แฉอดีตประธานนิสสันมีพาสปอร์ตฝรั่งเศส 2 เล่ม

Loading

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเป็นสื่อใหญ่เจ้าแรกของญี่ปุ่นที่รายงานว่า นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานของนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งหลบหนีการไต่สวนคดีคอร์รัปชั่นของศาลกรุงโตเกียวไปยังเลบานอน ถือหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการกรุงโตเกียวยกกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในเขตมินาโตะ ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งเคยเป็นสถานที่อาศัยของนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริหารของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติประกันตัวจากศาลแขวงกรุงโตเกียว เมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อรอการขึ้นศาลครั้งต่อไปในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางการเงินหลายข้อหา แม้ยังไม่การเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับผลการตรวจค้น แต่ทุกฝ่ายเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ต้องการค้นหาเบาะแสที่อาจช่วยเชื่อมโยงการหลบหนีของกอส์นออกจากญี่ปุ่นไปยังเลบานอน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ANNnewsCH ต่อมาสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ว่ากอส์นมีหนังสือเดินทางของฝรั่งเศส 2 เล่ม นอกเหนือจากหนังสือเดินทางของเลบานอนและบราซิลอย่างละ 1 เล่ม ซึ่งทีมทนายความของกอส์นในญี่ปุ่นเก็บหนังสือเดินทางของลูกความไว้ 3 เล่ม ยกเว้นหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสเล่มที่ 2 ที่กอส์นบรรลุข้อตกลงกับศาลว่าต้องเก็บไว้ “ภายในกล่องที่ปิดสนิท” และทนายความเป็นผู้ถือกุญแจ แหล่งข่าวให้ข้อมูลด้วยว่า รัฐบาลฝรั่งเศสออกหนังสือเดินทางให้กอส์น 2 เล่ม “ด้วยเหตุผลบางประการ” สอดคล้องกับข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอน ว่ากอส์นเดินทางเข้าประเทศโดยใช้หนังสือเดินทางของฝรั่งเศส ที่ระบุชื่อและนามสกุลจริง และรูปหน้าในหนังสือเดินทางตรงกับกอส์นตัวจริง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสยังสงวนท่าที…

จับตา 13 ประเด็นร้อนในเวทีโลกปี 2020 กับ ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข

Loading

ปี 2019 เป็นปีที่มีเหตุการณ์สำคัญมากมายในเวทีโลกให้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ปะทุขึ้นเป็นระยะๆ กระแสเรียกร้องให้พลเมืองโลกตระหนักถึงวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างจริงจัง ความล้มเหลวของประชุมสุดยอดผู้นำระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือที่ยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม รวมถึงความยืดเยื้อของ Brexit และการยื่นถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับ ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงความเปลี่ยนแปลงและความต่อเนื่องของประเด็นสำคัญในเวทีโลก โดยเฉพาะในมิติของการเมืองและความมั่นคง นี่คือ 13 ประเด็นสำคัญในเวทีโลกที่น่าจับตามองในปี 2020 Photo: Posteriori / Shutterstock 1. ยุคใหม่ของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ของรัฐมหาอำนาจที่อาจนำไปสู่สงครามเย็นในศตวรรษที่ 21 ปี 2019 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์สำคัญอย่างการครบรอบ 30 ปีของการสิ้นสุดสงครามเย็น สิ่งนี้บอกเราว่าการเมืองโลกมีการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ที่สุดคือการสิ้นสุดของสงครามเย็นหรือสงครามคอมมิวนิสต์ หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นโลกที่มีระเบียบอีกชุดหนึ่งที่ทำเนียบขาวเรียกว่า ‘ระเบียบโลกใหม่’ (New World Order) แต่หลังจากปี 1989 ที่สงครามเย็นสิ้นสุดลง สิ่งที่เห็นคือความปั่นป่วนในเวทีโลกที่มีสหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจเดียว สหภาพโซเวียตล่มสลาย จีนเองก็ยังไม่ได้เข้มแข็งมากนัก จนนักวิชาการจำนวนไม่น้อยต่างมองว่าโลกหลังสงครามเย็นยังเป็น ‘โลกไร้ระเบียบ’ (New World Disorder)…

