เบลเยี่ยมปิดสถาบันขงจื่อ เชื่อจีนใช้เป็นฐานสปายสอดแนม

Loading

Photo : Belga News Agency มหาวิทยาลัยในเบลเยี่ยมเตรียมปิดสถาบันขงจื่อ หลังหน่วยราชการลับพบพิรุธ ผอ.สถาบันเอี่ยวสปายจีน เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า มหาวิทยาลัย Vrije Universiteit Brussel (VUB) ในกรุงบรัสเซลล์ของเบลเยี่ยมไม่ต่อสัญญาการเปิดสถาบันขงจื่อ ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลจีน หลังจากมีการพบพิรุธที่เชื่อได้ว่าสถาบันดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมสอดแนมด้านข่าวกรองของรัฐบาลปักกิ่ง ในแถลงการของมหาวิทยาลัยระบุว่า “การดำเนินงานของสถานบันฯไม่สอดคล้องกับหลักการวิจัยเสรีของเรา อ้างอิงจากข้อมูลที่มหาวิทยาลัยได้รับ .. เหตุนี้มหาวิทยาลัยมีความเห็นว่าการร่วมมือกับสถาบันนั้นไม่สอดคล้องกับนโยบายและวัตถุประสงค์ของอีกต่อไป” ความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยเบลเยี่ยมมีขึ้นจากการที่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยราชการลับของเบลเยี่ยมกล่าวหาว่านายซ่ง ซินหนิง (Song Xinning) อดีตหัวหน้าสถาบันดังกล่าวที่ VUB ทำงานร่วมมือกับหน่วยสืบราชการลับของจีน ด้านเว็ปไซต์ brusselstimes รายงานเช่นว่าสถาบันขงจื่อใน VUB ต้องปิดตัวลงในเดือนเดือนมิถุนายนปีหน้า หลังเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2006 หนังสือพิมพ์ De Morgen ของเบลเยียมรายงานว่า VUB ได้เพิกเฉยต่อคำเตือนจากหน่วยราชการลับเบลเยี่ยมเกี่ยวกับกิจกรรมของสถาบันดังกล่าว กระทั่งนายซ่ง ถูกเพิกถอนวีซ่าเชงเก้น พร้อมห้ามเดินทางเข้าประเทศยุโรปเป็นเวลา 8 ปี สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ของ เซาท์มอร์นิ่งโพสต์จากการสัมภาษณ์อดีต ผอ.สถาบันขงจื่อแห่งนี้ว่า เขาถูกทางการเบลเยี่ยมสั่งห้ามเข้าประเทศเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยวีซ่าของเขาไม่ได้รับการต่ออายุจากการที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมสนับสนุนข่าวกรองของจีน…

เปิดปมทหารซาอุฯ กราดยิงฐานทัพสหรัฐฯ สะเทือนสัมพันธ์ ‘วอชิงตัน-ริยาด’

Loading

เรืออากาศตรี โมฮัมเหม็ด ซาอีด อัลชามรานี วัย 21 ปี นายทหารซาอุฯ ซึ่งลุกขึ้นมาก่อเหตุกราดยิงภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลา รัฐฟลอริดา นับเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงเมื่อทหารอากาศซาอุฯ นายหนึ่งลงมือกราดยิงคนตาย 3 ศพ และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ภายในฐานทัพเรือเพนซาโคลาที่รัฐฟลอริดาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นำมาสู่คำสั่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ระงับการฝึกของทหารจากซาอุดีอาระเบียทั้งหมด ขณะเดียวกันก็จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารระหว่างวอชิงตันและริยาด รวมถึงมาตรการคัดกรองทหารต่างชาติที่จะเข้ารับการฝึกฝนในอเมริกา มาตรการ ‘safety stand down’ นี้จะส่งผลต่อนักเรียนการบินทหารซาอุฯ กว่า 300 นาย ตลอดจนทหารราบ (infantry personnel) และปฏิบัติการฝึกอื่นๆ ทั้งหมดของทหารซาอุฯ ยกเว้นแต่การเรียนภายในห้องเรียน เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งจะยังมีการเรียนการสอนตามปกติ เจ้าหน้าที่อาวุโสของเพนตากอนระบุว่า มาตรการนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้กระทรวงฯ ได้พิจารณาทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัย ซึ่งท้ายที่สุดจะถูกนำไปใช้กับนักศึกษาทหารต่างชาติทั้งหมดในสหรัฐฯ ซึ่งมีอยู่ราวๆ 5,000 นาย เรือโทหญิงแอนเดรียนา เจนูอัลดี โฆษกกองทัพเรือสหรัฐฯ ยืนยันว่า คำสั่งระงับปฏิบัติการฝึกของนักเรียนการบินทหารซาอุฯ ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ (9) จะครอบคลุมศูนย์ฝึก 3 แห่ง ได้แก่…

