สถานทูตเตือนคนไทยในออสเตรเลีย เกาะติดข่าวสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด

Loading

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ขอเรียนว่า ตามที่ได้มีรายงานข่าวสถานการณ์ไฟป่าในบางพื้นที่ของออสเตรเลียโดยเฉพาะที่รัฐ New South Wales และรัฐ Queensland ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. 2562 พบว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน สูญหายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากภาพถ่ายทางดาวเทียมแสดงให้เห็นควันไฟป่าที่มีระยะทางกว่า 4,000 กม. จาก Tasman Sea ไปจนถึง South Island ของนิวซีแลนด์ ในขณะที่ทางการออสเตรเลียได้ใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองและรักษาชีวิต รวมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแจ้ง เตือนว่าสถานการณ์ไฟป่ามีแนวโน้มว่าอาจมีความรุนแรงยิ่งขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวรวมทั้งรัฐ Western Australia เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ทิศทางและความแรงของลมที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความชื้นปริมาณต่ำ และปริมาณฝนที่คาดว่าจะมีไม่มากในช่วงเดือน ธ.ค. นี้ จนถึงต้นปีหน้า ในรัฐ New South Wales พบว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นถึง 64 จุด โดย…

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน เข้ากลุ่ม เลือกคนมีปัญหาเป็นสายก่อการร้าย

Loading

ไอเอสดึงแม่บ้านอาเซียน – ซีเอ็นเอ็น รายงานการเปิดข้อมูลกระทรวงกิจการภายในของสิงคโปร์ที่ตรวจจับความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอาเซียน พบว่า กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เพ่งเล็งเป้าหมายสตรีผู้รับจ้างทำงานแม่บ้านและสาวใช้ ซึ่งเผชิญความโดดเดี่ยว มีปัญหาหนี้สินและปัญหาครอบครัว เข้าเป็นสมาชิกใหม่ สิงคโปร์จับกุม แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 3 คนที่รับจ้างทำงานบ้านในสิงคโปร์ เมื่อเดือน ก.ย. ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคง ทั้งตกเป็นผู้ต้องหาสนับสนุนทางการเงินให้กลุ่มก่อการร้าย  และใช้เวลาว่างทำกิจกรรมสนับสนุนกลุ่มไอเอสทางออนไลน์  ทำให้ทั้ง 3 คนอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และถูกปรับ 500,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 11,300,000 บาท ตำรวจอินโดนีเซียตรวจพบระเบิด 3 ก.ก. ในบ้านพักเมืองเบกาซี ชวาตะวันตก เมื่อปี 2559 พบ 1 ใน 4 คนร้ายทำงานเป็นแม่บ้านรับจ้างที่สิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายเผยว่าผู้หญิง 3 คนนี้ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในสิงคโปร์และฮ่องกง เนื่องจากมีแนวร่วมกระจายอยู่ในเอเชีย หลังจากไอเอสในตะวันออกกลางอ่อนกำลังลง นาวา นูรานิยาห์ นักวิจัยสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้งของอินโดนีเซีย หรือ IPAC บอกว่ากลุ่มผู้หญิงเหล่านี้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มไอเอสและถูกใช้ให้สร้างรายได้แก่ไอเอส ระหว่างปี 2558-2559 มีผู้หญิงชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 50…

