สงสัย!อุปกรณ์เก็บเสียงปืน ขายเกลื่อนโลกออนไลน์

Loading

จากกรณี”โจรชุดพลาง”ใจอำมหิต ใช้ปืนสั้นติดอุปกรณ์เก็บเสียงบุก ยิงใส่ประชาชนก่อนชิงทองในร้านทองออโรร่า ในห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี เสียชีวิต 3 ราย ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นด.ช.วัย 2 ขวบ และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย จากนั้นคว้าทอง 28 บาท ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้อย่างลอยนวล ทำให้ประชาชนและชาวโซเชียลต่างวิพากวิจารณ์ไปต่างๆนาๆว่าคนร้ายเป็นคนที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธ หรือเป็นพวกคลั่งเกมส์ต่อรุน ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ ได้มีการลงคลิป ขายอุปกรณ์เก็บเสียงใส่กับเกลียวปืนยี่ห้อ CZ   ,Cmmg , Ruger, INDO พร้อมสาธิตวิธีการประกอบอุปกรณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นระบบเก็บเสียงแบบรังผึ้ง รุ่นใหม่ล่าสุดมีความสวยงาม เสียงเงียบตัวท็อป ขนาด 32มิลลิเมตร ยาว 7.5 นิ้ว ซึ่งถ้ามีผู้สนใจก็สามารถสั่งซื้อได้ตามลิงค์ที่ผู้ขายลงเอาไว้ ในราคา 3,500 บาท พร้อมจัดโปรโมชั่นลดราคาเหลือเพียง 3,000 บาทเท่านั้น พร้อมจัดส่งถึงประตูบ้าน ซึ่งคลิปนี้ลงเอาไว้เมื่อวันที่ 24…

ฟิลิปปินส์ปิดโรงเรียน-หน่วยงานราชการรับมือภูเขาไฟปะทุ

Loading

รัฐบาลฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ขณะนี้ฟิลิปปินส์กำลังเผชิญความเสี่ยงจากอันตรายร้ายแรงของภูเขาไฟตาอัล ที่กำลังปะทุและพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่งผลให้พื้นที่ตอนใต้ของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านสูงถึง 65 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ ได้สั่งให้โรงเรียนและหน่วยงานของรัฐบาลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงภูเขาไฟตาอัล ปิดการเรียนการสอนและการดำเนินงาน และได้สั่งอพยพประชาชนจำนวนหลายพันคนออกจากพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า อาจจะมีประชาชนจำนวนมากถึง 200,000 คนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย นายโจเวเนอร์ ดูพิลาส เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลข่าวสารของสำนักงานป้องกันพลเรือนกล่าวว่า จำนวนผู้อพยพคาดว่าจะสูงถึง 200,000 คน พร้อมระบุว่า ทีมงานของเขาเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย เนื่องจากภูเขาไฟตาอัลพ่นเถ้าถ่านหนาทึบ ส่วนเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาของฟิลิปปินส์ ยกระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 4 จากทั้งหมด 5 ระดับ หลังจากภูเขาไฟตาอัลปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระยะทางถึง 15 กิโลเมตร นอกจากนี้ ทางสถาบันฯยังได้เตือนให้ชุมชนที่อยู่โดยรอบแนวชายฝั่งทะเลสาบตาอัล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาออกไปทางใต้ราว 90 กิโลเมตร พร้อมทั้งเฝ้าระวังเหตุด่วนเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ โดยภูเขาไฟได้พ่นเถ้าถ่านพร้อมด้วยเศษหินออกมา และเตือนว่า ภูเขาไฟอาจพ่นเถ้าเปียกไปไกลถึงเกซอนซิตี้ในเขตมหานครมะนิลา ขณะที่การท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ของกรุงมะนิลาแล้ว ทั้งขาเข้าและขาออก และแนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อประสานงานกับทางสายการบินเพื่อรับทราบสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับเที่ยวบินของตนเอง ทั้งนี้ ภูเขาไฟตาอัลเป็นแห่งท่องเที่ยวยอดนิยมของฟิลิปปินส์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และภูเขาไฟที่ทรงพลังเป็นอันดับสองในฟิลิปปินส์ ———————————————…

