ที่มาภาพ: https://edition.cnn.com/2020/04/07/politics/national-security-warning-coronavirus-extremism/index.html National security officials warn of extremists exploiting coronavirus pandemic By David Shortell, CNN Updated 0032 GMT (0832 HKT) April 8, 2020
Written by Kim
ผลร้ายที่ตามมาของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) มีแนวโน้มเป็นปัจจัยส่งเสริมอุดมการณ์สุดโต่งทุกประเภท โดยกลุ่มสุดโต่งทางศาสนา (religious extremists) กลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายซ้าย (radical left-wing groups) และพวกคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacists) ต่างเห็นโอกาสที่จะเสริมพลังอุดมการณ์และเรื่องเล่าในการอธิบายแนวทางจัดการไวรัสโคโรนาของตน ขณะที่มาตรการสอดส่องตรวจตราประชาชนด้วยเทคโนโลยีสอดแนมก่อให้เกิดความรู้สึกถึงโลกที่ไม่พึงปราถนาซึ่งปกครองด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จ ในอนาคตผู้ก่อการร้ายอาจฉวยใช้เทคโนโลยีจัดส่งสิ่งของ เช่น เครื่องบินไร้คนขับ (drone) เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในการก่อการร้ายต่อไป
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เปิดโอกาสให้ผู้ก่อการร้ายและพวกหัวรุนแรงสุดโต่งเสริมสร้างความรุนแรงให้กับเรื่องเล่าของตน หลังการแพร่ระบาดจะนำไปสู่ความคับข้องใจครั้งใหม่ ซ้ำเติมความทุกข์ยากเดิมอย่างลึกซึ้งจากเรื่องเชื้อชาติ ศาสนาไปจนถึงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ความไร้เสถียรภาพถูกทำให้ลุกเป็นไฟด้วยการกระจายข้อมูลบิดเบือน (disinformation) ที่ออกแบบมาเพื่อหว่านแพร่ความสับสนวุ่นวาย ขณะเดียวกันแสวงประโยชน์จากความแตกแยกและกระตุ้นให้เกิดการแบ่งขั้วเป็นฝักเป็นฝ่าย[1]
พวกสุดโต่งทางศาสนาพยายามสร้างภาพการแพร่ระบาดว่า เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า (God’s will)[2] โดยให้เหตุผลยึดมั่นการตีความศาสนาอย่างเคร่งครัด ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากลุ่มก่อการร้ายที่มีแรงจูงใจทางศาสนารวมทั้ง Taliban (กลุ่มนักเรียนศาสนาในเมือง Kandahar ตอนใต้ของอัฟกานิสถาน)[3] al-Shabaab (ขบวนการเยาวชนในโซมาเลีย) และกลุ่มรัฐอิสลาม (the Islamic State)[4] พยายามหาประโยชน์จากไวรัสโคโรนาโดยจัดหาบริการแก่ประชาชนในพื้นที่ไม่มีรัฐบาลหรือมีรัฐบาลที่อ่อนแอ ในทางกลับกันกลุ่มเหล่านี้อ้างความชอบธรรมทางการเมืองและแสวงประโยชน์โดยเร่งจังหวะการปฏิบัติการในภูมิภาคซาเฮลของแอฟริกา[5]ตลอดทั่วทั้งแอฟริกาตะวันออก
กลุ่มขวาจัดรวมทั้งกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งสร้างภาพการแพร่ระบาดของไวรัสเชื่อมโยงกับผู้อพยพ และผู้ไม่ใช่คนผิวขาว (non-whites) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต กลุ่มขวาจัดเห็นว่าวิกฤติครั้งนี้ได้เสริมสร้างความจำเป็นต้องมีนโยบายประชานิยมและชายแดนที่เข้มงวด กระแสความเกลียดกลัวชาวต่างประเทศ (xenophobia) ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากและชาวเอเชียตกเป็นเป้าหมายอาชญากรรมความเกลียดชังทั่วโลก