นักการทูตจีนถูกจับกุมลงโทษ หลังมีปัญหาชู้สาวและขายความลับให้ต่างชาติ

Loading

(ภาพถ่ายจากคลิปโทรทัศน์ซีซีทีวี) By KG Chan07/11/2019 รายงานของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของทางการจีน (ซีซีทีวี) เปิดเผยว่ามีผู้ปฏิบัติงานรายหนึ่งถูกจับกุมและถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ภายหลังมีปัญหาชู้สาวและส่งเอกสารลับจำนวนมากให้พวกสายลับต่างชาติ นักการทูตจีนระดับอาวุโสผู้หนึ่ง ซึ่งขณะรับตำแหน่งประจำการอยู่ในต่างประเทศ ได้ใช้ชีวิตแบบเพลย์บอย , เป็นพ่อของเด็ก 2 คนที่เกิดนอกสมรส, และมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพวกสายลับต่างชาติ ได้ถูกส่งตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลด้วยข้อหาทำความลับระดับท็อปซีเครตของรัฐรั่วไหล ผู้ปฏิบัติงานชาวจีนแซ่จางผู้นี้ ซึ่งกล่าวกันว่าทำงานอยู่ในกระทรวงที่รับผิดชอบด้านเทคโนโลยี ถูกส่งตัวฟ้องร้องต่อศาลด้วยข้อหาฉกรรจ์ๆ เกี่ยวกับการทำให้ความลับระดับสูงของรัฐจำนวนมากรั่วไหลไปถึงเหล่าสปายสายลับต่างชาติ และในที่สุดก็ถูกศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิตแต่ให้พักโทษนี้เอาไว้ก่อนเป็นเวลา 2 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีน (China Central Television หรือ ซีซีทีวี) ได้เปิดเผย “โทษกรรมแห่งการหาประโยชน์ใส่ตัวอย่างเลวร้ายและการทรยศต่อประเทศชาติ” ของบุคคลผู้นี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในรายการที่มุ่งประจานการกระทำความผิดอันร้ายแรง ซึ่งออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ตอนกลางคืน จุดมุ่งหมายของรายการดังกล่าวนี้ อยู่ที่การมุ่งเตือนบรรดาเจ้าหน้าที่และประชาชนให้ตระหนักตื่นรู้ว่า ประเทศจีนยังคง “คลาคล่ำด้วยพวกสายลับต่างชาติ” รวมทั้งผู้ที่ได้รับตำแหน่งไปประจำในต่างแดนก็จะต้องคอยระแวดระวังการที่อาจถูกยั่วยวนล่อลวงและถูกกระตุ้นยั่วยุ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงฮานอย (ภาพจากสื่อสังคม “วีแชต” ) ซีซีทีวีไม่ได้เอ่ยว่าจางไปประจำปฏิบัติหน้าที่ยังประเทศใด แต่มีผู้โพสต์ข้อความซึ่งไม่ได้มีการตรวจสอบยืนยันแต่เผยแพร่ไปทางสื่อสังคมจีนอย่าง “วีแชต” และ “เว่ยปั๋ว” ระบุว่า เขากระทำการทรยศชาติขณะทำงานอยู่ในเวียดนาม ยังมีการกล่าวอ้างกันด้วยว่า ลูกนอกสมรสไม่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาได้ถูกใช้เป็นตัวประกันเพื่อบังคับให้เขาคอยป้อนความลับต่างๆ เพิ่มมากขึ้นอีก…

สนามบินเนเธอร์แลนด์ปิดฉุกเฉิน หลังนักบินพลาดส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบิน

Loading

วานนี้ (6 พฤศจิกายน) เกิดความชุลมุนที่ท่าอากาศยานสคิปโฮลในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในทวีปยุโรป หลังมีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินจากเที่ยวบินของสายการบิน Air Europa ที่กำลังเตรียมขึ้นบินสู่จุดหมายในกรุงมาดริดของสเปน ส่งผลให้ตำรวจต้องรีบปฏิบัติการช่วยอพยพผู้โดยสารและลูกเรือออกจากเครื่องบิน พร้อมทั้งปิดสนามบินบางส่วน เพื่อทำการตรวจสอบและดำเนินมาตรการป้องกันความปลอดภัยตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ทางสายการบิน Air Europa ได้ประกาศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของหนึ่งในนักบินที่เผลอเปิดสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินโดยไม่ได้ตั้งใจ “สัญญาณเตือนในเที่ยวบินอัมสเตอร์ดัม-มาดริด ช่วงบ่ายวันนี้ ถูกเปิดใช้งานด้วยความผิดพลาด และส่งผลให้มีการดำเนินการเพื่อรับมือเหตุจี้เครื่องบินที่สนามบิน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย และกำลังรอที่จะออกเดินทางในเร็วๆ นี้” สายการบินทวีตข้อความ การปิดสนามบินที่เกิดขึ้นสร้างความสับสนและหวั่นวิตกแก่ผู้โดยสารที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่ยังมีหลายเที่ยวบินร่อนลงจอด และบางเที่ยวบินถูกกักไว้ที่ลานจอดเครื่องบินนานเกือบ 1 ชั่วโมง ทางการเนเธอร์แลนด์ระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่เรียกว่าสถานการณ์ GRIP-3 ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบใหญ่หลวงต่อประชาชน ขณะที่ยังไม่แน่ชัดว่ามีการส่งสัญญาณเตือนจี้เครื่องบินผิดพลาดได้อย่างไร ซึ่งทางการกำลังอยู่ระหว่างสอบสวน แต่จากเอกสารกฎระเบียบของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ระบุขั้นตอนส่งสัญญาณเตือนกรณีเกิดการจี้เครื่องบินว่า นักบินต้องพิมพ์รหัส 7500 ซึ่งเป็นรหัสสัญญาณดาวเทียมพิเศษก่อน จึงจะเปิดสัญญาณเตือนได้ หมายเหตุภาพ: เป็นแฟ้มภาพสนามบินสคิปโฮลจาก Getty Images ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ————————————– ที่มา…

