมาจากหน่วยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานที่ 53 ของรัสเซีย…

เตือนช่องโหว่บนชิป Qualcomm ผู้ใช้ Android เสี่ยงถูกขโมยข้อมูล

Loading

Check Point ผู้ให้บริการโซลูชันด้านความมั่นคงปลอดภัยยักษ์ใหญ่ของโลก ออกมาแจ้งเตือนถึงช่องโหว่บน Chipset ของ Qualcomm ที่ใช้งานบนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตของ Android ซึ่งช่วยให้แฮ็กเกอร์สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ แม้ว่าจะถูกจัดเก็บอยู่ในพื้นที่ที่มีการป้องกันเป็นอย่างดีของอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่ดังกล่าวเป็นช่องโหว่บน Qualcomm’s Secure Execution Environment (QSEE) ซึ่งเป็น Trusted Execution Environment (TEE) ที่ใช้เทคโนโลยี ARM TrustZone โดย QSEE นี้ถือว่าเป็น Secure World ของ Qualcomm ซึ่งเป็นพื้นที่ฮาร์ดแวร์ที่แยกส่วนออกมาเพื่อให้มีความมั่นคงปลอดภัยสูงบนหน่วยประมวลหลัก มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญและให้บริการ Secure Execution Environment สำหรับรันTrusted Application นอกจาก QSEE จะถูกใช้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว ยังถูกใช้เพื่อเก็บ Private Encryption Keys, Passwords และข้อมูลบัตร Credit/Debit อีกด้วย Check Point ระบุว่า พวกเขาใช้เวลาถึง 4 เดือนในการทำ…

หนุ่มนศ.อินโดฯบึ้มฆ่าตัวตาย ใน สนง.ตำรวจ

Loading

มือระเบิดฆ่าตัวตายนักศึกษาหนุ่มวัย 24 ปีชาวอินโดนีเซีย ดึงชนวนระเบิดโจมตีหน้ากองบังคับการตำรวจเมืองเมดาน บนเกาะสุมาตรา ทางภาคตะวันตก เมื่อเช้าวันพุธ ทำให้ร่างแหลกเละ เสียชีวิตคาที่ และมีผู้โดนสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน นายพลตำรวจจัตวา เดดี ปราเซตโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงที่กรุงจาการ์ตา เมื่อบ่ายวันพุธ ว่า คนร้ายเป็นนักศึกษาชาวเมืองเมดาน โดยระบุชื่อแค่อักษรย่อในภาษาอังกฤษว่า อาร์เอ็มเอ็น (RMN) จากการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากลายพิมพ์นิ้วมือ และลงมือก่อเหตุครั้งนี้เพียงคนเดียว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คนในเหตุการณ์ ประกอบด้วยตำรวจ 4 นาย และพลเรือน 1 คน และรถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวพังเสียหายหลายคัน ตอนนี้ตำรวจกำลังสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ รวมทั้งผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มใด หรือไม่ นายพลปราเซตโย เผยว่า การตรวจสอบจุดเกิดเหตุรอบศพคนร้าย ตำรวจพบแบตเตอรี่ขนาด 9 โวลต์ แผ่นโลหะ ตะปูหลายขนาด สายลวด และสวิตช์ปิดเปิด ส่วนผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเผยว่า คนร้ายสวมเสื้อกั๊กมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เดินผ่านประตูด้านหน้ากองบังคับการตำรวจเมดาน เข้าไปภายในเมื่อเวลาประมาณ 8.40 น.…

บทเรียนขึงลวดไฟฟ้า

Loading

โดย “สหบาท” คนถูกไฟช็อตเพราะเจ้าของบ้านปล่อยกระแสไฟป้องกัน “โจร-ขโมย” อีกแล้ว รู้สึกสะท้อนใจ เพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น ถ้าบ้านเมืองสงบสุข โจรผู้ร้ายชุกชุมแบบนี้? เลยเอาข้อกฎหมายมาให้อ่านก่อนตัดสินใจ กลายเป็นผู้ต้องหามีคดีติดตัว… ในกฎหมายอาญามีกรณีบัญญัติว่า ให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดเลยคือ การป้องกันโดยชอบ เขียนไว้ในมาตรา 68 ความว่า“ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิ์ของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายใกล้จะถึง ถ้ากระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบ ผู้นั้นไม่มีความผิด” เหตุผลที่กฎหมายยอมให้อ้าง “ป้องกัน” ได้ เพราะกฎหมายยอมรับความจริงว่า รัฐไม่สามารถให้ความคุ้มครองประชาชนได้ทันทุกกรณี จำต้องให้อำนาจประชาชนผู้บริสุทธิ์ขจัดปัดเป่าภยันตรายที่กำลังมาถึง ส่วนเรื่อง “การป้องกันภยันตรายไว้ล่วงหน้า” เกิดเป็นข่าวบ่อย เช่น การขึงลวดไฟฟ้าเดินไฟรอบบ้าน พอมีคนมาโดนก็ช็อตตาย มีปัญหาว่า เจ้าของบ้านผิดหรือไม่? มีแนวคำพิพากษาหลายแนวครับ หลักๆคือ ถ้ามีเหตุอ้างได้ว่ามีภยันตรายจะเกิดขึ้นจริง ก็อ้างป้องกันได้ ไม่เป็นความผิด ไม่ต้องติดคุก แต่ถ้าอ้างแล้วฟังไม่ขึ้นก็ต้องมีความผิด! ดูคำพิพากษาฎีกาสุดคลาสสิกที่ 1923/2519 จำเลยเจ้าบ้านเก็บของมีค่าไว้ในโรงเก็บของในสวน ย่านดังกล่าวมีโจรผู้ร้ายชุกชุม ผู้ตายกับพวกบุกเข้าไปยามวิกาลเจตนาลักเอาของดังกล่าว ถูกเส้นลวดที่จำเลยขึงปล่อยกระแสไฟฟ้าไว้ถึงแก่ความตาย จำเลยมีสิทธิ์ทำร้ายผู้ตายกับพวกเพื่อป้องกันทรัพย์สินได้ การกระทำเป็นการป้องกันสิทธิ์พอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด ให้ยกฟ้อง… มาดูอีกตัวอย่าง อันนี้จะอ้างสิทธิ์ป้องกันไม่ได้เลย…