การก่อวินาศกรรมทางไซเบอร์

Loading

โดย…ภุมรัตน ทักษาดิพงศ์ กิจกรรมค้นการข่าวกรองได้ปรับเปลี่ยนไปมากเมื่อเทคโนโลยีด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอ.ที่.ก้าวหน้ามากขึ้น แม้วัตถุประสงค์คงเดิม แต่วิธีการได้ปลี่ยนไป บางอย่างง่ายขึ้น สะดวกสบายมากขึ้นแต่ก็ซับซ้อนมากขึ้น นอกจาก “ข่าวกรองทางไซเบอร์” ที่นำเสนอไปแล้ววันนี้ จะเขียนถึงการก่อวินาศกรรมทางไซเบอร์ที่ทำลายเป้าหมายได้กว้างขวางและรุนแรงกว่า การก่อวินาศกรรมทางไซเบอร์ หมายถึง การใช้คอมพิวเตอร์ทำลาย ขัดขวางทำให้เสียหายต่อระบบ เครื่องจักร ที่มีเทคโนโลยีสูงคำว่า การก่อวินาศกรรม มาจากภาษาอังกฤษSabotage โดยพัฒนาจากคำว่า subot ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่ารองเท้าไม้ ที่กรรมกรฝรั่งเศสไม่พอใจนายจ้าง จึงเอารองเท้าไม้ใส่เข้าไปในเกียร์เครื่องจักร ทำให้เครื่องจักรหยุดทำงาน กระบวนการผลิตชะงัก เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ ต่อมาการก่อวินาศกรรมได้พัฒนาวิธีการให้ทันสมัยขึ้น โดยมีเป้าหมายคือการบ่อนทำลายทางการเมืองต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และความมั่นคงของประเทศ ย้อนหลังไปเมื่อปี 2510 คนที่ถูกฝึกให้เป็นนักก่อวินาศกรรม หรือ วินาศกร ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจและมีชีวิตอยู่กับ “ระเบิดแรงสูง” หลายคนบาดเจ็บ เสียชีวิตระหว่างการฝึกก็มี วินาศกรทุกคนจะต้องมี “เซฟตี้ พิน” ติดตัวไว้จนเป็นนิสัย นักเรียนจะถูกฝึกให้รู้จักระเบิดและความรุนแรงของระเบิดชนิดต่างๆ ในการใช้ทำลายเป้าหมายบุคคลและสถานที่ รู้จักจุดอ่อนของเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ อาทิโรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า โรงกรองน้ำประปา สะพาน ฯลฯ…

แบบประวัติบุคคล (รปภ.สขช.1) และหลักฐานที่ยื่นในวันสอบแข่งขันเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง สำนักข่าวกรองแห่งชาติ