แม้กลุ่มฝ่ายซ้ายเคยถูกบดบังโดยกลุ่มญิฮาดและกลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง แต่การระบาดของไวรัสโคโรนาเผยให้เห็นปัญหาต่าง ๆ ที่ได้รับการส่งเสริมโดยกลุ่มฝ่ายซ้ายและองค์การทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม หลายฝ่ายคาดว่าการแพร่ระบาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย (recession) และเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่ภาวะตกต่ำ (depression) เงื่อนไขเศรษฐสังคม (socio-economic) ของคนนับล้านทั่วโลกเลวร้ายลง ความเหลื่อมล้ำระหว่างคน “มั่งมี” และคน “ไม่มี” เพิ่มขึ้น น่าจะต้องหมายเหตุไว้ด้วยว่าความคาดหวังดังกล่าวไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียว ขณะที่ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขยายตัวไปทั่วโลก รายได้และความมั่งคั่งกลับเพิ่มขึ้นแบบกระจุกตัวอยู่ที่บุคคลและกลุ่มบุคคล
รายงานด้านสังคมปี 2020 ของสหประชาชาติ[6] ระบุว่าสองในสามของประชากรทั้งโลกอาศัยอยู่ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ในทางกลับกันทำให้คนกลุ่มเล็ก ๆ มีส่วนร่วมกับความรุนแรงทางการเมือง เพื่อดึงความสนใจมาสู่ปัญหาของตนและผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย เช่นเดียวกับไวรัสโคโรนาแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อมเสื่อมลงและเชื่อมโยงกับสาธารณสุขทั่วโลก เป็นไปได้ที่ภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายทางนิเวศน์ (eco-terrorism) กำลังเพิ่มขึ้นในอีกหลายเดือนและหลายปีข้างหน้า
กลุ่มที่ดำเนินการตามรูปแบบแนวร่วมปลดปล่อยโลก (the earth liberation front) ใช้การบ่อนทำลายเศรษฐกิจและความรุนแรงเรียกร้องความสนใจปัญหาของตน กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งเรียกว่า กลุ่มสุดโต่งที่มี “ผลประโยชน์พิเศษ” รวมทั้งกลุ่มหัวรุนแรงที่เคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิสัตว์อาจผงาดขึ้น เพื่อตอบสนองการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ผู้สังเกตการณ์ที่ใกล้ชิดกับความรุแรงทางการเมืองคาดว่ากลุ่มซ้ายจัดและกลุ่มผลประโยชน์พิเศษที่กล่าวถึงข้างต้นไม่น่าจะขยายก่อการร้ายในวงกว้าง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนขาวผู้สูงส่งและกลุ่มขวาจัด
ไวรัสโคโรนาเปิดประตูให้อุดมการณ์สุดโต่งรูปแบบอื่น ๆ เฟื่องฟูขึ้น โดยบางส่วนจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่กว้างขึ้นทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อโลกต้องดิ้นรนกับวิธีการตอบสนองไวรัส ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งคือ การแพร่ระบาดที่เร่งตัวไปสู่ระบบอัตโนมัติและพึ่งพาหุ่นยนต์มากขึ้น จะทำให้เกิดการปฏิเสธเทคโนโลยี (neo-Luddite) อย่างกว้างขวาง นำไปสู่การว่างงานมากขึ้น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเรียนรู้ของเครื่องจักร (machine learning) และการคำนวณแบบควอนตัม ถูกตีความว่าเป็นภัยคุกคามต่อวิถีชีวิตของบุคคลแทนที่จะเป็นโอกาสความก้าวหน้าและการมีประสิทธิภาพ
