มะกันช็อก! FBI ทลายแผนลักพาตัว-ยึดอำนาจผู้ว่าการรัฐมิชิแกน กระพือสงครามกลางเมือง

Loading

(แฟ้มภาพ) พวกติดอาวุธกลุ่มหนึ่งยืนอยู่บริเวณประตูด้านหน้าของสำนักงานผู้ว่าการรัฐมิชิแกน หลังจากพวกผู้ประท้วงต่อต้านประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและคำสั่งหยุดอยู่บ้านสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ของผู้ว่าการรัฐเกรทเชน วิทเมอร์ บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาประจำรัฐ เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งในกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว มีนายพีท มิวซิโค รวมอยู่ด้วย และในวันที่ 8 ตุลาคม เขาถูกต้องข้อหาฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนลักพาตัวผู้ว่าการรัฐมิชิแกน โจมตีอาคารรัฐสภารัฐและปลุกปั่นความรุนแรง สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เปิดเผยว่าได้ทลายแผนลักพาตัวและโค่นอำนาจ เกรทเชน วิทเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน จากพรรคเดโมแครต ผู้ที่บังคับใช้มาตรการอันเข้มข้นสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ผู้ว่าการหญิงแห่งรัฐมิชิแกน เกรทเชน วิทเมอร์ สังกัดพรรคเดโมแครต ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์โจมตีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากเธอพยายามบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในรัฐของเธอตั้งแต่ช่วงต้นปี วิทเมอร์ เริ่มตกเป็นเป้าหมายของบรรดาผู้กังขาต่อโควิด-19 มากยิ่งขึ้น หลังจากมาตรการควบคุมที่เข้มงวดที่เธอบังคับใช้นั้น ถูกลบล้างโดยผู้พิพากษารายหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากคำให้การที่เป็นลายลักษณ์อักษรของเอฟบีไอ แหล่งข่าวสายลับของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้เข้าร่วมการประชุมหนึ่งในเมืองดับลิน มลรัฐโอไฮโอ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้นกลุ่มสมาชิกนักรบซึ่งมีฐานบัญชาการในมิชิแกน ได้หารือกันเกี่ยวกับการโค่นผู้บริหารรัฐ “ที่พวกเขาเชื่อว่าละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ” “สมาชิกหลายคนพูดเกี่ยวกับการฆาตกรรมผู้ปกครองเผด็จการหรือลักพาตัวผู้ว่าการรัฐที่กำลังดำรงตำแหน่ง” เอกสารคำฟ้องระบุ และในวิดีโอหนึ่ง พบเห็นผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งประณามบทบาทของรัฐในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปิดโรงยิมระหว่างมาตรการล็อกดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทีมสืบสวนเปิดเผยว่า คนกลุ่มนี้พบปะกันที่ห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง ซึ่งเข้าทางประตูกลที่ซุกซ่อนไว้ใต้พรม โดยโทรศัพท์ของพวกเขาจะถูกนำไปรวมไว้อีกห้อง เพื่อป้องกันการแอบบันทึกภาพหรือเสียงสนทนา…

ระทึก!! ไฟไหม้ตึกสูงระฟ้า 33 ชั้นใน “เกาหลีใต้” ไหม้ตั้งแต่เมื่อคืนมาจนถึงเช้า มีไม่ต่ำกว่า 91 คน ถูกหามส่ง รพ.

Loading

เอเจนซีส์ – เกิดเหตุเพลิงไหม้อพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ของเกาหลีใต้ โดยเพลิงได้เริ่มต้นในเวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และยังคงไหม้อย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเช้าวันศุกร์ (9 ต.ค.) ล่าสุด ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน 91 คน ถูกส่งตัวโรงพยาบาล CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่อาคารอพาร์ตเมนต์สูง 33 ชั้น ในเมืองอุลซาน (Ulsan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ โดยไฟเริ่มไหม้ตั้งแต่เวลา 23.00 น.ของวานนี้ (8 ต.ค.) และเพลิงยังคงไหม้ต่อเนื่องตลอดทั้งช่วงเช้าวันศุกร์ (9) เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยกับสื่อสหรัฐฯ ภาพข่าวแสดงให้เห็นถึงลูกไฟสีแดงฉานลามอยู่ด้านบนของอาคารและเปลวไฟโชนลุกขึ้นสู่ฟ้าที่ยังคงมืดมิด ส่วนถนนด้านล่างเต็มไปด้วยเศษซากที่ติดเขม่าดำกระจายไปทั่วท้องถนน พบว่า มีคนจำนวน 77 คน ได้รับการอพยพให้ออกมาจากอาคาร และอีกจำนวน 82 คน ถูกอพยพจากโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง อ้างอิงจากกระทรวงมหาดไทยและความปลอดภัยเกาหลีใต้ ซึ่งล่าสุดไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่มีจำนวน…

