ยิงสนั่นกลางกรุงเวียนนา ตาย 1 เจ็บหลายคน เชื่อถูกก่อการร้ายโจมตี

Loading

ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และได้รับบาดเจ็บหลายคนในย่านใจกลางกรุงเวียนนา ในเหตุยิงกันเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (2 พ.ย.) เหตุการณ์ที่ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยออสเตรีย เชื่อว่าเป็นการโจมตีก่อการร้าย ตำรวจเวียนนาระบุบนทวิตเตอร์ว่า มีผู้ต่อสงสัยหลายคน และเหตุโจมตีเกิดขึ้นแยกกัน 6 จุด เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่บริเวณกว้างในย่านใจกลางกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย และตำรวจเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการเสริมกำลัง คาร์ล เนแฮมเมอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออสเตรีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เชื่อว่า เหตุโจมตีครั้งนี้ลงมือกันหลายคน และจุดเกิดเหตุทั้งหมด 6 จุดอยู่ใกล้เคียงกับถนนซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์กลาง “ณ ตอนนี้ ที่ผมสามารถยืนยันได้ ก็คือ ผมเชื่อว่ามันน่าจะเป็นการโจมตีก่อการร้าย” เขากล่าว “เราเชื่อว่ามีมือโจมตีหลายคน เคราะห์ร้ายที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคนเช่นกัน บางทีอาจมีผู้เสียชีวิต” ต่อมาโฆษกของหน่วยฉุกเฉินเปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และบาดเจ็บหลายคน ส่วนสำนักข่าวท้องถิ่น APA รายงานว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยและผู้ยืนดูเหตุการณ์ 1 คน ถูกยิงเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามรายงานข่าวดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ “เกิดเหตุยิงกันในย่านชั้นในของเมือง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน จงอยู่ห่างจากสถานที่สาธารณะทั้งหมด เช่นเดียวกับระบบขนส่งสาธารณะ” ตำรวจเขียนบนทวิตเตอร์ ผู้นำชุมชนยิวระบุผ่านทวิตเตอร์ ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโบสถ์ยิวในเวียนนาและสำนักงานที่อยู่ติดกันนั้น เป็นเป้าหมายของการโจมตีหรือไม่…

ประเมินภัยคุกคามบ้านเกิด: ส่องแนวโน้มอันตรายของประเทศ

Loading

ที่มาภาพ: https://www.crisisgroup.org/united-states/too-much-lose-steering-us-away-election-related-violence Written by Kim กระทรวงความมั่นคงแห่งบ้านเกิด (Department of Homeland Security – DHS) สหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการประเมินภัยคุกคามบ้านเกิดฉบับปฐมฤกษ์เมื่อต้นตุลาคม 2020 โดยเน้นย้ำว่า รัสเซียและจีนกำลังใช้เครื่องมือทางไซเบอร์และสื่อสังคม (social media) ทำลายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐ (non-state actor) เช่น กลุ่มคนขาวผู้สูงส่ง (white supremacists) และ neo-Nazis รวมทั้งพวกขวาจัดอื่น ๆ เป็นภัยคุกคามบ้านเกิด DHS ประเมินด้วยว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) และ al-Qaeda ยังคงมุ่งหมายที่จะโจมตีสหรัฐฯในดินแดนบ้านเกิด แต่ความสามารถในการปฏิบัติการของกลุ่มดังกล่าวลดลงอย่างมาก[1]           เมื่อ 6 ตุลาคม 2020 DHS ได้เปิดตัวรายงานประเมินภัยคุกคคามบ้านเกิด (Homeland Threat Assessment – HTA)[2] เป็นครั้งแรกรวม 7 ด้าน ได้แก่ ไซเบอร์ อิทธิพลจากต่างประเทศ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การก่อการร้าย องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การอพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายและภัยพิบัติธรรมชาติ สาระสำคัญส่วนใหญ่เป็นการตรวจสอบภัยคุกคามบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและไม่เข้าข้างฝ่ายใด…

รัฐบาลเบลารุสใช้กำลังปราบปราม – จับกุมผู้ประท้วงในกรุงมินสก์กว่า 200 คน

Loading

A protester draped in an old Belarusian national flag stands in front of a police line during an opposition rally to protest the official presidential election results in Minsk, Belarus, Sunday, Oct. 25, 2020 กองกำลังรักษาความมั่นคงของเบลารุสจับกุมผู้ประท้วงกว่า 200 คนในกรุงมินสก์ ระหว่างการเดินขบวนครั้งใหญ่ในวันอาทิตย์เพื่อขับไล่ประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงของเบลารุสยิงปืนขู่ผู้ประท้วงก่อนที่จะดำเนินการจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในความพยายามล่าสุดของรัฐบาลเบลารุสเพื่อสลายกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและขับไล่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ที่เริ่มขึ้นเมื่อ 12 สัปดาห์ก่อน ประชาชนหลายหมื่นคนร่วมเดินขบวนในกรุงมินสก์ในวันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อต่อต้านผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งผู้ประท้วงกล่าวหาว่าไม่โปร่งใส พร้อมเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลูกาเชนโกลงจากตำแหน่ง Police detain a man…

ฝรั่งเศสเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังมือมีดโจมตีโบสถ์ ตาย 3 ฆ่าตัดคอ 1 ศพ

