FBI พบ ‘แฮกเกอร์จีน’ ฉกข้อมูลวัคซีนโควิดจาก ‘โมเดอร์นา’

Loading

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐ พบแฮกเกอร์ชาวจีน พยายามฉกข้อมูลวัคซีนต้านโควิด-19 จากโมเดอร์นา และอีก 2 บริษัทยาใหญ่ตกเป็นเป้าล่วงความลับ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐ เปิดเผยว่า แฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ได้พุ่งเป้าเล่นงานโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและผู้พัฒนายารายใหญ่ของสหรัฐ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของสหรัฐ เปิดเผยว่า แฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนได้พุ่งเป้าเล่นงานโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและผู้พัฒนายารายใหญ่ของสหรัฐเมื่อช่วงต้นปี ภายหลังประกาศตัวเป็นหนึ่งในผู้นำการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อเดือน ม.ค. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเดิมพันที่เร็วที่สุดและใหญ่หลวงที่สุดของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 โมเดอร์นาก็ยืนยันว่า ได้รับการติดต่อจากสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ ว่า พบการเคลื่อนไหวสอดส่องข้อมูล ของแฮกเกอร์จีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การเปิดเผยมีขึ้นหลังกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ตั้งข้อหาสองแฮกเกอร์ชายชาวจีน คือหลี่ เสี่ยวหยู วัย 34 ปี และต่ง เจียจื้อ วัย 33 ปีที่พยายามจารกรรมข้อมูลการวิจัยวัคซีนจากบริษัทเอกชนหลายแห่งของสหรัฐ และยังแฮกข้อมูลบริษัททั้งในสหรัฐ และต่างประเทศอีกหลายร้อยรวมถึงบริษัทคู่สัญญาของกระทรวงกลาโหม โดยแฮกเกอร์รายนี้ยังพยายามสอดส่องข้อมูลของนักเคลื่อนไหวทั้งในสหรัฐ จีน และฮ่องกงด้วย บริษัทยาอีกสองแห่ง ที่กระทรวงยุติธรรมระบุในข้อกล่าวหาแฮกเกอร์ ยังมีฐานการผลิตอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐแมรีแลนด์ ที่น่าจะเป็นกิเลียด ไซเอินเซส กับโนวาแว็กซ์ แต่ทั้งสองบริษัทไม่ได้ยืนยัน รัฐบาลสหรัฐ ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนของโมเดอร์นา…

พบบัตรเครดิตหลายธนาคารสามารถสำเนาได้แม้เป็นบัตรชิป, Visa พบแฮกเกอร์เริ่มมุ่งเป้าแคช์เชียร์รับบัตรชิป

Loading

ภาพโดย AhmadArdity บริษัทวิจัยความปลอดภัย Cyber R&D Labs รายงานถึงช่องโหว่จากการตรวจสอบบัตรเครดิตของสถาบันการเงินหลายแห่ง เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถสร้างสำเนาบัตรได้แม้จะเป็นบัตรชิปก็ตาม บัตรแม่เหล็กนั้นมีข้อมูลทั้งหมดของตัวบัตรอยู่ในแถบแม่เหล็กรวมถึงตัวเลขยืนยันบัตร CVV ที่ไม่ได้พิมพ์อยู่บนตัวบัตร ขณะที่บัตรชิปนั้นจะเป็นตัวเลข iCVV ที่ควรจะเป็นคนละเลขกับในบัตรแม่เหล็ก แต่ Cyber R&D Labs สาธิตให้เห็นว่าหลายธนาคารไม่ได้ตรวจสอบตัวเลขนี้จริง โดยทีมงานสามารถนำเลข iCVV กลับไปสร้างบัตรแม่เหล็ก แล้วรูดจ่ายเงินสำเร็จได้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Visa ออกรายงานระบุว่ามัลแวร์แวร์ที่มุ่งโจมตีจุดรับชำระ (แคชเชียร์, Point-of-Sale/POS) เริ่มถูกโจมตีด้วยมัลแวร์ตระกูลใหม่ๆ ที่มุ่งเป้าไปยัง POS ที่รับชำระด้วยบัตรชิป แสดงความเป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่นี้ในการโจมตีธนาคารบ้างแล้ว โดยประกาศของ Visa ไม่ได้ยอมรับโดยตรงแต่ระบุว่า หากธนาคารตรวจสอบเลข iCVV อย่างถูกต้องความเสี่ยงก็จะต่ำมาก —————————————————— ที่มา : blognone / 3 สิงหาคม 2563 Link : https://www.blognone.com/node/117764

หน้ากากป้องกันโควิด-19 สร้างความท้าทายใหม่ให้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า

Loading

A software engineer tests a facial recognition program that identifies people when they wear a face mask at the development lab of the Chinese electronics manufacturer Hanwang Technology in Beijing as the country is hit by an outbreak of the novel coronav หน้ากากเป็นอุปกรณ์ป้องกันการระบาดของโควิด-19 ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันการสวมใส่หน้ากาก กลับสร้างปัญหาชวนปวดหัวใหม่ ให้กับระบบจดจำใบหน้า หรือ facial recognition technology ผลการศึกษาล่าสุดของสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ ของสหรัฐฯ (National Institute…

สหรัฐจับกุม 3 ผู้ก่อเหตุแฮก “ทวิตเตอร์” ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