เกิดเหตุเพลิงไหม้สวนสัตว์ในเยอรมนี ตายกว่า 30 ตัว คาดสาเหตุมาจากโคมลอยกระดาษ

Loading

โดย ณรงค์กร มโนจันทร์เพ็ญ วานนี้ (1 มกราคม) ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุเพลิงไหม้สวนสัตว์ Krefeld ในเยอรมนี หลังเข้าสู่ปีใหม่เพียงไม่นาน เป็นเหตุให้สัตว์หลายชนิดมากกว่า 30 ตัวตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากโคมลอยกระดาษที่ถูกจุดและปล่อยลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทางการท้องถิ่นเผยว่า ตรวจพบโคมลอยกระดาษที่ยังไม่ถูกเผาไหม้จนหมด ตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว นับเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดต้อนรับปีใหม่ของสวนสัตว์แห่งนี้ ส่วนจัดแสดงอาณาจักรลิงได้รับความเสียหายอย่างหนัก อุรังอุตังตาย 5 ตัว กอริลลาตาย 2 ตัว ชิมแปนซีตาย 1 ตัว อีกทั้งยังมีลิง นก และค้างคาว ตายอีกเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปแล้วช่วงปีใหม่ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มักจะจุดพลุและดอกไม้ไฟมากกว่าที่จะปล่อยโคมลอย เนื่องจากโคมลอยนี้ผิดกฎหมาย และไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติของคนในพื้นที่แถบ Krefeld รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในเยอรมนี ซึ่งการปล่อยโคมลอยดังกล่าวมักพบเห็นได้ในหลายประเทศแถบเอเชีย เบื้องต้นสวนสัตว์ที่เปิดกิจการมาแล้ว 45 ปี ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนปีละกว่า 4 แสนคน จะปิดปรับปรุง และคาดว่าจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในไม่ช้า หลังจัดการกับเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ภาพ: Alexander Forstreuter / DPA /…

รุนแรงรับปีใหม่! ผู้ประท้วงชาวอิรักบุกโจมตีสถานทูตอเมริกันในกรุงแบกแดด

Loading

ผู้ประท้วงชาวอิรักนิกายชีอะห์หลายร้อยคนบุกโจมตีอาคารสถานทูตสหรัฐฯ ที่อยู่ในเขตปลอดภัยของกรุงแบกแดด เพื่อแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ โจมตีทางอากาศใส่ฐานบัญชาการและแหล่งเก็บอาวุธของกลุ่มติดอาวุธ คาตาเอ็บ เฮซโบลาห์ บริเวณพรมแดนอิรักติดกับภาคตะวันออกของซีเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวอิรักหลายร้อยคนพากันโจมตีใส่อาคารสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดด โดยใช้อุปกรณ์หลายอย่าง เช่น ชะแลง ท่อนไม้ และป้ายจราจร ทุบประตูเหล็กด้านหน้าทางเข้าสถานทูต รวมทั้งจุดไฟเผาป้อมรักษาความปลอดภัยหน้าสถานทูตด้วย ผู้ประท้วงชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ต่างตะโกนคำว่า “อัลลาฮู อัคบาร์” และ “สหรัฐฯ คือปีศาจร้าย” ขณะที่โบกธงสัญลักษณ์ของกลุ่มติดอาวุธเฮซโบลาห์ และขว้างปาก้อนหินใส่อาคารสถานทูตอเมริกัน หนึ่งในผู้นำของกลุ่มผู้ประท้วงของนิกายชีอะห์ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลอิหร่าน คาอีส อัล-โคซาลี กล่าวว่าสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบต่อสงครามและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอิรัก คาอีส อัล-โคซาลี แห่งกลุ่ม Asaib Ahl al-Haq ระบุว่า สถานทูตแห่งนี้คือสถานที่ที่ใช้ในการวางแผน การจารกรรม การขโมยข้อมูลข่าวกรอง และกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีเป้าหมายบ่อนทำลายอิรัก ถือเป็นศูนย์กลางของการกระทำที่ไม่เป็นมิตร สื่อมวลชนในอิรักรายงานว่า กองกำลังของรัฐบาลอิรักมิได้พยายามยับยั้งการโจมตีของผู้ประท้วงดังกล่าวที่พยายามบุกเข้าไปในเขตปลอดภัยกรีนโซน หรือแม้กระทั่งหยุดยั้งการโจมตีอาคารสถานทูตอเมริกัน แต่มีรายงานในวันอังคารว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยอิรักได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงบางส่วนเพื่อสลายการชุมนุม รัฐมนตรีต่างประเทศอิรัก โมฮัมเหม็ด อาลี อัล-ฮาคิม…