ช็อก! นักวิจัยพบส่วนขยายใน กูเกิลโครม กว่า 70 ตัวมีสปายแวร์ขโมยข้อมูล กระทบผู้ใช้งานหลายล้านราย

Loading

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักวิจัยจาก “อเวค ซีเคียวริตี้” พบความพยายามในการใช้สปายแวร์เจาะข้อมูลของผู้ใช้งาน “กูเกิลโครม” ผ่าน “ส่วนขยาย” ที่ถูกดาวน์โหลดไปติดตั้งจำนวน 32 ล้านดาวน์โหลด สะท้อนความล้มเหลวของกูเกิลในการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานในเบราเซอร์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากทั่วโลก ด้านอัลฟาเบ็ต อิง บริษัทแม่ของกูเกิล ระบุว่า ได้มีการลบส่วนขยายกว่า 70 ส่วนขยายที่มีอันตรายออกไปจาก “โครมเว็บสโตร์” แล้วหลังจากได้รับแจ้งจากนักวิจัยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รายงานระบุว่าส่วนขยายในโครมจะต้องเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือการแปลงไฟล์จากรูปแบบหนึ่งไปยังอีกรูปแบบหนึ่งที่อาจมีอันตราย แต่ ส่วนขยายที่พบนั้นใช้ข้อมูลประวัติการเข้าเว็บไซต์และข้อมูลที่ใช้อ้างอิงในการเข้าถึงเครื่องมือทางธุรกิจ ทั้งนี้หากนับจากจำนวนดาวน์โหลดส่วนขยายที่เป็นอันตรายเหล่านั้น นับเป็นการพบโปรแกรมที่ประสงค์ร้ายในโครมสโตร์ ที่มากที่สุดนับจนถึงปัจจุบัน ด้านกูเกิล ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงเหตุผลว่าทำไมกูเกิลจึงไม่สามารถตรวจสอบและลบส่วนขยายอันตรายเหล่านั้นออกไปได้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ล่าสุดยังไม่ชัดเจนว่าใครที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปล่อยสปายแวร์ในครั้งนี้ ——————————————————– ที่มา : มติชน  / 19 มิถุนายน 2563 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2234302

ระทึก รถนายกฯ อังกฤษหลบผู้ประท้วง ก่อนโดนชนท้ายหน้ารัฐสภา

Loading

รถยนต์ที่บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษโดยสาร ประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายหน้ารัฐสภา หลังเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รถยนต์ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรกำลังโดยสาร ประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอน เมื่อวันพุธที่ 17 มิ.ย. 2563 หลังจากรถคันดังกล่าวพยายามหลบผู้ประท้วงที่สนับสนุนชาวเคิร์ด ที่วิ่งลงมาบนถนน ทำให้รถที่ขับตามมาพุ่งชนท้าย คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า รถยนต์จากัวร์ของนายกฯ จอห์นสัน ซึ่งกำลังเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ต้องเบรกกะทันหันเพราะผู้ประท้วงวิ่งลงมาบนถนน ก่อนจะถูกรถยนต์ที่ตามมาชนท้ายจนเกิดรอยยุบขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจปลุกปล้ำจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุลงกับพื้น ด้านตำรวจเทศบาลกรุงลอนดอนระบุว่า การเฉี่ยวชนเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 14.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ผู้ประท้วงผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวในข้อหาสร้างความไม่สงบในที่สาธารณะ และกีดขวางการจราจรบนท้องถนน ส่วนสำนักงานนายกรัฐมนตรียืนยันว่า นายจอห์นสันที่อยู่ในรถไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประท้วงดังกล่าวออกมาเคลื่อนไหวแสดงการต่อต้านตุรกี ที่ตัดสินใจส่งทหารโจมตีกบฏชาวเคิร์ดในซีเรียอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ——————————————————- ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ / 18 มิถุนายน 2563 Link : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1871317

“ทรัมป์ไล่บี้ ‘โบลตัน’ ประเด็นเผยแพร่หนังสือการทำงานในทำเนียบขาว”