ชาวคาตาลันชุมนุมประท้วงราชวงศ์สเปน

Loading

ชาวคาตาลันนับพันชุมนุมประท้วงราชวงศ์สเปน เผาพระฉายาลักษณ์กษัตริย์เฟลิเปที่ 6 เหตุไม่พอใจประเด็นเอกราชแคว้นคาตาลัน สำนักข่าว El PAIS สื่อท้องถิ่นสเปนรายงานเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าชาวบาร์เซโลน่าจำนวนหลายพันคนได้ชุมนุมประท้วงต่อต้านราชวงศ์สเปน จากการที่สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีเลติเซีย เจ้าหญิงเลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรียส และเจ้าหญิงโซเฟีย เสด็จพระราชดำเนินไปยังนครบาร์เซโลน่า ในการพระราชทานรางวัล Princess of Girona Awards รายงานระบุว่าผู้ชุมนุมซึ่งเป็นชาวคาตาลันได้รวมตัวกันอย่างน้อย 3 กลุ่มเดินขบวนไปตามถนนทั่วนครบาเซโลนา ได้มีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 รวมถึงพร้อมใจชูป้ายข้อความประท้วงสถาบันกษัตริย์ของสเปน และมีการเผาธงชาติสเปน การเดินขบวนครั้งนี้นับเป็นการสืบเนื่องจากความไม่พอใจต่อราชวงศ์สเปนและรัฐบาลมาดริด จากกรณีความพยาลงประชามติแบ่งแยกแคว้นคาตาลันออกเป็นเอกราชเมื่อปี 2017 จนส่งผลให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองกระทั่งนำไปสู่การที่รัฐบาลมาดริดต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเข้าควบคุมการเมืองของแคว้นคาตาลัน ความไม่พอใจของชาวคาตาลันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากการที่เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 ทรงมีพระราชดำรัสต่อเหตุการณ์ในคาตาลันว่า การลงประชามติเอกราชของคาตาลันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเป็นการละเมิดต่อหลักประชาธิปไตยและความเป็นเอกภาพของประเทศ พระบรมราชดำรัสดังกล่าวนั้นทำให้ชาวคาตาลันยิ่งมองว่าราชวงศ์สเปนไม่แยแสต่อข้อเรียกร้องของพวกเขา และยิ่งทำให้มีการต่อต้านราชวงศ์สเปนในแคว้นคาตาลันมากขึ้น Ernest Maragall แกนนำกลุ่มสนับสนุนสาธารณรัฐคาตาลันกล่าวว่า “ที่เราชุมนุมวันนี้ เพราะเราต้องการคาตาลันที่เป็นสาธารณรัฐ เพราะนั่นคือประชาธิปไตยที่แท้จริงของชาวคาตาลัน กษัตริย์และสถาบันกษัตริย์ไม่มีค่าใดๆในสายตาเราอีกแล้ว” ด้านผู้สนับสนุนการประท้วง โดยเฉพาะผู้นำกลุ่มสาธารณรัฐคาตาลันนิยมฝ่ายซ้าย เอร์เนสต์ มารากัลล์…