กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้บอกว่าระเบิดเกิดขึ้นที่สำนักประสานงานร่วม เมื่อ 14:49 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ขณะที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น เกาหลีเหนือเพิ่งขู่ว่าจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารบริเวณพรมแดน หลังจากความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ มาหลายสัปดาห์ อันมีจุดเริ่มต้นจากการที่กลุ่มผู้แปรพักตร์ในฝั่งเกาหลีใต้ที่เคลื่อนไหวโครงการโฆษณาชวนเชื่อจากพรมแดนข้ามกลับไปในฝั่งเกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้ระบุผ่านแถลงการณ์ว่าจะตอบโต้อย่างแข็งขันหากเกาหลีเหนือทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้อีก และชี้ว่าการทำลายสำนักประสานงานร่วมนี้ “ทำลายความหวังของทุกคนที่อยากจะให้ความสัมพันธ์ของสองชาติเกาหลีพัฒนา และให้มีสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี”
รัฐบาลเกาหลีใต้บอกด้วยว่าเกาหลีเหนือเป็นต้นเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่งออกมาขู่ว่าจะทำลายสำนักงานนี้
ก่อนหน้านี้เคยมีความหวังว่าความสัมพันธ์สองประเทศจะดีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พบกับนายคิมที่ชายแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น
เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับความยากลำบากหลังถูกสหรัฐฯ และสหประชาชาติคว่ำบาตรเพื่อกดดันไม่ให้พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์
ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเกาหลีเหนืออาจจะพยายามสร้างวิกฤตเพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยเจรจาเรื่องอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่ยังไม่คืบหน้าไปไหน ส่วนสหรัฐฯ นั้นยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด
ลูกบอลลูนและโดรน
ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักออกมาประณามเกาหลีใต้ที่อนุญาตให้กลุ่มคนที่แปรพักตร์ ส่งเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อผ่านลูกบอลลูน หรือแม้กระทั่งโดรนที่ลอยเข้าไปยังเกาหลีเหนือ
เมื่อวันอังคารที่แล้ว ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศตัดช่องทางติดต่อทางการทั้งหมดกับเกาหลีใต้ และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายคิม จอง อึน ก็ขู่ว่าจะส่งทหารไปยังเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone – DMZ) ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ลีฟ-อีริค อีสลีย์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยอีฮวาในกรุงโซล บอกว่า นี่เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของเกาหลีเหนือว่าจะตัดความสัมพันธ์ทั้งหมด ซึ่งแม้จะไม่อาจช่วยให้เกาหลีเหนือได้สิ่งที่ต้องการจากชาติตะวันตก แต่ก็อาจจะถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของการโฆษณาชวนเชื่อในประเทศ
ตามหลักการแล้ว ทั้งสองประเทศยังถือว่าอยู่ในภาวะสงครามอยู่ เพราะยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพหลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุดเมื่อปี 1953
สำนักประสานงานร่วมที่แกซอง
หลายปีมาแล้ว ที่เมืองแกซองของเกาหลีเหนือซึ่งอยู่ติดพรมแดนเป็นสัญลักษณ์แทนความสัมพันธ์ที่แสนเปราะบางของสองประเทศ
เมื่อปี 2003 เมืองนี้มีชีวิตชีวาขึ้นมาในฐานะเขตนิคมอุตสาหกรรม ในยุครุ่งเรือง มีโรงงานมากกว่า 120 แห่ง ตั้งอยู่ในเมือง และมีการจ้างงานชาวเกาหลีเหนือมากกว่า 50,000 คน กับมีผู้จัดการหลายร้อยคนที่มาจากเกาหลีใต้
แต่แล้วโรงงานต่าง ๆ ก็ต้องปิดตัวลงเมื่อปี 2016 เมื่อความสัมพันธ์สองประเทศคุกรุ่นอีกครั้ง ก่อนจะกลับมากระเตื้องขึ้นในปี 2018 ที่ทั้งสองประเทศตกลงก่อตั้งสำนักประสานงานร่วมขึ้น โดยให้เจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศมาพูดคุยเจรจากันเป็นประจำที่นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุด และวางแผนว่าจะให้เจ้าหน้าที่มาประจำฝ่ายละ 20 คน
แต่มาในเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว เกาหลีเหนือประกาศว่าจะถอนตัวออกจากสำนักงานนี้หลังจากการประชุมสุดยอดสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ ล้มเหลว
คิม โย จอง คือใคร
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คิม โย จอง ได้กลายมาเป็นพันธมิตรผู้ใกล้ชิดและทรงอำนาจของนายคิม จอง อึน พี่ชายของเธอ
ย้อนไปในปี 2014 เธอรับตำแหน่งสำคัญในฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ คอยดูแลเรื่องภาพลักษณ์ของพี่ชาย
มาในปี 2017 เธอได้รับการเลื่อนขั้นให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรของพรรคแรงงานแห่งเกาหลี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจและบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ
ในปี 2018 เธอกลายเป็นจุดสนใจในระดับนานาชาติในฐานะสมาชิกครอบครัวคิมคนแรกที่เดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว
จากนั้น นางคิม โย จอง ก็ได้รับความเชื่อใจจากพี่ชายมากขึ้นเรื่อย ๆ และในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาได้กลายเป็นคนรับหน้าที่ส่งสารสำคัญหลายครั้งโจมตีเกาหลีใต้ และผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์เอ็นเคนิวส์ ซึ่งรายงานเรื่องเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ บอกว่า เธอได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญในเรื่องการดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติเกาหลี
อย่างไรก็ดี ระบบอำนาจเกาหลีเหนือมีความซับซ้อนมากจนเป็นเรื่องยากมากที่จะประเมินว่านางคิม โย จอง มีอำนาจ และเครือข่ายทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน
———————————————————–
ที่มา : BBC Thai / 16 มิถุนายน 2563
Link : https://www.bbc.com/thai/international-53065656