14 เสี่ยง เมื่อ GO ONLINE ช่วง WORK FROM HOME

Loading

14 ความเสี่ยง จากการทำ ที่ควรระวัง ช่วง WORK FROM HOME มีอะไรบ้าง     1. การปลอมแปลงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพราะมีคนขโมย Username และ Password ดังนั้น ไม่ควรบอก Username หรือ Password กับใคร ห้ามเขียนไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือจุดที่ใครเห็นได้ และไม่กรอกข้อมูลเหล่านี้กับลิงก์แปลก ๆ ที่ส่งเข้ามาขอ 2. ไฟล์เอกสารสูญหาย แต่จริง ๆ แล้ว มันอาจไม่หายไปไหน อาจจะเก็บไว้ในหลายที่ แต่หาไม่เจอ ปัญหาอาจจะอยู่ที่การจัดเก็บไฟล์มากกว่า 3. e-Document/e-Signature แม้ปลอมแปลง/แก้ไขได้ยาก โดยคนที่ทำเช่นนี้ได้ ต้องเป็นที่ชำนาญด้านนี้โดยเฉพาะ แต่ความเสี่ยงคืออาชญากรอาจสามารถพัฒนารูปแบบการคุกคามที่เพิ่มขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งควรต้องมีมาตรการป้องกันรัดกุม 4. การใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน หรือ Wi-Fi อาจไม่ปลอดภัย ควรใช้ VPN เมื่อเข้าใช้งานทรัพยากรเครือข่ายของสำนักงานจากภายนอก       5.…

“เหยียดคนเอเชีย” จากความกลัวสู่ความเกลียดชัง ปัญหาเรื้อรังรุนแรงในสหรัฐฯ

Loading

  ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายชุมชนในสหรัฐฯ มีข่าวเหตุรุนแรงพุ่งเป้าโจมตีคนเชื้อสายเอเชียเพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการปล้นชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะเหยื่อผู้เสียหายที่เป็นผู้สูงอายุ ขณะที่ตลอดทั้งปีที่แล้ว (มี.ค.-ธ.ค.2563) มีสถิติการแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย 2,808 ราย ข่าวการถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตของ นายวิชา รัตนภักดี ผู้ที่มีเชื้อสายไทย วัย 84 ปี ในนครซานฟรานซิสโก เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดกระแสการเคลื่อนไหวทั้งจากภาครัฐและชุมชนคนไทยในสหรัฐฯ และทำให้ทั่วโลกหันมาสนใจปมปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคนเชื้อสายเอเชีย เครือข่ายสังคมออนไลน์ร่วมกันออกมาแชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับคนเชื้อสายเอเชียผ่านอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ พร้อมรณรงค์ผ่านแฮชแท็ก #AsiansAreHuman และ #JusticeForVicha เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมด้านสิทธิมนุษยชน และต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ   กรณีที่เกิดขึ้นกับคุณปู่วิชา รัตนภักดี ไม่ได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่คนเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก (Asian American and Pacific Islander-AAPI) ตกเป็นเหยื่อถูกทำร้าย ที่เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม วัย 64 ปี ถูกทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ไปเป็นเงินกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนที่นิวยอร์ก หญิงชราชาวอเมริกันเชื้อสายฟิลิปปินส์ วัย 61…

ขบวนรถยูเอ็นโดนโจมตี ‘ทูตอิตาลี’ ตายในคองโก

Loading

ขบวนรถยูเอ็นโดนโจมตี ‘ทูตอิตาลี’ ตายในคองโก     นายลูก้า อัตตานาซิโอ เอกอัครราชทูตอิตาลีประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เสียชีวิตหลังจากขบวนรถถูกโจมตี ในพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ กระทรวงต่างประเทศอิตาลีระบุว่าเอกอัครราชทูตวัย 43 ปีผู้นี้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากขบวนรถของสหประชาชาติที่เขาเดินทางไปด้วยถูกคนร้ายโจมตี รายงานข่าวระบุว่าขบวนรถดังกล่าวเป็นของโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ โดยนอกเหนือจากเอกอัครราชทูตอิตาลีแล้วยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวอิตาลี รวมถึงคนขับรถชาวคองโกเสียชีวิตด้วย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชื่อว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามที่จะลักพาตัว โดยขบวนรถ 2 คันถูกโจมตีจากผู้ก่อเหตุ 6 คน ซึ่งได้นำตัวผู้ที่ถูกจับกุม 6 คนเข้าไปในอุทยานแห่งชาติวีรุงกา เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติวีรุงกาซึ่งกำลังตรวจตราท้องที่ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือและทำให้ผู้ที่ถูกจับกุม 4 คนได้รับอิสระ อย่างไรก็ดีมือปืนได้ยิงเอกอัครราชทูตพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขา ขณะที่คนขับรถชาวคองโกถูกสังหารตั้งแต่ต้น และยังมีรายงานว่าผู้ร่วมเดินทางคนอื่น ๆ ได้รับบาดเจ็บ โครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติระบุว่า เอกอัครราชทูตอัตตานาซิโอ เดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเยี่ยมชมโครงการโรงเรียนภายในหมู่บ้าน ขณะที่การโจมตีเกิดขึ้นบนถนนที่มีการเคลียร์ทางว่าปลอดภัยสำหรับการเดินทางไว้ล่วงหน้า แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่วมทางไปด้วย   ——————————————————————————————————————————————————— ที่มา : มติชนออนไลน์    / วันที่เผยแพร่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 Link : https://www.matichon.co.th/foreign/news_2592069

