ฝรั่งเศสยกระดับการเฝ้าระวังภัยคุกคามสู่ขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุโจมตีใกล้โบสถ์ที่เมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ โดยที่หนึ่งในนั้นถูกฆ่าตัดศีรษะ
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฌ็อง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 29 ต.ค. 2563 ว่า รัฐบาลยกระดับการเฝ้าระวังภัยคุกคามสู่ขั้นสูงสุดแล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีใกล้โบสถ์ในเมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และหนึ่งในนั้นถูกตัดศีรษะ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้
เหตุดังกล่าวนับเป็นการโจมตีในฝรั่งเศสครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่การไต่สวนผู้ต้องหา 14 คน ฐานมีความเกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้ายโจมตีสำนักงานของนิตยสาร ชาร์ลี เอบโด เมื่อปี 2558 ซึ่งมีชนวนเหตุจาก การตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัด โดยชาร์ลี เอบโด ตีพิมพ์ภาพเจ้าปัญหาซ้ำอีกครั้งในวันเริ่มการไต่สวน
การโจมตียังเกิดขึ้นในขณะที่กระแสความไม่พอใจในชาติมุสลิมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากกรณีที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ออกมาปกป้องสิทธิการตีพิมพ์การ์ตูนดังกล่าว หลังเกิดเหตุฆ่าตัดคอครู ซามูเอล ปาตี เมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยประชาชนในชาติมุสลิมหลายประเทศออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อประณามฝรั่งเศสและนายมาครงด้วย
เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางเยือนเมืองนีซ เมื่อ 29 ต.ค. 2563
ทั้งนี้ ในเหตุโจมตีล่าสุด คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายผู้คนบริเวณโบสถ์นอเทอ-ดาม ก่อนจะถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บ และขณะนี้กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยตำรวจเชื่อว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุเพียงคนเดียว และไม่ได้ออกค้นหาผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม
ด้านนายคริสติยง เอสโตรซี นายกเทศมนตรีเมืองนีซ เผยว่า “คนร้ายตะโกนว่า ‘อัลเลาะห์ อัคบาร์’ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้จะถูกยิงบาดเจ็บแล้วก็ตาม ความหมายจากการกระทำของเขานั้นไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีกแล้ว” นายเอสโตรซีระบุด้วยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย และชาย 1 ราย โดย 2 รายเสียชีวิตในโบสถ์ ส่วนอีกรายหนีไปที่บาร์ใกล้เคียง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว
จากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เกิดเหตุชายถือปืนเดินข่มขู่คนที่เดินผ่านไปมาที่เขตมงต์ฟาเว็ต ในเมืองอาวินยง ทางใต้ของฝรั่งเศส พร้อมกับตะโกนคำว่า ‘อัลเลาะห์ อัคบาร์’ ก่อนที่เขาจะถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม ขณะที่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ชายชาวซาอุฯ ถูกจับกุมที่เมืองเจดดาห์ หลังก่อเหตุใช้มีดโจมตีและทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานกงสุลฝรั่งเศส จนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
สถานกงสุลฝรั่งเศสในเมืองเจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย
หลังเกิดเหตุ สภาชาวมุสลิมในฝรั่งเศส ออกมาประณามการโจมตีที่เมืองนีซ และเรียกร้องให้ชาวมุสลิมฝรั่งเศสงดเว้นการเฉลิมฉลองในสัปดาห์นี้ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของศาสดามูฮัมหมัด ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ต.ค. เพื่อแสดงความอาลัยและความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้เสียชีวิต และบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขา
ด้านกระทรวงต่างประเทศของตุรกี ออกแถลงการณ์ระบุว่า ขอประณามการโจมตีที่เมืองนีซอย่างรุนแรง และพวกเขาขอยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกับชาวฝรั่งเศสต่อต้านการก่อการร้ายและความรุนแรง ขณะที่กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) เผยแพร่คลิปวิดีโอเรียกร้องให้แนวร่วมก่อเหตุโจมตีต่อต้านฝรั่งเศสอีกครั้ง
อนึ่ง การออกมาปกป้องสิทธิในการตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของนายมาครง ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสและตุรกีย่ำแย่ลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน โดยประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน แห่งตุรกี กล่าวหานายมาครงว่า เป็นโรคกลัวชาวอิสลาม และบอกให้ไปรักษาอาการป่วยทางจิต จนฝรั่งเศสตอบโต้ด้วยการเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับประเทศ
——————————————————
ที่มา : ไทยรัฐ / 29 ตุลาคม 2563
Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1964830