Loading

ทางการสหรัฐฯ จับกุม 3 ผู้ก่อเหตุการแฮกบัญชี Twitter ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ หนึ่งในผู้เสียหายคือ บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เว็บไซต์ The Verge รายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาอย่าง สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI), หน่วยงานสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) หน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ (US Secret Service) และกรมบังคับใช้กฎหมายของมลรัฐฟลอริดา ได้ทำการจับกุม แกรม คลาร์ก วัยรุ่นชายวัย 17 ปี ในเมืองแทมปาของฟลอริดา ด้วยข้อหาการบงการอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์การบุกรุกความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของบริษัททวิตเตอร์ และข้อหาอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 30 กระทง ซึ่งนับว่าเป็นการแฮกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวิตเตอร์ เหตุการณ์ในครั้งนี้พบว่ามีการแฮกบัญชีทวิตเตอร์ของบริษัทใหญ่และคนดังระดับโลกมากมาย เช่น บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ, โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ, บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์, อีลอน มัสก์ เจ้าของบริษัทสเปซเอ็กซ์และเทสลา, คานเย เวสต์ นักร้องชื่อดัง, และบริษัทแอปเปิล…

กรณีสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน

Loading

จากเหตุการณ์เมื่อ 21 กรกฎาคม 2563 (เวลาท้องถิ่น) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนประจำเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ภายในวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2563 รวมเป็นเวลา 72 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่จีนทั้งหมดพร้อมทรัพย์สินทุกประเภทจะถูกขนย้ายออกจากที่ตั้งของสถานกงสุลจีนดังกล่าว  เช่นนี้เมื่อ 22 กรกฎาคม 2563 ปรากฎกลุ่มควันจากภายในพื้นที่ตั้งอาคารสถานกงสุลจีน ซึ่งประเมินว่า กลุ่มควันนี้น่าจะมาจากการเผาเอกสารของเจ้าหน้าที่จีน  เพราะในแต่ละหน่วยงานรัฐที่ตั้งอยู่นอกดินแดน ต่างต้องมีแผนการปฏิบัติเพื่อปกป้อง ดูแลรักษา และคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินที่อยู่ในครอบครอง โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับภาวะฉุกเฉินหรือการสุ่มเสี่ยงต่อภยันตรายและกระทบผลประโยชน์ของชาติ เหตุที่เกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นไปตามแผนการปฏิบัติต่อทรัพย์สินในครอบครอง โดยเป็นการทำลายทรัพย์สินบางส่วนที่เป็นภาระในการเคลื่อนย้ายหรือง่ายต่อการสูญหายขณะเคลื่อนย้าย เช่น เอกสาร สื่อต่างๆ ที่ใช้จัดเก็บข้อมูลข่าวสาร และการทำลายจึงมักใช้วิธีเผาไฟ เนื่องจากเป็นวิธีทำลายที่ให้ผลดีที่สุดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะนำไปกู้สภาพคืนได้ยาก  ตัวอย่างเช่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากกองทัพญี่ปุ่นโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐฯ ที่เพิร์ลฮาเบอร์ รัฐฮาวาย สหรัฐฯ เมื่อ 7 ธันวาคม 2484  หน่วยงานรัฐประจำในสหรัฐฯ ของญี่ปุ่น ทำการเผาทำลายเอกสาร และสื่อจัดเก็บข้อมูลทุกประเภท เป็นต้น หากนำมาพิจารณากับระเบียบราชการของไทยด้านมาตรการรักษาสิ่งที่เป็นความลับและการรักษาความปลอดภัยของทางราชการแล้ว  กรณีที่แต่ละหน่วยงานรัฐของไทยต้องเผชิญภาวะเช่นเดียวหรือคล้ายคลึงกับกรณีสถานกงสุลจีนที่เมืองฮิวสตัน…

หนุ่มใหญ่มะกันขโมยกดเงินกว่า 3 ล้านด้วยการปลอมตัวสวมหน้ากากชายชรา-ขโมยตัวตน

Loading

มิจฉาชีพปลอมหน้าเป็นชายชรา กับปลอมใบขับขี่ ขโมยเงินลูกค้ากาสิโนผ่านตู้อัตโนมัติ กว่าจะรู้สูญเงินกว่า 3 ล้าน จอห์น คริสโตเฟอร์ คอลเลตติ ชาวเมืองฮาร์เปอร์วูดส์ รัฐมิชิแกน ถูกจับกุมในหลายข้อหา จากการขโมยกดเงินกว่า 1 แสนดอลลาร์ (กว่า 3 ล้านบาท ) ด้วยวิธีแยบยล  ใช้หน้ากากยางปลอมหน้าเป็นชายชรา ปลอมใบขับขี่ และขโมยตัวตนด้วยการซื้อข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อจากอินเทอร์เน็ต ก่อนนำไปใช้ถอนเงินจากตู้อัตโนมัติบ่อนกาสิโน สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เปิดสอบสวนโดยทำงานร่วมกับเอ็มจีเอ็ม แกรนด์ กาสิโน พบลูกค้า 10 ราย สูญเงินรวมกันประมาณ 1 แสนดอลลาร์ช่วง 26 เม.ย-27 พ.ค.2562 ก่อนส่งเรื่องให้ตำรวจรัฐมิชิแกนดำเนินการต่อ ที่ต่อมาพบผู้ต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด แต่ทุกครั้ง ปรากฏเป็นภาพบุคคลสวมหน้ากากดูคล้ายกับผู้สูงอายุผิวขาว สวมหมวก ใส่แว่นตา มีครั้งหนึ่ง คอลเลตติ ถอนเงิน 15 ครั้ง ครั้งละ 2,000 ดอลลาร์ รวม 3 หมื่นดอลลาร์ …