จินตนาการกล่าวหาว่าเป็น IO ของกองทัพ อคติไม่กล่าวถึงขบวนการล้มเจ้าบนโลกไซเบอร์

Loading

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชา Business Analytics and Intelligence และ Actuarial Science and Risk Management คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ อนุกรรมาธิการติดตามการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข วุฒิสภา ผมทราบดีว่ามีขบวนการล้มเจ้าบนโลกออนไลน์ ใช้เงินทุน มีนายทุนและดำเนินการอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ใช้การตลาดดิจิทัล และใช้ความรู้ด้านวิทยาการข้อมูล (Data Science) และการตลาดดิจิทัล จำนวนมากมายมีทั้งที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย จบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก หรือนักรบไซเบอร์ตัวเล็กตัวน้อยที่เป็นตัวอวตารอยู่มากมาย ตลอดจนมีการสร้างเนื้อหาโดยนักเขียนและสื่อมวลชนชั้นนำ และอินโฟกราฟิกต่าง ๆ ตลอดจนมีวอร์รูมที่ประชุมกันทุกเช้า และทำ social listening อย่างเข้มข้น https://mgronline.com/daily/detail/9630000064482 ที่ดำเนินการอย่างได้ผล จนขบวนการล้มเจ้าขยายตัวและสังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายกษัตริย์นิยม (Royalist) และปฏิกษัตริย์นิยม (Anti-royalist) อย่างที่ไม่เคยแตกแยกรุนแรงเช่นนี้มาก่อนเลย ขบวนการดังกล่าว เล่นหลายหน้าในเวลาเดียวกัน หน้าแรก ทำธุรกิจ โดยเป็น social listening tools ที่เก่งที่สุดของภาษาไทย ที่ต้องใช้ความรู้ด้านการวิเคราะห์เครือข่ายสังคม (Social…

สหรัฐฯ เตรียมจำกัดการออกวีซ่า H-1B

Loading

FILE – A photo illustration shows a U.S. visa stamp on a foreign passport in Los Angeles, California, June 6, 2020. รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศแผนปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการอนุมัติวีซ่าสำหรับแรงงานต่างชาติที่มีทักษะสูง หรือ วีซ่าประเภท H-1B ด้วยการจำกัดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สมัครให้แคบลง พร้อมๆ กับลดระยะเวลาที่วีซ่าประเภทนี้สามารถใช้งานได้สำหรับพนักงานสัญญาจ้างด้วย หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า กระทรวงแรงงานและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ประกาศการปรับเปลี่ยนการอนุมัติวีซ่าประเภท H-1B เมื่อวันอังคาร ซึ่งรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เคน คุชชิเนลลี คาดว่าจะส่งผลให้ 1 ใน 3 ของผู้ที่ยื่นเรื่องขอวีซ่าประเภทนี้ถูกปฏิเสธหากกฎใหม่เริ่มมีผลบังคับใช้ FILE – Acting director of U.S. Citizenship and Immigration…

