ภาพอาคารที่ได้รับความเสียหายหลังหนึ่ง ภายหลังเกิดไฟไหม้ขึ้นที่โรงงานนิวเคลียร์ “นาตันซ์” ของอิหร่าน ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอิสฟาฮานของอิหร่าน เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา ภาพนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รับจาก องค์การพลังงานปรมาณูอิหร่าน/สำนักข่าว WANA
เอเจนซีส์ – อิหร่านยอมรับโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดิน “นาตันซ์” ของตนเสียหายหนักจากไฟไหม้เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า อาจเป็นการก่อวินาศกรรมในระบบไซเบอร์ เจ้าหน้าที่นิวเคลียร์ของอิหร่านระบุในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านประกาศในวันเดียวกันว่า เตหะรานสร้าง “เมืองขีปนาวุธ” ใต้ดินไว้ตลอดแนวชายฝั่ง และเตือนศัตรูจะต้องเจอ “ฝันร้าย”
หลังจากเกิดไฟไหม้ที่โรงงานนาตันซ์เมื่อวันพฤหัสบดี (2) สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการเตหะรานเผยแพร่บทความชิ้นหนึ่งในวันเดียวกัน กล่าวถึงความเป็นไปได้การก่อวินาศกรรมโดยศัตรูอย่างอิสราเอลและอเมริกา แต่ไม่ได้มีการกล่าวหาประเทศใดโดยตรง
วันรุ่งขึ้น (3) เจ้าหน้าที่อิหร่าน 3 คนที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ บอกกับสำนักงานข่าวรอยเตอร์ว่า เชื่อว่า เหตุไฟไหม้เป็นผลจากการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ก็ไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยัน
ต่อมาในวันอาทิตย์ (5) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลประกาศว่า อิสราเอลไม่จำเป็นต้องอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ลึกลับในอิหร่านทุกครั้ง
ในวันอาทิตย์เช่นกัน ไออาร์เอ็นเอยังรายงานโดยอ้างคำพูดของ เบห์รุซ คามัลวานดี โฆษกองค์การพลังงานปรมาณูอิหร่านว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้การพัฒนาเครื่องหมุนเหวี่ยงขั้นสูงเพื่อเพิ่มสมรรนะยูเรเนียมของอิหร่านต้องล่าช้าในระยะปานกลาง แต่ประเทศของเขาจะติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูงกว่ามาใช้แทนอุปกรณ์ที่เสียหาย
โฆษกผู้นี้สำทับว่า ถีงแม้โรงงานได้รับความเสียหาย “อย่างสำคัญ” แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทางด้านผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า เตหะรานได้สร้าง “เมืองขีปนาวุธ” ใต้ดินตลอดแนวชายฝั่ง และเตือนชาติศัตรูจะต้องเจอ “ฝันร้าย”
เจ้าหน้าที่ของอิหร่านหลายคนเคยกล่าวว่า มีโรงงานนิวเคลียร์อยู่ในทุกจังหวัด แต่ที่เปิดเผยมีเพียง 3 แห่ง โดยนาตันซ์ถือเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใหญ่ที่สุดของอิหร่าน
หน่วยงานข่าวกรองของตะวันตกและทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบด้านนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เชื่อว่า อิหร่านแอบทำโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่ระงับไปในปี 2003 ทว่า เตหะรานยืนกรานว่า โครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดมีจุดประสงค์เพื่อสันติ
อิหร่านยังตกลงจำกัดโครงการนิวเคลียร์เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการแซงก์ชันส่วนใหญ่ของนานาชาติตามข้อตกลงที่ทำกับมหาอำนาจ 6 ชาติในปี 2015 แต่ 3 ปีต่อมา อิหร่านค่อยๆ ยกเลิกพันธะสัญญาตามข้อตกลงดังกล่าวหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายฉีกข้อตกลงฉบับนี้และฟื้นมาตรการแซงก์ชันเตหะราน
อิหร่านที่ประกาศว่า จะไม่เจรจาหากอเมริกายังคงมาตรการแซงก์ชัน ย้ำว่า จะเดินหน้าสร้างศักยภาพขีปนาวุธเพื่อป้องกันประเทศต่อไป
ด้านอิสราเอลสนับสนุนนโยบายของทรัมป์ในการเพิ่มความกดดันสูงสุดเพื่อบีบให้เตหะรานยอมเจรจาข้อตกลงใหม่ที่จะมีการจำกัดโครงการนิวเคลียร์อย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น รวมทั้งเตหะรานต้องยุติสงครามตัวแทนซึ่งปะทุขึ้นในหลายๆ ประเทศตะวันออกกลางเวลานี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ คือเมื่อปี 2010 อิหร่านพบว่า มีการนำเอาไวรัส “สตั๊กซ์เน็ต” ที่เชื่อว่า อเมริการ่วมพัฒนากับอิสราเอล มาใช้โจมตีนาตันซ์ครั้งหนึ่งแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ช่วงสัปดาห์ที่แล้วยังเกิดไฟไหม้และระเบิดสถานที่สำคัญๆ ทางยุทธศาสตร์ในอิหร่านหลายต่อหลายครั้ง เช่น ก่อนโรงงานนาตันซ์ไฟไหม้ 6 วัน เขตพื้นที่ทางทหาร “พาร์ชิน” เกิดระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า สาเหตุมาจากถังแก๊สรั่ว แต่นักวิเคราะห์แย้งว่า ภาพถ่ายจากดาวเทียมเผยให้เห็นว่า ระเบิดเกิดขึ้นในโรงงานผลิตขีปนาวุธใกล้พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมหาอำนาจตะวันตกเชื่อว่า อิหร่านใช้เป็นสถานที่ทดสอบการระเบิดของหัวรบนิวเคลียร์มานานกว่าทศวรรษ
ในวันอาทิตย์ (5) เจ้าหน้าที่อิหร่านยังเผยว่า โรงงานไฟฟ้าใกล้เมืองอาห์วาซทางตะวันตกเฉียงใต้ได้เกิดไฟไหม้ ถึงแม้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วและระบบไฟฟ้าก็ใช้งานได้ตามปกติ
———————————————————
ที่มา : MGR Online / 6 กรกฎาคม 2563
Link : https://mgronline.com/around/detail/9630000069345