Loading

ดาวน์โหลดแบบประวัติบุคคล สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (รปภ.สขช.1)    คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด พิมพ์ รปภ.สขช.1 ออกมากรอกรายละเอียดด้วยลายมือให้ครบถ้วน (ยังไม่ต้องลงลายมือชื่อใน รปภ.สขช.1) เขียนตำแหน่งที่สอบพร้อมเลขประจำตัวสอบไว้ที่มุมขวาบนของ รปภ.สขช.1 (เฉพาะหน้าแรก) นำ รปภ.สขช.1 ที่กรอกรายละเอียดแล้วมายื่นในวันสอบแข่งขันเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (วันเข้ารับการสอบสัมภาษณ์)   – คำแนะนำในการกรอกแบบประวัติบุคคล (รปภ.สขช.1) – คำแนะนำการวาดแผนที่ ในแบบประวัติบุคคล (รปภ.สขช.1)     ผู้เข้าสอบจะต้องนำหลักฐานดังต่อไปนี้มายื่นในวันสอบแข่งขันเพื่อวัดความเหมาะสมกับตำแหน่ง (วันเข้ารับการสอบสัมภาษณ์) 1.ใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ให้ติดรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก และไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายไม่เกิน 1 ปี ขนาด 1×1.5 นิ้ว จำนวน 1 รูป (เขียนชื่อ-สกุล และเลขประจำตัวสอบหลังรูป) ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน 2.สำเนาปริญญาบัตร และ/หรือ สำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of Records) ที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิทางการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันปิดรับสมัคร (วันปิดรับสมัครสอบ คือ…

รถไฟใต้ดินโอซากา ทดสอบระบบสแกนใบหน้าแทนการใช้ตั๋ว

Loading

โอซากา เมโทร ผู้ให้บริการรถไฟใต้ดินในนครโอซากา ได้ทดสอบระบบประตูอัตโนมัติที่ใช้การจดจำใบหน้า แทนการใช้ตั๋วแบบปกติ โดยตั้งเป้าจะใช้งานจริงก่อนงานเวิร์ล เอ็กซ์โป 2025 การทดสอบครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมเป็นพนักงานของโอซากา เมโทร ราว 1,200 คน โดยเป็นการทดสอบระบบสแกนใบหน้าเพื่อชำระค่าโดยสารเป็นครั้งแรกของรถไฟในประเทศญี่ปุ่น หลังจากนี้ จะมีการติดตั้งระบบสแกนใบหน้าเพื่อทดลองใช้งานจริงจนถึงเดือนกันยายน ปีหน้า ใน 4 สถานีสำคัญคือ โดเมมาเอะ ชิโยซากิ, โมริโนมิยะ, โดบุตสึเอ็น มาเอะ และ ไดโคคุโจ แต่ละสถานีจะมีประตูที่ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทที่แตกต่างกัน 4 บริษัท เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงาน การใช้งานระบบชำระค่าโดยสารโดนสแกนใบหน้า จะต้องลงทะเบียนใบหน้าไว้ล่วงหน้า เมื่อเดินผ่านประตูที่สถานี ระบบจะเปรียบเทียบใบหน้าผู้โดยสารกับข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้ ถ้าข้อมูลตรงกันประตูก็จะเปิดให้ผ่านเข้าสถานีได้ ระบบสแกนใบหน้า นอกจากจะช่วยให้ผู้โดยสารผ่านเข้าสถานีได้เร็วขึ้น ลดความแออัดแล้ว บังอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งจะผ่านประตูได้โดยไม่ต้องแตะบัตรโดยสาร บริษัท 4 แห่งที่ร่วมทดสอบระบบสแกนใบหน้าของรถไฟใต้ดินของโอซากา ประกอบด้วย บริษัท ออมรอน โซเชียล เทคโนโลยี, บริษัท ทากามิซาวะ ไซเบอร์เนติค, บริษัท โตชิบา…