Loading

ฝรั่งเศสยกระดับการเฝ้าระวังภัยคุกคามสู่ขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุโจมตีใกล้โบสถ์ที่เมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ โดยที่หนึ่งในนั้นถูกฆ่าตัดศีรษะ สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฌ็อง กัสแต็กซ์ แห่งฝรั่งเศส เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 29 ต.ค. 2563 ว่า รัฐบาลยกระดับการเฝ้าระวังภัยคุกคามสู่ขั้นสูงสุดแล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีใกล้โบสถ์ในเมืองนีซ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และหนึ่งในนั้นถูกตัดศีรษะ เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เหตุดังกล่าวนับเป็นการโจมตีในฝรั่งเศสครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน นับตั้งแต่การไต่สวนผู้ต้องหา 14 คน ฐานมีความเกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้ายโจมตีสำนักงานของนิตยสาร ชาร์ลี เอบโด เมื่อปี 2558 ซึ่งมีชนวนเหตุจาก การตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัด โดยชาร์ลี เอบโด ตีพิมพ์ภาพเจ้าปัญหาซ้ำอีกครั้งในวันเริ่มการไต่สวน การโจมตียังเกิดขึ้นในขณะที่กระแสความไม่พอใจในชาติมุสลิมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากกรณีที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ออกมาปกป้องสิทธิการตีพิมพ์การ์ตูนดังกล่าว หลังเกิดเหตุฆ่าตัดคอครู ซามูเอล ปาตี เมื่อ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยประชาชนในชาติมุสลิมหลายประเทศออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อประณามฝรั่งเศสและนายมาครงด้วย เอ็มมานูเอล มาครง…

บึ้มรร.สอนศาสนาปากีสถาน ดับอย่างน้อย7ศพ-บาดเจ็บระนาว

Loading

27 ต.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดที่โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ของปากีสถานวันนี้ (27 ต.ค.) เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ศพ บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 80 คน ตำรวจเมืองเปชวาร์ เมืองเอกของแคว้นไคเบอร์ปักตุนควาเผยว่า มีบุคคลนิรนามนำระเบิดใส่ถุงพลาสติกมาวางไว้ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเผยว่า ได้รับศพผู้เคราะห์ร้าย 7 คน บาดเจ็บ 70 คน ส่วนใหญ่เป็นแผลไหม้จากระเบิด ขณะที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 4 คน ชาวเมืองคนหนึ่งเผยว่า โรงเรียนดังกล่าวสอนผู้ใหญ่เป็นส่วนใหญ่ ขณะเกิดเหตุมีคนกำลังเรียนอยู่เป็นจำนวนมาก ญาติวัย 27 ปีของเขาที่เป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายเล่าว่า ระเบิดดังสนั่นขณะกำลังเรียน นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่านของปากีสถาน ทวีตข้อความแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต หลังเกิดระเบิดในโรงเรียนศาสนาแห่งหนึ่งในเมืองเปชาวาร์ทางภาคเหนือของประเทศเมื่อเช้าวันนี้ มีคนเสียชีวิต 8 ราย มีผู้บาดเจ็บ 123 คน พร้อมกำชับให้ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายโดยเร็ว เหตุระเบิดมีขึ้นขณะเปิดสอนชั่วโมงแรกประจำวันนี้ เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดอ้างความรับผิดชอบ ส่วนสาเหตุของเหตุระเบิด นายวาการ์ อาซีม ตำรวจระดับสูงของเมืองเปชาวาร์ ระบุว่าเบื้องต้น ตำรวจพบระเบิดแสวงเครื่องขนาด 5-6 กก.บรรจุอยู่ในถุงใบหนึ่งที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้ในโรงเรียน ระบุว่า…

อินเดีย – สหรัฐฯ เตรียมลงนามแชร์ข้อมูลสำคัญจากดาวเทียมทางทหาร

Loading

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า อินเดียจะลงนามกับสหรัฐฯ เพื่อแบ่งปันข้อมูลสำคัญจากดาวเทียมทางการทหารระหว่างกัน ขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังจัดการประชุมเจรจาระดับสูงที่กรุงนิวเดลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาร์ค เอสเปอร์ เดินทางไปยังกรุงนิวเดลีในวันจันทร์ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียเรื่องการต้านทานอำนาจทางทหารของจีน ในช่วงที่อินเดียกำลังมีความตึงเครียดกับจีนตรงบริเวณพรมแดนของสองประเทศในแถบเทือกเขาหิมาลัย ก่อนหน้าการเจรจาอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีเอสเปอร์ได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย ราชนาธ ซิงห์ เรื่องข้อตกลงความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลจากดาวเทียมระบุพิกัดทางภูมิศาสตร์ (BECA) ระหว่างกัน ซึ่งพร้อมที่จะลงนามโดยทั้งสองฝ่ายแล้ว ตามการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมอินเดีย ข้อตกลงที่ว่านี้จะทำให้อินเดียสามารถเข้าถึงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการระบุตำแหน่งเป้าหมายสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังอนุญาตให้สหรัฐฯ จัดหาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าด้านการระบุตำแหน่งและการบินเพื่อติดตั้งในเครื่องบินทหารที่สหรัฐฯ ขายให้แก่อินเดียด้วย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 บริษัทอเมริกันได้ขายอาวุธต่าง ๆ ให้แก่อินเดีย เป็นมูลค่ากว่า 21,000 ล้านดอลลาร์ และทั้งสองประเทศยังได้ลงนามในข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ในอุปกรณ์ทางการทหารที่มีความทันสมัยสูงอีกด้วย รัฐมนตรีเอสเปอร์ยังได้แสดงความยินดีที่ออสเตรเลียจะเข้าร่วมในการซ้อมรบทางทะเลบริเวณอ่าวเบงกอลในเดือนหน้า ระหว่าง 3 ประเทศ คือ สหรัฐฯ อินเดีย และญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ จีนได้คัดค้านการซ้อมรบดังกล่าวซึ่งจีนมองว่าเป็นความพยายามต้านทานอิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งอินเดียมีท่าทีโอนอ่อนตามจีนจนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างสองประเทศบริเวณเทือกเขาหิมาลัยเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา —————————————————– ที่มา…