Loading

(แฟ้มภาพซินหัว : จอห์น โบลตัน (John Bolton) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระหว่างการรายงานข่าวสั้นที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2018) วอชิงตัน, 16 มิ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (15 มิ.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าการที่จอห์น โบลตัน (John Bolton) อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ วางแผนเผยแพร่บันทึกความทรงจำเกี่ยวกับการทำงานในทำเนียบขาวนั้น “เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง” “เขาอาจไม่พูดความจริงก็ได้ หลายคนรู้ว่าเขาโกหกอยู่บ่อยครั้ง” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาว “ผมถือว่าบทสนทนาระหว่างผมกับเขาทุกๆ ครั้งล้วนเป็นความลับของชาติ” ทรัมป์กล่าว “ถ้าเขาเขียนหนังสือและเผยแพร่มัน นั่นหมายความว่าเขาทำผิดกฎหมาย และถือเป็นการก่ออาชญากรรม” (คลิปวิดีโอของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวประเด็นเกี่ยวกับจอห์น โบลตัน ระหว่างการประชุมกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2020)…

รู้จัก ‘สำนักประสานงานร่วมสองเกาหลี’ หลังถูก ‘โสมแดง’ บึ้มทิ้ง

Loading

ทำความรู้จักบทบาทหน้าที่ของ “สำนักประสานงานร่วมสองเกาหลี” ในเมืองพรมแดนเกาหลีเหนือ หลังถูกเปียงยางระเบิดทิ้งในวันนี้ (16 มิ.ย.) ถือเป็น “จุดแตกหัก” ล่าสุดระหว่างสองประเทศที่ขัดแย้งกันมาหลายทศวรรษ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ซึ่งกำกับดูแลความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี แถลงว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือทำการระเบิดทิ้งสำนักประสานงานกับเกาหลีใต้ในเมืองแกซอง ซึ่งติดกับพรมแดนเกาหลีใต้เมื่อเวลา 14.49 น.ของวันอังคาร (16 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เหตุระเบิดนี้มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังสำนักงานคณะเสนาธิการทหารแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี (เคพีเอ) เพิ่มคำขู่ใช้ “มาตรการทางทหาร” ต่อเกาหลีใต้และไม่กี่วันหลัง คิม โย จอง น้องสาวผู้ทรงอำนาจของ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดโสมแดง ประกาศว่า อีกไม่นาน จะได้เห็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่สำนักประสานงานร่วมเกาหลีเหนือ-ใต้อันไร้ประโยชน์นี้ “ราบเป็นหน้ากลอง” อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: พังราบ! ‘โสมแดง’ บึ้มทิ้งสำนักประสานงานร่วมสองเกาหลี ก่อนถูกเกาหลีเหนือระเบิดทิ้ง สำนักประสานงานร่วมเกาหลีซึ่งก่อตั้งขึ้นในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง ทางภาคใต้ของเกาหลีเหนือติดพรมแดนเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2561 ถือเป็นหน่วยงานในการประสานงานด้านต่าง ๆ ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ในขณะที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ คณะผู้แทนจากสองเกาหลีถ่ายรูปร่วมกันในพิธีเปิดสำนักประสานงานร่วม เมื่อปี 2561 สำนักงานแห่งนี้ทำหน้าที่เสมือนเป็น “สถานทูต” ในทางพฤตินัย และยังเป็นช่องทางสื่อสารโดยตรงระหว่างสองเกาหลีด้วย โดยมีผู้แทนของแต่ละฝ่ายดูแลสำนักงานฯร่วมกัน ผู้แทนฝั่งเกาหลีเหนือคือ “จอน จอง-ซู” รองประธานคณะกรรมาธิการรวมชาติอย่างสันติแห่งปิตุภูมิ และฝั่งเกาหลีใต้คือ “ชุน แฮ-ซอง” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรวมชาติ ทั้งนี้ การก่อตั้งสำนักประสานงานร่วมเกาหลี ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก “ปฏิญญาปันมุนจอม” ที่ลงนามโดย คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และ มุน…

เกาหลีเหนือระเบิดสำนักประสานงานร่วมกับเกาหลีใต้ หลังถูกกลุ่มผู้แปรพักตร์เคลื่อนไหวโจมตีจากชายแดน