เทคโนโลยีจดจำใบหน้าไหลบ่าท่วมจีน กับกระแสวิตกความปลอดภัยข้อมูลใบหน้า

Loading

ใบหน้าของผู้เข้าชมงานนิทรรศการดิจิตัล ไชน่า ในฝูโจว ปรากฏบนจอภาพของเทคโนโลยีจดจำใบหน้า ภาพเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2019 (แฟ้มภาพ รอยเตอร์ส) ระบบการจดจำใบหน้า (facial recognition) กำลังหลั่งบ่าสู่ชีวิตชาวจีนในมิติต่างๆมากขึ้นทุกวันในขณะที่ยังไร้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล ระบบระบุอัตลักษณ์ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดได้ก่อความเคลือบแคลงวิตกกังวลให้กับบางกลุ่มเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิส่วนตัวและการนำไปในในทางมิดีมิร้ายต่าง ๆ ที่น่าสะพรึงอย่างไม่อาจจิตนาการ หลังจากที่จีนออกกฎข้อบังคับใหม่ให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือต้องสแกนใบหน้าเมื่อลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ ก็อาจกล่าวได้ว่าขณะนี้แทบไม่มีชาวจีนคนไหนรอดพ้นจากการแวะข้องกับเทคโนโลยีจดจำใบหน้ากันแล้ว กระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีแห่งจีนซึ่งประกาศกฎข้อบังคับนี้มาตั้งแต่เดือนก.ย. โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ออกโรงอธิบายมาตรการใหม่นี้จะช่วยป้องกันการขายต่อซิมการ์ดและป้องกันพวกมือมืดหรือมิจฉาชีพลงทะเบียนในเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในกรณีที่บัตรประชาชนถูกขโมย สื่อโซเชียลมีเดียและบริการออนไลน์หลายรายในจีนได้เชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์เพื่อที่จะสามารถติดตามผู้ใช้ได้ แอพลิเคชั่นเชิงพาณิชย์และหน่วยงานตำรวจก็ใช้ระบบรู้จำใบหน้ากับคึกคัก เครือข่ายสถานีรถไฟใต้ดินปักกิ่งเป็นรายล่าสุดที่นำระบบรู้จำใบหน้ามาใช้ในปลายเดือนที่ผ่านมา(28 พ.ย.) ขณะที่สถานีรถไฟใต้ดินในหลายๆเมืองในจีนได้ใช้ระบบฯนี้กันไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน จีนได้ทะยานขึ้นเป็นจ้าวเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ชั้นนำของโลก และกำลังนำเอไอมาใช้ในทุกมิติชีวิต ตามสถานที่สาธารณะเริ่มทยอยติดตั้งกล้องวงจรปิดเทคโนโลยีจดจำใบหน้าทั้งเพื่อการต่างๆ ทั้งการจับขโมย นักล้วงกระเป๋า ไปยันการขโมยกระดาษชำระในห้องน้ำ มีการเปิดเผยอย่างกว้างขวางระบุว่าจำนวนกล้องวงจรปิดที่ใช้ในจีน ราว 200 ล้านตัว และกำลังจะเพิ่มมากขึ้นถึง 626 ล้านตัว ไล่เรียงดูแล้วแทบจะพูดได้ว่าเทคโนโลยีจดจำใบหน้าแพร่ระบาดไปทั่วหย่อมหญ้าจีน แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันชาวจีนจนกลายเป็นความปกติธรรมดาไปแล้ว สำหรับผู้ที่มองโลกในแง่ดีบอกว่ามาตรการใหม่ที่ให้สแกนใบหน้าเพื่อลงทะเบียนเปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือนี้จะช่วยลดคดีฉ้อฉลในด้านโทรคมนาคม และการหลอกลวงเกี่ยวกับโทรศัพท์ มหาวิทยาลัยหลายแห่งคุยว่าการใช้ระบบจดจำใบหน้ามาเช็คชื่อผู้เข้าเรียนช่วยให้อัตราการเข้าห้องเรียนของนักศึกษาสูงขึ้น เป็นต้น ทว่า ในอีกด้านหนึ่งกลุ่มเคลือบแคลงสงสัยต่อระบบจดจำใบหน้าได้ชี้ถึงผลพวงอันไม่พึงประสงค์ของปัจเจกชน บ้างกล่าวว่ามันเป็นอีกตัวอย่างของการขยายการติดตามพลเมือง บ้างชี้ว่ามันเป็นการละเมิดและอาจจะถูกนำไปใช้ในการฉ้อฉลอย่างน่าสะพรึง…