ระวัง! ไลน์ธนาคารปลอม หลอกขอข้อมูลส่วนตัวลูกค้า ก่อนดูดเงินหมดเกลี้ยง

Loading

ไลน์ธนาคารปลอมอาละวาด หลอกขอข้อมูลส่วนตัวก่อนดูดเงินเกลี้ยง พบสาวตกเป็นเหยื่อถูกหลอกขายตู้เย็นไม่พอ มีนางนกต่อเข้ามาทักส่งลิงก์ไลน์ธนาคารปลอมไปให้ เข้าเว็บกรอกข้อมูลส่วนตัว หลอกถามรหัส OTP ถูกดูดเงินซ้ำซ้อน วันนี้ (10 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีไลน์ปลอมแอบอ้างชื่อ SCB Connect ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เข้ามาทักผู้ใช้บัญชีไลน์ พยายามหลอกขอข้อมูลส่วนตัวอ้างว่าให้ยืนยันบัญชีโดยแจ้งเลขที่บัตรประชาชน วัน เดือน ปีเกิดของลูกค้า ก่อนที่จะพยายามหลอกขอรหัส SMS 6 หลักจากธนาคาร หากผู้ใดหลงเชื่อมิจฉาชีพก็จะทำรายการโอนเงินไปจนเกลี้ยงบัญชี ทั้งนี้ มิจฉาชีพจะใช้วิธีมองหากลุ่มเป้าหมายในเพจของธนาคารนั้นๆ โดยจะทำทีเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ถือโอกาสเข้าไปตอบคอมเมนต์ที่ลูกค้าสอบถามเข้ามา แล้วเข้าไปคุยกับลูกค้าต่อใน Inbox ส่วนใหญ่จะหลอกกลุ่มเป้าหมายว่า เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ลูกค้าจะต้องแอด LINE จาก Link ที่ส่งให้ จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลโดยตรง ซึ่ง Link ดังกล่าวจะพาไปสู่ LINE ปลอมที่ทำเลียนแบบไว้แล้ว หรือบางทีก็อาจจะใช้ LINE ปลอม แอดกลุ่มเป้าหมายเอง แล้วทักเข้าไปก่อนก็ได้…

‘แอมะซอน’ งดให้บริการ ‘เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า’ แก่ตำรวจสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี

Loading

รอยเตอร์ – บริษัท Amazon.com Inc ประกาศงดให้บริการเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า (facial recognition software) แก่ตำรวจสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี หลังเกิดเหตุประท้วงกรณีตำรวจใช้ความรุนแรงสังหารชายผิวสี นักเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพพลเมืองในสหรัฐฯ ต่อสู้เรียกร้องมานานถึง 2 ปีว่าระบบตรวจจับใบหน้าของแอมะซอนอาจระบุตัวบุคคลผิดพลาด จนนำไปสู่การจับกุมอย่างไม่เป็นธรรมได้ การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ หนุ่มผิวสีซึ่งถูกตำรวจมินนาอาโพลิสใช้เข่ากดคอจนขาดใจตายเมื่อเดือน พ.ค. ยิ่งกระพือข้อกังวลว่าระบบตรวจจับใบหน้าจะถูกใช้เป็นเครื่องมือเล่นงานผู้ประท้วง นักวิจารณ์ยังชี้ถึงผลการศึกษาในอดีตที่แสดงให้เห็นว่า บริการ ‘Rekognition’ ของแอมะซอนมักมีปัญหาในการระบุเพศของคนผิวสีเข้ม ซึ่งเป็นผลวิจัยที่แอมะซอนออกมาโต้แย้ง ล่าสุด แอมะซอนซึ่งจำหน่ายเทคโนโลยีคลาวด์ผ่านทาง Amazon Web Services ได้แถลงยืนยันวานนี้ (10 มิ.ย.) ว่า บริษัทจะผลักดันให้มีการออกกฎควบคุมการใช้ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้าอย่างมีจริยธรรม “เราหวังว่าการระงับบริการ 1 ปีจะช่วยให้สภาคองเกรสมีเวลามากพอที่จะบังคับใช้กฎระเบียบที่เหมาะสม และเราพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ หากมีการขอร้องมา” แอมะซอน ระบุ ทั้งนี้ แอมะซอนจะยังคงอนุญาตให้มีการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการตามหาเหยื่อค้ามนุษย์ สภาคองเกรสได้เริ่มพิจารณาออกกฎควบคุมการใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้ามาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (8) บริษัท ไอบีเอ็ม ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังคองเกรสว่าจะเลิกจำหน่ายและพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้…