Loading

  กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้บอกว่าระเบิดเกิดขึ้นที่สำนักประสานงานร่วม เมื่อ 14:49 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น เกาหลีเหนือเพิ่งขู่ว่าจะเริ่มปฏิบัติการทางทหารบริเวณพรมแดน หลังจากความสัมพันธ์ของสองประเทศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ มาหลายสัปดาห์ อันมีจุดเริ่มต้นจากการที่กลุ่มผู้แปรพักตร์ในฝั่งเกาหลีใต้ที่เคลื่อนไหวโครงการโฆษณาชวนเชื่อจากพรมแดนข้ามกลับไปในฝั่งเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ระบุผ่านแถลงการณ์ว่าจะตอบโต้อย่างแข็งขันหากเกาหลีเหนือทำให้สถานการณ์แย่ไปกว่านี้อีก และชี้ว่าการทำลายสำนักประสานงานร่วมนี้ “ทำลายความหวังของทุกคนที่อยากจะให้ความสัมพันธ์ของสองชาติเกาหลีพัฒนา และให้มีสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” รัฐบาลเกาหลีใต้บอกด้วยว่าเกาหลีเหนือเป็นต้นเหตุของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพียงผู้เดียว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นางคิม โย จอง น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพิ่งออกมาขู่ว่าจะทำลายสำนักงานนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีความหวังว่าความสัมพันธ์สองประเทศจะดีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พบกับนายคิมที่ชายแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ เมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับความยากลำบากหลังถูกสหรัฐฯ และสหประชาชาติคว่ำบาตรเพื่อกดดันไม่ให้พัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเกาหลีเหนืออาจจะพยายามสร้างวิกฤตเพื่อใช้เป็นเครื่องมือช่วยเจรจาเรื่องอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ที่ยังไม่คืบหน้าไปไหน ส่วนสหรัฐฯ นั้นยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ลูกบอลลูนและโดรน ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมักออกมาประณามเกาหลีใต้ที่อนุญาตให้กลุ่มคนที่แปรพักตร์ ส่งเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อผ่านลูกบอลลูน หรือแม้กระทั่งโดรนที่ลอยเข้าไปยังเกาหลีเหนือ เมื่อวันอังคารที่แล้ว ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศตัดช่องทางติดต่อทางการทั้งหมดกับเกาหลีใต้ และในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายคิม จอง อึน ก็ขู่ว่าจะส่งทหารไปยังเขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone –…

พบช่องโหว่ในเราเตอร์ D-Link รุ่น DIR-865L ควรอัปเดตแพตช์หรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นอื่น

Loading

เราเตอร์ D-Link รุ่น DIR-865L นั้นเป็นเราเตอร์สำหรับใช้งานตามบ้านที่ออกวางจำหน่ายมาตั้งแต่ช่วงปี 2555 โดยปัจจุบันได้สิ้นสุดระยะเวลาสนับสนุนทางเทคนิคแล้ว อย่างไรก็ตาม เราเตอร์รุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงในช่วงที่วางจำหน่าย จึงทำให้ถึงแม้ปัจจุบันจะเป็นเราเตอร์รุ่นเก่าแล้วแต่ก็อาจยังมีการใช้งานอยู่ บริษัท Palo Alto Networks ได้รายงานช่องโหว่จำนวน 6 จุดในเฟิร์มแวร์ของเราเตอร์ D-Link รุ่น DIR-865L โดยเป็นเฟิร์มแวร์เวอร์ชันที่ออกมาในปี 2561 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของระยะการสนับสนุนตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบนี้มี 1 จุดที่เป็นระดับวิกฤต (Critical) และที่เหลือเป็นระดับสูง (High) ผลกระทบหากโจมตีช่องโหว่สำเร็จนั้นอาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถควบคุมเราเตอร์ ติตตั้งมัลแวร์ ขโมยข้อมูล หรือใช้งานเราเตอร์เพื่อเป็นฐานในการโจมตีได้ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 บริษัท D-Link ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ให้กับเราเตอร์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แพตช์รอบนี้เป็นเวอร์ชันทดสอบ (Beta) และได้แก้ไขช่องโหว่แค่ 3 จุดจากทั้งหมด 6 จุด โดยทาง D-Link ระบุว่าการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุดระยะเวลาสนับสนุนไปแล้วนั้นอาจมีความเสี่ยง และได้แนะนำให้ผู้ที่ยังใช้งานอุปกรณ์รุ่นเก่าอยู่เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่ใหม่กว่า เพื่อให้มีความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งาน ————————————————— ที่มา…