ตัดไฟแต่ต้นลม คณะกรรมการโอลิมปิกสากลออกกฎห้ามนักกีฬาแสดงออกทางการเมืองในสนาม

Loading

เมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ออกข้อบังคับในกฎบัตรโอลิมปิก ให้หลีกเลี่ยงการแสดงออกเพื่อประท้วงทางการเมือง เพื่อนำมาใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 2020 ที่จะจัดในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม นี้ โดยเนื้อหาของข้อบังคับที่มีความยาว 3 หน้ากระดาษระบุว่า ห้ามนักกีฬาที่มาร่วมการแข่งขันคุกเข่าประท้วง แสดงสัญลักษณ์มือที่ส่อความหมายไปในทางการเมือง หรือสวมเครื่องแต่งกายหรือปลอกแขนที่มีสัญลักษณ์การเมืองในสนามแข่งขัน บนสแตนด์เชียร์ และในหมู่บ้านนักกีฬา รวมถึงการแสดงออกในพิธีมอบเหรียญด้วย อย่างไรก็ตาม นักกีฬาสามารถแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในโซเชียลมีเดียของตัวเองหรือในสื่อทางการได้ โดยสามารถให้สัมภาษณ์สื่อได้ ซึ่งรวมถึงในงานแถลงข่าว และในพื้นที่ที่นักกีฬาพบปะกับสื่อมวลชนหลังการแข่งขัน ข้อบังคับนี้ ยังบอกด้วยว่า “ไม่อนุญาตให้มีการประท้วง การโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ศาสนา และเชื้อชาติ ในพื้นที่จัดแข่งขันโอลิมปิก พื้นที่ที่ทุกคนมารวมตัวกัน และพื้นที่อื่นๆ” โดยนักกีฬาที่ฝ่าฝืนกฎดังกล่าวในโอลิมปิกครั้งนี้จะได้รับบทลงโทษจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยจะประเมินและพิจารณาโทษเป็นกรณีๆ ไป โธมัส แบช ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลกล่าวว่า ภารกิจของโอลิมปิกก็เพื่อรวมให้เป็นหนึ่งและไม่แบ่งแยก เราเป็นงานเดียวในโลกที่รวมทั่วโลกเข้าด้วยกันในการแข่งขันอย่างสันติ “ผมขอให้พวกเขา (นักการเมืองและนักกีฬา) เคารพภารกิจของการแข่งขันโอลิมปิก…

เพราะอินเทอร์เน็ตคือสิทธิพื้นฐาน ศาลสั่งรัฐบาลอินเดียทบทวนการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในแคชเมียร์

Loading

ภาพจาก stockpexel/Shutterstock ใช้เพื่อการข่าวเท่านั้น รัฐบาลอินเดียปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในแคว้นแคชเมียร์มาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลอินเดียเพิกถอนบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่มอบสถานะพิเศษให้แก่ดินแดนแคชเมียร์ ล่าสุดศาลสูงสุดอินเดียตัดสินว่าการปิดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตนั้นผิดกฎหมาย และต้องทบทวนมาตรการใหม่ และต้องมาพร้อมกับการนำพยานหลักฐานที่จะได้รับผลกระทบหากเปิดให้มีการใช้อินเทอร์เน็ตมาให้การต่อศาล ปัจจุบันรัฐบาลค่อยๆ กู้คืนการสื่อสารให้ประชาชนในพื้นที่เช่น SMS, โทรศัพท์บ้าน แต่ก็ยังมีคนอีก 7 ล้านที่ขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ถือเป็นการปิดกั้นการใช้อินเทอร์เน็ตที่ยาวนานที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ ซึ่งรัฐบาลให้เหตุผลว่าทำไปเพื่อป้องกันเหตุร้ายและรักษาชีวิตประชาชน —————————————— ที่มา : Blognone / 13 มกราคม 2563 Link : https://www.blognone.com/node/114091