รมว.มหาดไทยลิเบีย หวิดดับลอบสังหาร

Loading

  เมื่อ 21 ก.พ. นายฟาธี บาชาการ์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยลิเบีย ผู้ทรงอิทธิพลในรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ (GNA) รอดชีวิตหวุดหวิดจากความพยายามลอบสังหาร หลังขบวนรถของบาชาการ์ถูกคนร้ายที่นั่งบนรถติดอาวุธยิงเข้าใส่ขณะขับรถมุ่งหน้ากลับที่พักบริเวณถนนริมฝั่งทะเลใกล้เมืองจานซูร์ ขอบฝั่งตะวันออกของกรุงตริโปลี ราวช่วงบ่าย 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้การ์ดของบาชาการ์เสียชีวิต 1 ราย คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ไล่ตามจับได้ 2 คน หนึ่งในนั้น มีหมายจับจากตำรวจ ทั้งนี้ เหตุลอบสังหารบาชาการ์เกิดขึ้นก่อนไม่กี่วันที่จะครบรอบ 10 ปีโค่นอำนาจอดีตจอมเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ก็ทำให้หลายประเทศ รวมสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) ทูตพิเศษยูเอ็นในลิเบีย และอิตาลี ต่างกังวลว่าอาจทำให้ความพยายามให้เกิดสันติภาพในลิเบียมีอุปสรรค เป็นภัยต่อเสถียรภาพในประเทศ จึงเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเต็มที่.   —————————————————————————————————————————————————————– ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์    / วันที่เผยแพร่  23 ก.พ. 2564 Link :…

บังคับใช้แล้ว! มีใบขับขี่ “รถรับจ้างสาธารณะ” ต้องถูกตรวจสอบประวัติอาชญากร

Loading

  กรมการขนส่งทางบกออกระเบียบใหม่ ให้ผู้ที่ขอมีใบขับขี่ และต่ออายุใบขับขี่รถรับจ้างสาธารณะ ทั้งรถยนต์ สามล้อ มอไซค์รับจ้าง ต้องถูกตรวจสอบประวัติอาชญากรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถและบัตรประจำตัวคนขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2554 ระเบียบฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ระบบการเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากรยังไม่สมบูรณ์ ส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์สามล้อสาธารณะและรถจักรยานยนต์สาธารณะเกิดความล่าช้า ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชน และเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นไปในแนวทางเดียวกัน สมควรปรับปรุงระเบียบดังกล่าวเสียใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก จึงออกระเบียบให้ การขอรับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ให้ดำเนินการตรวจสอบประวัติอาชญากร โดยมีหนังสือตรวจสอบไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกรณีการต่ออายุใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ให้ดำเนินการตรวจสอบประวัติอาชญากร โดยมีหนังสือตรวจสอบไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกัน สำหรับบรรดาระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่มีไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือขัดหรือแย้งกับที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป   —————————————————————————————————————————————————–…

ผุด Clubhouse ปลอมบน Play Store เสี่ยงโดนขโมยข้อมูล

Loading

หลังจากที่แอป Clubhouse กลายเป็นกระแสทั่วโลกซึ่งสามารถใช้งานได้เฉพาะบน iOS เท่านั้น ทำให้เกิดแอปปลอมขึ้นมาหลายแอปใน Play Store ขึ้นหลายแอป จนผู้เชี่ยวชาญต้องออกมาเตือนให้ระวังการหลอกขโมยข้อมูล ล่าสุดทาง นายเดนิส เลเกโซ ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ แคสเปอร์สกี้ ได้ออมาเตือนถึงความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานแอปพลิเคชั่น Clubhouse ว่า “ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยนั้นมีสองประเด็นหลักคือ การขายคำเชิญและแอปพลิเคชันปลอม ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดจากความต้องการของผู้ไม่หวังดีที่จะใช้ประโยชน์จากความสนใจของผู้ใช้ในแพลตฟอร์มโซเชียลใหม่นี้     การขายคำเชิญเป็นเพียงการสร้างรายได้ในระดับเล็กๆ แต่แอปพลิเคชันปลอมนั้นร้ายแรงกว่า ผู้โจมตีสามารถกระจายโค้ดที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่ในรูปของซอฟต์แวร์ยอดนิยมอย่างแอปพลิชัน Clubhouse สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นปลอม แอปพลิเคชั่นปลอมสามารถทำสิ่งที่ผู้ใช้อนุญาตให้ทำได้ตามการตั้งค่าความปลอดภัยของแอนดรอยด์ เช่น การระบุตำแหน่งที่อยู่ของอุปกรณ์ การบันทึกเสียงและวิดีโอ การเข้าถึงแอปข้อความ ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคนิคที่ผิดปกติเพิ่มเติมได้ ตัวอย่างเช่น หากผู้โจมตีใช้ความสามารถในการบันทึกเสียงและอนุญาตให้ใช้ฟังก์ชันนี้ในอุปกรณ์ได้ ก็จะสามารถใช้การบันทึกเสียงคุณภาพสูงเพื่อฝึกอัลกอริทึมของเครื่อง เพื่อสร้างการปลอมแปลงหรือ deep fake ที่ซับซ้อนมากขึ้น วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความปลอดภัย คือไตร่ตรองอย่างระมัดระวังทุกครั้งที่ดาวน์โหลด และรักษาการตั้งค่าความปลอดภัยที่เหมาะสมบนสมาร์ทโฟน” ส่วนทางผู้พัฒนาแอป Clubhouse เองก็กำลังพัฒนาแอปเวอร์ชันแอนดรอยด์อยู่ คาดว่าน่าจะปล่อยให้ใช้งานได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อดใจรอกันแป๊บนึงได้ใช้งานแน่นอน ———————————————————————————————————————————————— ที่มา : Dailygizmo /…