คีร์กีซสถานยอมยกเลิกผลเลือกตั้ง หลังปชช.ประท้วงเดือด-บุกรัฐสภา

Loading

กกต.คีร์กีซสถานประกาศยกเลิกผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาแล้ว หลังจากการเกิดประท้วงต่อต้านอย่างรุนแรง เพราะพรรคที่ได้เข้าสภามีแต่ฝ่ายรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้านเลย สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของประเทศคีร์กีซสถาน ประกาศในวันอังคารที่ 6 ต.ค. 2563 ให้ผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นโมฆะ หลังจากเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงของประชาชน ถึงขั้นมีการบุกรุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา และปะทะกับตำรวจจนมีผู้บาดเจ็บถึง 700 รายและเสียชีวิต 1 ศพเป็นวัยรุ่นอายุเพียง 19 ปี การเลือกตั้งของคีร์กีซสถานกำหนดให้พรรคที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมในรัฐสภา ต้องได้คะแนนเสียงเลือกตั้งเกิน 7% โดยในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ มีเพียง 4 พรรคจากทั้งหมด 16 พรรค ที่ผ่านเงื่อนไขดังกล่าว และ 3 ใน 4 พรรคที่ผ่านก็มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดี ซูโรนบัย จีนเบคอฟ ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ผ่านเลย ทำให้ในวันจันทร์ที่ 12 พรรคที่เหลือประกาศประยอมรับผลการเลือกตั้ง กล่าวหาว่ามีการซื้อเสียง ข่มขู่ผู้ใช้สิทธิ์ ในวันเดียวกัน ประชาชนกว่า 5,000 คนออกมารวมตัวกันที่จัตุรัส อาลา-ทู ในกรุงบิชเคก เพื่อประท้วงผลการเลือกตั้ง โดยการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบกระทั้งช่วงค่ำ ผู้ประท้วงกลุ่มเล็กๆ แยกตัวออกมาและพยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ตำรวจจึงใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง,…

รายงานด้านความปลอดภัยล่าสุดของวีเอ็มแวร์ เผย ความเสี่ยงไซเบอร์เพิ่มขึ้นทั่วโลกหลังพนักงานทำงานจากที่บ้าน อาชญากรหันใช้การโจมตีแบบ Island-Hopping หวังเจาะกำแพงความปลอดภัยองค์กรใหญ่

Loading

อาชญากรไซเบอร์มักมองเห็นช่องโหว่จากกำแพงความปลอดภัยขององค์กรต่างๆ ที่กำลังดิ้นรนเพื่อเพิ่มมาตรการป้องกันและเพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบรักษาความปลอดภัยขององค์กรในระดับสูงสุด เหตุจากการที่ต้องปรับรูปแบบให้สามารถกระจายการทำงาน กระจายซัพพลายเชน และลดงบประมาณด้านไอที เพื่อลดความเสี่ยงที่ธุรกิจอาจชะงักงัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นการลั่นระฆังความปลอดภัยพร้อมกันทั่วโลกเพื่อเปิดโอกาสให้อาชญากรทางไซเบอร์เข้าโจมตี จากรายงานประจำปีที่สามของ VMware Carbon Black Global Threat Report แสดงให้เห็นว่าการที่ธุรกิจทั่วโลกเกิดความชะงักงันเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นการเปิดช่องให้กับอาชญากรไซเบอร์ อันนำไปสู่ภัยคุกคามอย่างคาดไม่ถึง แต่หากมองในแง่บวก สถานการณ์นี้ผลักดันให้องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องงัดกลยุทธ์ออกมาเพื่อต่อสู้กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น #1: การโจมตีทางไซเบอร์ (Cyberattack) กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก อาชญากรกำลังพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง ในขณะที่รูปแบบการรักษาความปลอดภัยแบบเก่า ๆ ถูกทำลายลง จากการสำรวจ 90% ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ระบุว่าการโจมตีทางไซเบอร์มีอัตราสูงขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ 94% ขององค์กรทั่วโลกต่างประสบปัญหาการละเมิดความปลอดภัย โดยจำนวนการละเมิดเฉลี่ยที่พบในรายงานในปีที่ผ่านมาคือ 2.17 มากกว่า 9 ใน 10 ของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย กล่าวว่าพวกเขาเห็นว่าการโจมตีทางไซเบอร์โดยรวมเพิ่มขึ้นจากการทำงานจากที่บ้าน ดร. แมธธิว ทอดด์ อดีต CISO และอาจารย์ใหญ่คนปัจจุบันที่ Full Scope Consulting LLC กล่าวว่า “จากสถานการณ์ COVID-19 องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความจริงที่ท้าทายอย่างกะทันหัน…