รัฐสั่งสืบทางลับ ‘ทุนจีน’ ซื้อมหา’ลัยไทย หวั่นรุกคืบสู่ ‘ล้งจีน’ เหมือนที่ยึดตลาดผลไม้ไทย!

Loading

กลุ่มทุนจีนเข้าซื้อกิจการมหาวิทยาลัยเอกชนไทย กำลังเป็นประเด็นสำคัญ ที่รัฐบาลบิ๊กตู่สั่งให้มีการตรวจสอบทางลับ เพราะกลุ่มจีนเป็นทุนขนาดใหญ่ เข้ามาถูกต้องตามกฎหมาย ยึดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะมีการแปลงร่างเป็น “ล้งจีน” สร้าง Campus จีน สาขาประเทศไทย ที่มีอิทธิพลเหมือน ‘ล้งจีน’ ที่เข้าครอบงำตลาดการค้าผลไม้ไทย จนเกษตรกรเจ้าของสวนมีสถานะเป็นคนเฝ้าสวน ขณะที่ล้งไทยสูญพันธุ์! กรณีที่กลุ่มทุนจีนเข้าซื้อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนของไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อีกต่อไป เพราะเบื้องหลังที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สั่งวางแผนรับมือกับเรื่องดังกล่าว โดยได้ร่วมกันตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังฯ ซึ่งมีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ อว. กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กรมที่ดิน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฯลฯ เป็นคณะทำงาน อีกทั้งได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาดังกล่าวให้กระทรวงพาณิชย์ต้องไปพิจารณาการถือหุ้นแบบนอมินีว่ามีกฎหมายอะไรควบคุมอยู่ รวมทั้งการออกวีซ่า นักเรียน นักศึกษา ของกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีความชัดเจน เหมือนสหรัฐอเมริกา (J1…