วิกฤติครั้งนี้ทำให้ผู้คนถลำเข้าสู่ทฤษฎีสมคบคิดซึ่งเผยแพร่บนสื่อสังคม (social media) ว่า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 5 (5G) ถูกโจมตีเพราะเชื่อว่าเป็นจุดแพร่กระจายไวรัส[7] การสอดส่องประชาชนด้วยเทคโนโลยีแกะรอยในช่วงการแพร่ระบาด อาจเพิ่มความรู้สึกถึงโลกที่ไม่พึงปราถนาซึ่งปกครองด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จ ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีจัดส่งสิ่งของในช่วงการแพร่ระบาด เช่น เครื่องบินไร้คนขับ (drone) อาจถูกผู้ก่อการร้ายฉวยใช้เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในอนาคตอันใกล้
——————————————————-
[1] THE CORONAVIRUS WILL INCREASE EXTREMISM ACROSS THE IDEOLOGICAL SPECTRUM INTELBRIEF Monday, April 13, 2020 Available at: https://mailchi.mp/thesoufancenter/the-coronavirus-will-increase-extremism-across-the-ideological-spectrum?e=c4a0dc064a
[2] น้ำพระทัยของพระเจ้า คือ สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เกิดขึ้น สิ่งนี้ คือ ความปรารถนาของพระเจ้าอย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัยและอะไรดียอดเยี่ยม (โรม 12:2) จาก โรม 12:2 เรารู้ว่าน้ำพระทัยของพระเจ้า คือ สิ่งที่ดี คริสเตียนหลายคนอธิบายว่าพระคัมภีร์ข้อนี้สอนว่าน้ำพระทัยของพระเจ้าจะมี 3 ระดับ นั่นคือ สิ่งที่ดี สิ่งที่เป็นที่ชอบพระทัยและสิ่งที่ดียอดเยี่ยม แต่นั่นไม่เป็นความจริง ที่จริงสิ่งที่อัครทูตเปาโล (ผู้เขียน) ต้องการจะพูดก็คือ น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดี (ตรงข้ามกับสิ่งที่ไม่ดี), เป็นสิ่งที่ชอบพระทัย (ตรงข้ามกับสิ่งที่ไม่ชอบพระทัย) และสิ่งที่ดียอดเยี่ยม (ตรงข้ามกับสิ่งที่ไม่ดียอดเยี่ยม) หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ดี สืบค้นที่ https://sites.google.com/site/biblegatewaygodswill/what-is-god-s-will
[3] ได้รวมตัวกันจับอาวุธลุกขึ้นสู้ (สงครามกลางเมือง) ภายใต้การนำของครูสอนศาสนาที่ชื่อว่ามุลเลาะห์ โมฮัมหมัด โอมาร์ โดยคำว่า Talib แปลตรงตัวได้ว่า “นักเรียน” และ Taliban ก็คือรูปพหูพจน์ของ Talib สืบค้นที่ https://thematter.co/thinkers/taliban-and-afghanistan-2/13268
[4] Extremists see global chaos from virus as an opportunity By CARA ANNA Associated Press 2 April 2020 Available at: https://abcnews.go.com/International/wireStory/extremists-global-chaos-virus-opportunity-69930244
[5] ซาเฮล (Sahel) เป็นเขตรอยต่อกึ่งทะเลทราย บริเวณทะเลทรายสะฮารา แบ่งทวีปแอฟริกาเป็นเหนือและใต้ ตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกไปจนทะเลแดง ซาเฮลเป็นภาษาอาหรับ มีความหมายว่า ชายหาด สืบค้นที่ https://th.wikipedia.org/wiki/ซาเฮล
[6] UNDESA World Social Report 2020 INEQUALITY IN A RAPIDLY CHANGING WORLD DEPARTMENT OF ECONOMIC AND SOCIAL AFFAIRS (21 January 2020) Available at: https://www.un.org/development/desa/dspd/wp-content/uploads/sites/22/2020/02/World-Social-Report2020-FullReport.pdf
[7] What the virus pandemic means for violent extremists by PETER WELBY ARABNEWS April 18, 2020 15:49
Available at: https://www.arabnews.com/node/1661016
—————————————————–
Link : https://www.ianalysed.com/2020/04/blog-post_30.html