ข้อมูลยั่วยุจากบัญชีปลอม ได้รับความนิยมด้วยอัลกอริทึมของ ‘ยูทูบ’ เอง

Loading

ยูทูบเร่งปิดช่องที่นำเสนอข่าวปลอม หลังพบว่าช่องข่าวในสหรัฐฯ จำนวนมากนำเสนอข้อมูลที่ทั้งปลอมและยั่วยุได้อย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากระบบการ ‘แนะนำวิดีโอ’ ของยูทูบเอง ผู้ใช้งานบัญชียูทูบปลอมจำนวนมากเผยแพร่คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มของยูทูบด้วยการดึงเอาวิดีโอจากสำนักข่าวใหญ่ต่างๆ มาใช้ โดยส่วนใหญ่เป็นภาพการนำเสนอข่าวในประเด็นต่างๆ ของสำนักข่าว CNN และมีการนำภาพจากสำนักข่าว FOX News มาใช้บ้างในบางกรณี ซึ่งเป็นการสร้างเนื้อหาที่บิดเบือนความจริงและยั่วยุ ปลุกปั่น สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้เป็นการหาผลประโยชน์โดยตรงกับอัลกอริทึมของยูทูบที่มีหน้าที่ในการ “แนะนำวิดีโอ” ให้กับผู้ชมที่สนใจในประเด็นเดียวกัน โดยระบบของยูทูบจะทำการแนะนำคลิปวิดีโอเหล่านี้ไปยังผู้ชมยูทูบที่สนใจเนื้อหาดังกล่าวทันทีหลังจากมีการโพสต์ลงบนแพลตฟอร์ม ทำให้ขณะนี้ทางยูทูบกำลังเร่งมือปิดช่องแพร่ข่าวปลอมและข้อมูลที่บิดเบือนโดยเร็วที่สุด อัลกอริทึมด้านการแนะนำวิดีโอดังกล่าวยังได้แนะนำวิดีโอจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไปยังผู้ใช้งานยูทูบที่มีความสนใจในประเด็นนี้ โดยเป็นการเพิ่มความนิยมให้กับคลิปวิดีโอโดยอัตโนมัติ ซึ่งสำนักข่าว CNN ชี้ว่า บางช่องยูทูบที่นำเสนอข่าวปลอมด้านการเมืองมียอดเข้าชมคลิปวิดีโอไปมากกว่า 2 ล้านครั้งในระยะเวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าความผิดพลาดดังกล่าวสร้างคำถามใหญ่จากสังคมว่ายูทูบมีวิธีการจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ยั่วยุ และข่าวปลอม ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ท่ามกลางความพยายามของผู้สร้างคอนเทนต์ในยูทูบที่พยายามหาทางเอาชนะระบบใหม่นี้เพื่อทำเงินบนแพลตฟอร์มให้มากขึ้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทกูเกิลซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยูทูบเดินหน้าผลักดันมาตรการใหม่เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการแนะนำวิดีโอให้กับผู้ใช้งานยูทูบในประเด็นที่พวกเขาสนใจ บริษัท Plasticity สตาร์ตอัปด้านปัญญาประดิษฐ์และการประมวลภาษาธรรมชาติเพื่อให้เอไอสามารถเข้าใจภาษาของมนุษย์ซึ่งมีสำนักงานในนครซานฟรานซิสโกระบุว่า ภายหลังจากที่ทางบริษัทได้ศึกษาและรวบรวมข้อมูลจากยูทูบ Plasticity พบว่า มีช่องยูทูบหลายร้อยช่องนำเสนอข่าวปลอมและยั่วยุเหล่านี้จะ ใช้วิธีการเปลี่ยนกราฟฟิกบนหน้าจอ เช่น พาดหัวข่าวต่างๆ เพื่อบิดเบือนข้อมูลและสร้างความเข้าใจผิดให้สังคม รวมถึงเพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้คนคลิกเข้ามาชมวิดีโอเหล่านั้น ทั้งนี้ ยูทูบ ได้ให้สัมภาษณ์กับ CNN Business ว่าทางทีมงานได้สืบสวนถึงกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า บัญชีผู้สร้างคอนเทนต์หลอกลวงเหล่านั้นมีที่มาจากผู้ใช้งานในพื้นที่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบว่านี่คือส่วนหนึ่งของแผนการสร้างสแปมโดยมีจุดประสงค์ในการสร้างวิดีโอเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อทำเงินในโลกออนไลน์จากยอดวิวและโฆษณาคั่นบนแพลตฟอร์มของยูทูบ นอกจากนั้นยูทูบยังยืนยันอีกด้วยว่าจากการสืบสวนไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าวิดีโอปลอมเหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองในสหรัฐฯ และแม้ว่าทาง CNN และบริษัท Plasticity จะพบว่าวิดีโอจำนวนมากเป็นคลิปที่นำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนทางการเมืองของสหรัฐฯ…

สงครามจารกรรมระอุ สหรัฐไล่ทูตจีนฐานแอบสอดแนมฐานทัพ

Loading

หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐขับไล่เจ้าหน้าที่สถานฑูตจีน 2 คนใน หลังจากที่พวกเขาขับรถไปยังฐานทัพที่มีความมั่นคงสูงในรัฐเวอร์จิเนีย จากเรื่องที่กิดขึ้น อาจเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี ที่นักการทูตจีนต้องสงสัยว่าอาจทำงานด้านจารกรรมในสหรัฐ รายงานระบุว่า มีชาวจีน 6 คนที่เกี่ยวข้องกับการไปด้อมๆ มองๆ ฐานทัพสำคัญ หนึ่งในนั้นรวมถึงบรดาาภรรยาของเจ้าหน้าที่ทางการทูต เมื่อถูกจับได้ คนกลุ่มนี้ก็พยายามหลบเลี่ยงทหารสหรัฐที่ติดตามมา กว่าจะหยุดได้ก็เมื่อไม่สามารถไปต่อได้ เนื่องจากรถดับเพลิงปิดกั้นเส้นทางของพวกเขา เจ้าหน้าที่สหรัฐเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จีนอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับที่ปฏิบัติงานโดยอำพรางเป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูต เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายนซึ่งทั้งรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลจีนไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กรณีนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลอย่างมากต่อรัฐบาลทรัมป์ที่กำลังจับตามองจีนว่าอาจกำลังขยายความพยายามสอดแนมในสหรัฐ เนื่องจากทั้งสองประเทศเผชิญหน้ากันมากขึ้นในด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐยังกล่าวว่าจีนเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐด้านการจารกรรมมากกว่าประเทศอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐเผยว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของจีนที่มีหนังสือเดินทางทางการทูตไปปรากฏตัวที่ศูนย์วิจัยหรือหน่วยงานของสหรัฐอย่างเงียบๆ หลายครั้ง โดยการเข้ามาสอดแนมฐานทัพเป็นเพียงหนึ่งในกรณีดังกล่าวเท่านั้น การขับทูตครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สหรัฐบังคับให้พนักงานสถานทูตจีนสองคนเดินทางออกไปเมื่อปี 2530 และแสดงให้เห็นว่าฝ่ายสหรัฐใช้มาตรการที่แข้งกร้าวมากขึ้นกับผู้ต้องสงสัยชาวจีนว่าอาจจะเข้ามาจารกรรม ในวันที่ 16 ตุลาคม ไม่กี่สัปดาห์หลังจากการบุกรุกและการขับเจ้าหน้าที่ทูตจีน กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ประกาศข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมของนักการทูตจีนในสหรัฐ ซึ่งกำหนดให้ทูตจีนต้องแจ้งให้ทราบก่อนที่จะพบกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัย ในเวลานั้น เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กฎนี้จะใช้กับคณะทูตทั้งหมดของจีนในสหรัฐและดินแดนของสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อกฎระเบียบของจีนเมื่อหลายปีก่อน ที่บังคับให้นักการทูตสหรัฐต้องขออนุญาตหากจะเดินทางนอกที่พำนักอยู่ หรือเพื่อเยี่ยมชมสถาบันบางแห่ง —————————————…

ข้อมูลเงินเดือนพนักงาน Facebook รั่ว หลังโจรทุบรถพนักงาน ขโมยฮาร์ดไดรฟ์

Loading

โดย ปณชัย อารีเพิ่มพร ตลอดปีที่ผ่านมา ถึง Facebook จะพยายามระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้รั่วไหล และได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาก็พร้อมจะเผชิญกับคราวเคราะห์ตลอด ล่าสุดมีรายงานว่า ฮาร์ดไดรฟ์ของพนักงานรายหนึ่งถูกขโมยไปจากรถยนต์ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ข้อมูลเงินเดือนและข้อมูลบัญชีธนาคารพนักงานหลายหมื่นคนถูกโจรกรรมไปด้วย รายงานจากเว็บไซต์ Bloomberg ระบุว่า ฮาร์ดไดรฟ์ดังกล่าวที่ถูกขโมยไปไม่ได้เข้ารหัสไว้ ส่งผลให้ข้อมูลชื่อพนักงาน, เลขบัญชีธนาคาร, ข้อมูลเงินเดือน, โบนัส รวมถึงเลขรหัส 4 หลักสุดท้ายของประกันสังคมพนักงาน สามารถเข้าถึงได้โดยอิสระ (ข้อมูลทั้งหมดนับจนถึงปี 2018) ทั้งนี้ Facebook ได้ดำเนินการแจ้งพนักงานในสหรัฐฯ ที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบกว่า 29,000 คน ผ่านอีเมลของบริษัทแล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี โฆษกของ Facebook ยืนยันว่า ข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดไดรฟ์ที่ถูกโจรกรรมไปไม่มีข้อมูลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด “เราได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการสอบสวนรถของพนักงานของเราที่ถูกทุบและโจรกรรมกระเป๋า ซึ่งบรรจุข้อมูลเงินเดือนพนักงานเอาไว้ เราไม่พบหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมุ่งเป้าไปที่การขโมยข้อมูลพนักงาน และเชื่อว่า มันเป็นแค่การโจรกรรมทั่วไปเท่านั้น” โฆษก Facebook กล่าว นอกจากนี้ Facebook ยังบอกอีกว่า พนักงานรายดังกล่าวไม่ควรจะนำฮาร์ดไดรฟ์ที่บันทึกข้อมูลสำคัญออกจากบริษัท…

มือมืดโจมตีไซเบอร์ป่วนเมืองนิวออร์ลีนส์ นายกเล็กต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

Loading

นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบการโจมตีทางไซเบอร์ และพบความเคลื่อนไหวผิดปกติบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ด้วย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาง ลาโตยา แคนเทรล นายกเทศมนตรีเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของเมืองนายหลายชั่วโมง คิม ลากรู หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศของเมืองนิวออร์ลีนส์ เปิดเผยว่า พวกเขาตรวจพบความพยายามส่งข้อความทางออนไลน์เพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว และความเคลื่อนไหวน่าสงสัยในเครือข่ายคอมพิวเตอร์อของเมือง เมื่อเวลาประมาณ 5:00 น. หลังจากนั้นในเวลา 11:00น. เจ้าหน้าที่สืบสวนก็ตรวจพบเหตุการณ์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ จนสำนงานเทคโนโลยีสารสนเทศนิวออร์ลีนส์ต้องค่อยๆ หยุดการทำงานของเซอร์เวอร์ และคอมพิวเตอร์ภายในเมืองเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังตรวจพบ ‘แรนซัมแวร์’ หรือ ‘ไวรัสคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่’ ด้วย แต่ไม่มีการเรียกค่าไถ่ในการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่สืบสวนยังเชื่อว่า ไม่มีลูกจ้างหน่วยงานสารสนเทศของรัฐสมรู้ร่วมคิดการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ โดยตำรวจเมืองนิวออร์ลีนส์, ตำรวจรัฐลุยเซียนา, กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิลุยเซีนา, สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) และ หน่วยตำรวจลับ กำลังร่วมกันสืบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ทั้งนี้ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ลุยเซียนาเพิ่งเผชิญการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ระดับรัฐ โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนทั่วรัฐ จนผู้ว่าฯ ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินมาแล้ว ———————————————————…

เบลเยี่ยมปิดสถาบันขงจื่อ เชื่อจีนใช้เป็นฐานสปายสอดแนม

Loading

Photo : Belga News Agency มหาวิทยาลัยในเบลเยี่ยมเตรียมปิดสถาบันขงจื่อ หลังหน่วยราชการลับพบพิรุธ ผอ.สถาบันเอี่ยวสปายจีน เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า มหาวิทยาลัย Vrije Universiteit Brussel (VUB) ในกรุงบรัสเซลล์ของเบลเยี่ยมไม่ต่อสัญญาการเปิดสถาบันขงจื่อ ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลจีน หลังจากมีการพบพิรุธที่เชื่อได้ว่าสถาบันดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสอดแนมด้านข่าวกรองของรัฐบาลปักกิ่ง ในแถลงการของมหาวิทยาลัยระบุว่า “การดำเนินงานของสถานบันฯไม่สอดคล้องกับหลักการวิจัยเสรีของเรา อ้างอิงจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยได้รับ .. เหตุนี้มหาวิทยาลัยมีความเห็นว่าการร่วมมือกับสถาบันนั้นไม่สอดคล้องกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของอีกต่อไป” ความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยเบลเยี่ยมมีขึ้นจากการที่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยราชการลับของเบลเยี่ยมกล่าวหาว่านายซ่ง ซินหนิง (Song Xinning) อดีตหัวหน้าสถาบันดังกล่าวที่ VUB ทำงานร่วมมือกับหน่วยสืบราชการลับของจีน ด้านเว็ปไซต์ brusselstimes รายงานเช่นว่าสถาบันขงจื่อใน VUB ต้องปิดตัวลงในเดือนเดือนมิถุนายนปีหน้า หลังเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2006 หนังสือพิมพ์ De Morgen ของเบลเยียมรายงานว่า VUB ได้เพิกเฉยต่อคำเตือนจากหน่วยราชการลับเบลเยี่ยมเกี่ยวกับกิจกรรมของสถาบันดังกล่าว กระทั่งนายซ่ง ถูกเพิกถอนวีซ่าเชงเก้น พร้อมห้ามเดินทางเข้าประเทศยุโรปเป็นเวลา 8 ปี สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของ เซาท์มอร์นิ่งโพสต์จากการสัมภาษณ์อดีต ผอ.สถาบันขงจื่อแห่งนี้ว่า เขาถูกทางการเบลเยี่ยมสั่งห้ามเข้าประเทศเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยวีซ่าของเขาไม่ได้รับการต่ออายุจากการที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมสนับสนุนข่าวกรองของจีน…